‘พัฒนาคน ผสานเทคโนโลยี’ แนวคิดเพิ่ม Productivity ของ ‘TGG’ ผู้ผลิตท่อและอุปกรณ์ HDPE คุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนของสังคม
SME in Focus จะนำทุกท่านไปรู้จักกับ บริษัท ไทยก้าวไกลกรุ๊ป จำกัด หรือ “TGG” ผู้ผลิตและจำหน่าย ท่อและอุปกรณ์ HDPE และแผ่นปูพื้น PE sheet (HDPE Geomembrane) ชั้นนำของไทย ที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสาธารณูปโภค การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบประปา ไฟฟ้า โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และระบบน้ำในภาคเกษตร ภายใต้แบรนด์ ‘TGG’
คุณณิชมน ตั้งจริยา ทายาทธุรกิจรุ่น 2 หนึ่งในทีมบริหารของ บริษัท ไทยก้าวไกลกรุ๊ป จำกัด เล่าว่า ครอบครัวของเธอเริ่มต้นธุรกิจในปี 2516 โดยมีคุณมานะ ตั้งจริยา และคุณประภาส ตั้งจริยา เป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจเกี่ยวกับพลาสติก โดยเริ่มต้นจากการผลิตสายยาง และ รองเท้าบู๊ท

จนในปี 2537 จึงได้ขยายธุรกิจมาผลิตท่อและอุปกรณ์ HDPE (High Density Polyethylene) เพราะมองเห็นศักยภาพของ HDPE ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรงสูงและเป็นหนึ่งในวัสดุพลาสติกวิศวกรรม (Engineering Plastic) ที่ใช้งานได้หลากหลาย มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงมองว่าจะเป็นวัตถุดิบตั้งต้นที่สามารถผลิตเป็นสินค้าคุณภาพสูงตอบโจทย์ตลาดในระยะยาว


ทำไมต้องท่อ HDPE
คุณณิชมน อธิบายถึงคุณสมบัติของท่อว่าใช้เป็นวัสดุ HDPE (High Density Polyethylene) ที่มีความยืดหยุ่นและมีความแข็งแรงสูง สามารถรับแรงดันได้ดี รวมทั้งคุณสมบัติที่ปลอดภัยไม่ปนเปื้อนกับสิ่งแวดล้อม จึงเหมาะจะนำมาผลิตเป็นท่อที่ใช้สำหรับการอุปโภคและบริโภค
โดยเฉพาะการขนส่งน้ำดิบ และการส่งน้ำประปาไปยังครัวเรือน โดยท่อส่งน้ำจะมีลักษณะเป็นท่อสีดำล้วน สีฟ้า หรือเป็นสีดำคาดฟ้า และยังสามารถนำไปใช้งานลักษณะอื่น ๆ ได้ดี เช่น เป็นท่อร้อยสายไฟและสายเคเบิ้ล
ซึ่งเป็นท่อคาดสีส้มที่สามารถพบเห็นได้ในโครงการย้ายสายไฟลงดิน ที่มีการขุดเพื่อเปิดหน้าดินบางส่วน แล้วใช้วิธีการ HDD (Horizontal Directional Drilling) เพื่อเดินสายไฟใต้ดินในระยะทางที่ยาวโดยไม่จำเป็นต้องขุดเปิดหน้าดิน ลดปัญหาด้านการจราจรได้เป็นอย่างดี

นอกเหนือจากนั้น ทางบริษัทฯ ก็ได้มีการผลิตท่อน้ำสำหรับภาคเกษตรด้วย เป็นท่อ LDPE (Low Density Polyethylene) มีความทนทาน แข็งแรง ทนทานต่อสารเคมีและสภาพแวดล้อม สามารถโค้งงอได้ ไม่แตกหัก อายุการใช้งานยาวนาน ทำให้ประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งในการติดตั้งและการขนส่ง และลดปัญหาแรงงานในภาพรวม

กระนั้น เมื่อเทียบกับท่อ PVC หรือท่อฟ้าที่พบเห็นได้ทั่วไปแล้วนั้น ท่อ HDPE ดูเหมือนสินค้าใหม่ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ท่อ HDPE มีการนำมาใช้ในงานอย่างกว้างขวางเป็นระยะเวลานาน และมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 50 ปี ที่สำคัญ และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
โดยที่ผ่านมามีผู้เล่นเข้ามาในตลาดท่อ HDPE เยอะมาก แต่ด้วยกลยุทธ์ของ TGG ที่มีแนวคิดมุ่งเน้นผลิตสินค้าคุณภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจแก่ลูกค้าในระยะยาว ด้วยเหตุนี้ เราจึงพิถีพิถันตั้งแต่กระบวนการคัดสรรวัตถุดิบจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน ควบคุมกระบวนการผลิตอย่างเข้มงวด และมีทีมงานคอยตรวจสอบทั้งระหว่างการผลิตและสินค้าสำเร็จรูป เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจทุกครั้งที่นำสินค้าของเราไปใช้

การตลาดแบบ B2B (Business-to-Business)
คุณณิชมน กล่าวถึงการทำการตลาดว่า สินค้า TGG จะเกี่ยวข้องกับด้านสาธารณูปโภค ระบบโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ต่าง ๆ ดังนั้นการตลาดของธุรกิจจึงเป็นไปในลักษณะ B2B ซึ่งจะเน้นความรู้เชิงลึกทางวิศวกรรมและการออกแบบตามข้อจำกัดต่างๆของลูกค้า จึงเน้นการอบรม ให้ความรู้ รวมถึงไปร่วมพัฒนาโครงการต่าง ๆ กับลูกค้าเป็นหลัก
เพื่อมุ่งเน้นการตอบโจทย์ด้านการพัฒนาสาธารณูปโภคให้ดียิ่งขึ้น จึงได้มีการย้ายจากโรงงานแห่งเดิมที่ถนนพระราม 2 กทม. มายังที่ตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่จังหวัดปทุมธานี บนเนื้อที่ประมาณ 125 ไร่ ในปี 2551 ซึ่งสามารถขยายพื้นที่ในการจัดเก็บสต็อกสินค้าและเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจ ดูแลพนักงาน และให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พัฒนาฟังชันก์ ท่อ HDPE ตอบโจทย์การใช้งานลูกค้า
การพัฒนาองค์ความรู้ และกระบวนการทางวิศวกรรมการผลิต คุณณิชมน กล่าวว่า TGG มีทีมวิศวกรรมในการช่วยสนับสนุนลูกค้าด้านข้อมูลทางวิชาการ และด้านการคิดค้นและพัฒนาสินค้า
โดยส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากการใช้งานจริงของลูกค้า เพื่อนำไปปรับปรุงหรือพัฒนาให้สามารถตอบโจทย์ตรงความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น อาทิ พัฒนาฟังก์ชันการใช้งานของท่อ HDPE ในด้านประสิทธิภาพในการใช้งานหรือการออกแบบอุปกรณ์บางชนิดเพื่อให้มีความเหมาะสมกับข้อจำกัดหน้างาน
นำ IoT เพิ่ม Productivity ไลน์การผลิต
ปัจจุบันเป็นยุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ทั้งตลาดผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้า HDPE มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีออโตเมชัน ที่สามารถนำมาปรับปรุง ช่วยเพิ่ม Productivity ของโรงงานผลิตได้
ดังนั้นกลยุทธ์การเติบโตของ TGG เพื่อก้าวทันยุคสมัยที่อุตสาหกรรมมีการปรับเปลี่ยนจากการขาดแคลนแรงงานคนไปสู่ระบบอัตโนมัติที่เทคโนโลยีมีบทบาทในการผลิตมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อไป
รวมถึงการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเรียนรู้และสร้างความภาคภูมิใจให้ทีมงาน อาทิ การเข้าร่วมโครงการแข่งขัน Smart Factory IoT Challenge 2020 ที่จัดโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) โดย TGG ได้ร่วมกับ ทีม Pied Piper จากมหาวิทยาลัยนเรศวร นำเสนอผลงาน Smart Cooling Tower System Development using uRTU and NETPIE และได้รางวัลชนะเลิศ

“อธิบายคร่าว ๆ ได้ว่า กระบวนการผลิตท่อ HDPE ใช้ความร้อนในการขึ้นรูป และนำไปหล่อเย็นด้วยน้ำในอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดความแข็งแรง หรือคุณสมบัติตามที่ต้องการ ดังนั้น ‘อุณหภูมิน้ำที่เหมาะสม’ จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งในกระบวนการหล่อเย็นแบบเดิมจะต้องมีวิศวกรที่ชำนาญงานควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด”
ขณะที่ผลงาน Smart Cooling Tower System Development using uRTU and NETPIE โดยทีมวิศวกรของTGG ที่ได้พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นการนำเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ไปประมวลผล ควบคุมอุณหภูมิของ Cooling Tower โดยเชื่อมต่อข้อมูลทั้งหมดเข้าระบบคลาวด์ (Cloud) ทำให้วิศวกรสามารถตรวจสอบข้อมูลระบบหล่อเย็นผ่านสมาร์ทโฟนได้แบบเรียลไทม์ โดยไม่จำเป็นต้องอยู่หน้าไลน์การผลิต
นวัตกรรมดังกล่าว ไม่เพียงลดต้นทุนการใช้แรงงานในโรงงานได้เท่านั้น แต่ยังสามารถลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก และความผิดพลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีข้อดีที่เห็นได้ชัดเจน คือ ประหยัดพลังงาน เป็นเทคโนโลยีที่สามารถแก้ Pain Point ของโรงงานได้เป็นอย่างดี
รวมถึงระบบออโตเมชั่นของโรงงานที่นำมาใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในโรงงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มี Productivity สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็พัฒนาฝีมือแรงงานของบุคลากรเพื่อเพิ่มทักษะการทำงานไปพร้อม กันด้วย เพราะมองว่าอุตสาหกรรมยังต้องประกอบด้วยแรงงานคน ถือเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาคุณภาพสินค้าเรา
ตลอดจนการนำระบบ ERP คือซอฟท์แวร์สำหรับการวางแผนการจัดการ โดยรวมข้อมูลทุกอย่างบันทึกไว้ใน Database หลัก ทำให้บริษัทสามารถบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น
Upskill And Reskill ตอบโจทย์การผลิตสมัยใหม่
คุณณิชมน กล่าวว่า ปัจจุบัน ธุรกิจของ TGG กำลังอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยน โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และองค์ความรู้ใหม่ ๆ มาปรับใช้เพื่อการพัฒนาธุรกิจ เพื่อให้การบริหารจัดการมีความแม่นยำมากขึ้น โดยระบบออโตเมชัน สามารถลดความผิดพลาด ลดการสูญเสีย รวมถึงลดเวลาทำงาน และลดแรงงานลงได้ ทำให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการกำลังคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิศวกรของบริษัทฯ สามารถนำเวลาส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นได้อีกมาก

คุณณิชมน มองว่า การคิดค้นและพัฒนาเครื่องจักรเพื่อเพิ่มศักยภาพกระบวนการผลิตในโรงงานหรือพัฒนาคุณภาพของสินค้า เป็นการปรับเปลี่ยนที่ต้องค่อย ๆ ปรับ ทำไปทีละขั้นตอน และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในแต่ละโปรเจคของลูกค้า และเชื่อมั่นว่าการ Upskill และ Reskill ให้บุคลากรจะทำให้องค์กรเติบโตควบคู่ไปกับการพัฒนาธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรในบางส่วน เพื่อให้ได้ Productivity ที่ดียิ่งขึ้น อาจมีทำให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานรู้สึกไม่คุ้นเคยและไม่เข้าใจ เราจึงต้องอธิบายถึงข้อดี ประโยชน์ที่เขาจะได้รับ และส่งผลดีในการทำงานของเขาอย่างไร ทุกกระบวนการและความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ จะต้องมีการสื่อสารกับพนักงานอย่างทั่วถึง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและมีเป้าหมายเดียวกัน คือการพัฒนาพนักงานให้เติบโตไปพร้อม ๆ กับองค์กรของเรา”
นอกจากการพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพดีแล้ว เราต้องดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เริ่มจากกำหนดนโยบายองค์กรที่เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ยึดหลักธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติตามนโยบายของบุคลากรในทุกระดับ
ส่งผลให้ได้รับรางวัลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม คือ รางวัลสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม ในงาน “Thailand Industry Expo 2018” ประจำปี พ.ศ.2560-2561 ที่จัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติให้กับสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การประเมินการมีธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมที่ดี และการได้รับมาตรฐานระบบจัดการสิ่งแวดล้อม ISO14001 ก็เป็นตัวการันตีถึงความมุ่งมั่นขององค์กรได้เป็นอย่างดี

ต่อยอดตลาด HDPE Sheet
คุณณิชมน สะท้อนภาพว่า แม้ TGG จะเป็นผู้ผลิตท่อ HDPE ที่รับงานโปรเจคขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน แต่เรายังมองหาโอกาสในการขยายตลาด HDPE Sheet หรือ HDPE Geomembrane ที่เหมาะจะนำไปใช้ในงานอ่างเก็บน้ำ ระบบชลประทาน การจัดการน้ำสำหรับชุมชนและภาคเกษตร การบำบัดน้ำเสีย บ่อก๊าซชีวภาพ (Bio Gas) เหมืองแร่ การจัดการของเสียอันตราย ซับในอุโมงค์ ซับคอนกรีต และ บ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งมองว่ากำลังเป็นตลาดที่น่าสนใจในปัจจุบัน

TGG มองว่า ปัญหาการขาดแคลนน้ำกำลังเป็นวิกฤตในประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีความจำเป็นต้องใช้น้ำปริมาณมหาศาลในแต่ละปีเพื่อการเพาะปลูก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ได้เผชิญกับความไม่แน่นอนด้านวิกฤตภัยแล้ง
ซึ่งแผ่นปูนี้จะช่วยเหลือเกษตรกรในการบริหารจัดการ และลดน้ำสูญเสียได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกที่ห่างไกลบางพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะเป็นดินปนทราย ไม่อุ้มน้ำ และเกษตรกรยังสามารถนำไปใช้งานเพื่อเพิ่มมูลค่าในฟาร์ม เช่นการทำบ่อก๊าซชีวิภาพ
โดยก๊าซที่ได้ จะสามารถนำไปให้ความร้อนในการทำอาหารสัตว์ เข้า generator เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และกากที่ได้ ก็สามารถนำไปเป็นปุ๋ยในการเพาะปลูกได้อีกอย่างหนึ่ง


อย่างไรก็ดี ด้วยรูปแบบการตลาดของ TGG ยังคงเป็นแบบ B2B การโฟกัสตลาดจึงมุ่งเน้นงานโปรเจครัฐ และโครงการก่อสร้างขอภาคเอกชนรายใหญ่เป็นหลัก ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจในบทบาทของการเป็นผู้ผลิตสินค้าที่ถูกนำไปปรับปรุงและพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน และอีกหนึ่งความภูมิใจของ TGG คือผลิตภัณฑ์ของเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืน
ติดตามข้อมูล บริษัท ไทยก้าวไกลกรุ๊ป จำกัด หรือ TGG เพิ่มเติมที่: