แนวคิดคน GEN 2 ‘ศรีปรีชาโฮลดิ้ง’ นำความรู้ด้านวิศวกรรม ต่อยอด Family Business จำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร
คุณธีรพงศ์ ตันติศรีปรีชา ทายาทธุรกิจรุ่น 2 ห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีปรีชาโฮลดิ้ง ผู้แทนจำหน่ายแทรกเตอร์ เครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อการเกษตร กล่าวว่า ศรีปรีชาโฮลดิ้ง เป็นธุรกิจครอบครัว ทำธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่ายแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลเพื่อการเกษตรภายใต้แบรนด์ ‘ยันม่าร์’ (YANMAR) ปัจจุบันอายุ 24 ปี เรียบจบด้านวิศวกรรมไฟฟ้าคอมพิวเตอร์ งานชิ้นแรกในฐานะตัวแทนของครอบครัว คือการนำความรู้ด้านวิศวกรรมนำมาประยุกต์ใช้เพื่อต่อยอดธุรกิจ

สำหรับสินค้าที่ขายภายใต้แบรนด์ ‘ยันม่าร์’ อาทิ แทรกเตอร์ รถเกี่ยวนวดข้าว รถไถนาเดินตาม และเครื่องจักรกลเพื่อการเกษตรอื่น ๆ ครอบคลุมสาขาให้บริการใน 3 จังหวัดภาคอีสานตอนบน คือ เลย หนองบัวลำภู และหนองคาย เป้าหมายธุรกิจในช่วงก่อนนี้ คือการมุ่งขยายการบริการให้ครอบคลุมเพื่อดูแลลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

คุณธีรพงศ์ เผยว่า เรามีลูกค้าที่มี Loyalty กับบริษัท บางรายเป็นลูกค้าเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ คุณแม่ ซึ่งท่านทั้งสองมองว่าลูกค้า คือ ‘ครอบครัว’ จึงเน้นการบริการที่ดีที่สุด ทำให้ลูกค้าซึ่งเป็นเกษตรกรในพื้นที่ไว้วางใจ นี่คือจุดแข็งสำคัญของธุรกิจเรา
นอกจากนี้ โดยปกติเครื่องจักรกลทางการเกษตร เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งจะต้องมีการซ่อมบำรุงรักษา ดังนั้น งานของเราในฐานะที่เป็นผู้แทนจำหน่าย จึงต้องมีบริการหลังการขายที่ดีด้วย

Key Success เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า
ด้วย ‘จุดแข็ง’ ของธุรกิจที่สั่งสมมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ บริษัทฯ จึงลงทุนพัฒนาโรงงานผลิตให้สามารถผลิตเครื่องจักร และอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ใช้กับเครื่องจักรกลเพื่อการเกษตร เพื่อพัฒนาการให้บริการแก่เกษตรกรในพื้นที่อย่างเหมาะสม และครอบคลุมความต้องการของการใช้งานที่แตกต่างกันได้ ตามสภาพของพื้นที่เพาะปลูก ต่อยอดธุรกิจจากพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า
ด้วยเหตุนี้ จึงต้องลงพื้นที่สอบถามถึงความต้องการเพื่อนำ ‘ข้อมูล’ มาพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น

ตัวอย่างเช่น สภาพดินของแปลงเกษตร เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้แทรกเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อปรับปรุงพื้นที่อย่างเหมาะสม ดังนั้น จะเห็นว่า กลยุทธ์การพัฒนาต่อจากนี้ คือ มุ่งเจาะตลาดเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อการเกษตรที่เฉพาะเจาะจง และขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดใหม่ ๆ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

เริ่มจากขาย สู่การผลิต ตอบโจทย์ลูกค้า
อุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อการเกษตรที่ใช้สำหรับแทรกเตอร์ ที่ ศรีปรีชาโฮลดิ้ง ผลิต ปัจจุบัน มีตั้งแต่ ผานพรวน ผานไถ และที่กำลังวิจัยและพัฒนาอยู่ คือ ‘เครื่องสางใบอ้อย’ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรชาวไร่อ้อย สามารถลดการเผา ลดปัญหาควันไฟที่เป็นมลพิษได้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้

การวิจัยและพัฒนาเครื่องสางใบอ้อยของ ศรีปรีชาโฮลดิ้ง เนื่องจากได้มีโอกาสเป็น ‘คู่ค้า’ กับโรงงานผลิตน้ำตาลกลุ่มมิตรผล โดยได้ไปเรียนรู้ที่ มิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม (MITR PHOL MODERNFARM) ทำให้เห็นนวัตกรรมด้านการบริหารการจัดการไร่อ้อยยุคใหม่
โดยนำเครื่องจักรและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการปลูกอ้อยเพื่อเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนแรงงานในภาคเกษตร จนนำไปสู่การพัฒนาเครื่องสางใบอ้อย จุดเด่นคือสามารถสางใบอ้อยได้สะอาดหมดจด
ไม่ทำลายตาข้ออ้อยที่ใช้ปลูกรอบต่อไป ทั้งยังกวาด กองไว้กลางร่องปลูกได้ ทำให้จัดการวัสดุเหลือทิ้งภายหลังเก็บเกี่ยวได้ง่าย ตอบโจทย์การใช้งานเป็นอย่างดี

หา Partner สร้าง Ecosystem
คุณธีรพงศ์ กล่าวถึงข้อดีของการเป็นคู่ค้ากับกลุ่มมิตรผลว่า ทำให้มีโอกาสเก็บเกี่ยวข้อมูลในชุมนุมชาวไร่อ้อยมากขึ้น จากการพบปะและพูดคุยกับเกษตรกร ที่กลุ่มมิตรผลจัดขึ้นเป็นประจำตามจังหวัดต่าง ๆ
เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการปลูกอ้อยแบบเกษตรสมัยใหม่ การจัดการฟาร์มเพื่อเพิ่มผลผลิต และการใช้งานเครื่องจักรกลเพื่อการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเครื่องสางใบอ้อย
ตลอดจนเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่อพ่วงทางการเกษตรได้อย่างตรงจุด ทั้งมองว่า ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างคู่ค้าไม่เพียงเฉพาะด้านธุรกิจ แต่ยังเป็นการพัฒนาด้านเกษตรที่สามารถผลิตเครื่องจักรที่ช่วยลดต้นทุนและยกระดับคุณภาพสินค้าของเกษตรกรได้อีกด้วย

คุณธีรพงศ์ ยอมรับว่า เมื่อย้อนดูสินค้าของ ศรีปรีชาโฮลดิ้ง แม้จะบอกว่ามีการพัฒนาได้มากพอสมควร แต่ยังเป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้งานลักษณะทั่วไปเท่านั้น ขณะที่การใช้งานของเครื่องจักรและอุปกรณ์ในไร่อ้อย มีโอกาสพัฒนาได้อีกมากในอนาคต
จึงเป็นโจทย์ที่ ศรีปรีชาโฮลดิ้ง ต้องทำความเข้าใจเพื่อนำไปพัฒนาสินค้าให้เหมาะสม ภายใต้ปัจจัยที่หลากหลายในไร่อ้อย นี่คือกลยุทธ์สำคัญที่จะให้ ศรีปรีชาโฮลดิ้ง เดินหน้าธุรกิจต่อไปได้

นอกจากนั้น การติดตามคู่ค้าไปพบปะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ยังเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ดี รวมทั้งการวางแผนเข้าร่วมเป็นคู่ค้ากับโรงงานผู้ผลิตน้ำตาลในพื้นที่ อย่าง โรงงานน้ำตาลกลุ่มมิตรผล เป็นโอกาสในการนำสินค้าไปแนะนำให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยที่จะเป็นตลาดใหม่ในอนาคต

ต่อยอดตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วง
ปัจจุบันความต้องการกลุ่มเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ใช้ในการเกษตร มีความต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยบริบทของเกษตรกรไทยที่เริ่มปรับเปลี่ยนสู่การทำเกษตรสมัยใหม่
ดังนั้น ความต้องการในตลาดจึงมีทิศทางเติบโตอย่างน่าสนใจ เพราะสามารถต่อยอดไปสู่บริการด้านอะไหล่ การซ่อมบำรุง และบริการหลังการขาย ในกลุ่มสินค้าดังกล่าวด้วย ศรีปรีชาโฮลดิ้ง จึงเน้นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดภาคอีสานตอนบน คือ อ้อย ข้าว และมันสำปะหลัง เนื่องจากมองว่าเป็นตลาดที่มีอนาคตสดใส

มุ่งพัฒนาสินค้าตอบสนองตลาดเฉพาะกลุ่มมากขึ้น
ล่าสุด โรงงานของ ศรีปรีชาโฮลดิ้ง กำลังศึกษาพัฒนาเครื่องจักรที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น เครื่องหยอดปุ๋ยที่ใช้กับแทรกเตอร์ หรือเครื่องจักรขนาดใหญ่ภายใต้แบรนด์ ‘ยันมาร์’ ที่เป็นดีลเลอร์ โดยทำแบบเดียวกับสินค้าเรือธงคือ เครื่องสางใบอ้อย ที่ปัจจุบันรองรับความต้องการของลูกค้าไร่อ้อยได้ทุกขนาด
ซึ่ง เครื่องหยอดปุ๋ยจะเป็นสินค้าที่สร้างโอกาสทางธุรกิจ และรองรับการใช้งานผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่ของ ‘ยันมาร์’ เพิ่มขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แม้การแข่งขันของธุรกิจ จะมีแบรนด์ผู้ผลิตในท้องถิ่น และแบรนด์นำเข้าหลาย ๆ ราย เริ่มทำตลาดกลุ่มอุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อการเกษตร ทั้งขนาดเล็ก กลางและใหญ่ แต่สุดท้าย ลูกค้าจะเป็นผู้เลือกสิ่งที่เหมาะสมสำหรับเขาได้
ดังนั้น การแข่งขันในตลาดนี้ต้องเน้นพัฒนาขีดความสามารถในการตอบสนองความต้องการเฉพาะเจาะจงของเกษตรกรที่หันมาทำเกษตรสมัยใหม่ได้

เน้นบริการหลังการขาย
คุณธีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ศรีปรีชาโฮลดิ้ง ยังมุ่งเน้นการให้บริการหลังการขายที่เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าแบบเชิงรุก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ซึ่งเป็นแนวทางที่ยึดมั่นมาตั้งแต่เริ่มต้น
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการติดต่อสอบถามไปยังลูกค้าอยู่เสมอ ถึงความต้องการหลังการขาย เช่น การบริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ให้พร้อมต่อการนำไปใช้งาน และคงสภาพการใช้งานของเครื่องอย่างคุ้มค่า คุ้มราคามากที่สุด
โดยที่ผ่านมา มีการบริหารจัดการด้านการบริการซ่อมและบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) อาทิ การจัดรถโมบายล์เซอร์วิส เข้าไปยังชุมชนหรือพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้บริการลูกค้านอกสถานที่ ในช่วงก่อนฤดูเก็บเกี่ยว
ซึ่งช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรได้ไม่น้อย สิ่งนี้หากมองระยะยาว จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างมากในด้านความเชื่อมั่น ประกอบกับการพัฒนากลยุทธ์การตลาดเพื่อให้บริการลูกค้าอย่างเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น นำไปสู่การขยายลูกค้าใหม่ ๆ ได้อีกมาก

Family business พ่อแม่สร้าง ลูก ‘สานต่อ’
คุณธีรพงศ์ สะท้อนมุมมองว่า การต่อยอดธุรกิจครอบครัวไม่ใช่เรื่องยากหรือง่าย แต่ความคุ้นเคยที่ได้ติดตามคุณพ่อ คุณแม่ ลงพื้นที่ ทำงานใกล้ชิดกับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าอยู่บ่อย ๆ จึงได้เรียนรู้และเริ่มชอบในที่สุด พอได้ลงมือทำจริง ก็เกิดใจรักในงานด้านนี้
ซึ่งตนเป็นGen 2 ที่สานต่อธุรกิจครอบครัว โชคดีที่ครอบครัวมีแนวคิดทันสมัย จึงไม่เกิดช่องว่างระหว่างเจนเนอเรชัน ซึ่งเป็นอุปสรรคในการต่อยอดธุรกิจครอบครัว แต่อย่างใด

ด้านการดูแลพนักงาน และเพื่อนร่วมงาน เราแสดงออกให้ทุกคนเห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจ เพื่อผลักดันให้ธุรกิจและพนักงานทุกคนเติบโตไปพร้อม ๆ กับเรา ซึ่งจังหวัดเลย นับเป็นพื้นที่ขาดแคลนแรงงานอยู่พอสมควร
ดังนั้น อีกหนึ่งเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ คือต้องการยกระดับบุคลากรให้มีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น มีรายได้มั่นคง ได้อยู่ร่วมกับครอบครัวโดยไม่ต้องไปหางานในพื้นที่อื่น รวมถึงได้ร่วมมือกับศูนย์การเรียนรู้ จัดฝึกอบรมช่างเทคนิคในโรงงาน เชื่อว่าแรงงานฝีมือกลุ่มนี้ จะเป็นแรงงานฝีมือของธุรกิจเราในอนาคต
ติดตามเพิ่มเติมที่ :