Next step ธุรกิจแบรนด์แฟชั่นบนโลกเสมือน METAVERSE

หลังจากที่ Facebook ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงไปสู่ Metaverse รัฐบาลและองค์กรในภาคส่วนต่าง ๆ มากมาย รวมถึงเทคโนโลยี การตลาด และความบันเทิงต่างกระโจนเข้าสู่โลก Metaverse กันอย่างมากมาย

“แฟชั่น” เป็นอุตสาหกรรมแรกที่พร้อมจะตะลุยเข้าเทรนด์ Metaverse (เมตาเวิร์ส) โดยแฟชั่น เป็นสิ่งที่สะท้อนและกำหนดค่านิยมของสังคม ดังนั้น จึงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามกระแสโลกและความสนใจของผู้คน  

Metaverse ในปัจจุบัน หมายถึงทั้งการสร้างโลกเสมือนจริงและการใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงขยาย เช่น โฮโลแกรม หรือ ความเป็นจริงเสริม สำหรับประสบการณ์โลกแห่งความจริงที่สมจริง  มีการคาดการณ์ว่าในปี 2574 Metaverse จะสร้าง GDP ทั่วโลกได้ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์ โดยตลาดแฟชั่นมีมูลค่าถึง 6.61 พันล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 36.47% ในปี 2564-2569   

โดยในปี 2565 มีรายงานการลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse มากกว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์  ภายในปี พ.ศ. 2573 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอาจจะกลายเป็นผู้นำระดับโลกในด้านเศรษฐกิจเสมือนและเมตาเวิร์ส พร้อมกันนี้มีการสำรวจในปี 2565 พบว่า 45% ของลูกค้าทั่วโลกเชื่อว่าตัวตนเสมือนจริงมีความสำคัญพอ ๆ กับตัวตนจริง และ 30% ของบริษัททั่วโลก จะพร้อมเปิดตัวสินค้าและบริการใน Metaverse ภายในปี 2573 

การเล่นเกมขับเคลื่อนแฟชั่นดิจิทัลในปัจจุบันผ่านการซื้อเสื้อผ้าและ "สกิน" สำหรับอวาตาร์เป็นหลัก  แต่การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์แฟชั่น และบริษัทวิดีโอเกมในการออกแบบสกิน อาจทำเงินได้ถึง 6 พันล้านดอลลาร์จากยอดขายเดี่ยว ๆ  

18% ของเกมเมอร์สนใจที่จะให้การออกแบบตัวละครของตนได้รับอิทธิพลจากแบรนด์แฟชั่นชื่อดัง  บริษัทแฟชั่นที่มองเห็นโอกาสเหล่านี้กำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง

การสร้างอวทาร์ในเมตาเวิร์สนั้น ไม่ได้แตกต่างจากการสร้างตัวละครในเกมออนไลน์เท่าไรนัก เพราะเมื่อเวลาที่เราต้องการให้ตัวละครมีภาพลักษณ์โดดเด่น เราจะเลือกซื้อ ‘สกิน (skin)’ หรือชุดในสไตล์ต่าง ๆ มาใส่ให้กับตัวละครของเรา 

เพราะฉะนั้น การสร้างอวทาร์ให้มีความสมจริงและโดดเด่น จึงมีปัจจัยในด้านการออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับของอวทาร์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นี่จึงเป็นช่องว่างทางการตลาดที่ทำให้เหล่าแบรนด์หรู (Luxury Brands) มองเห็นโอกาสในการบุกตลาดใหม่ ๆ และไม่รอช้าที่จะลองมาเป็นผู้เล่นในสนามนี้ทันที 

Metaverse ปฏิวัติแฟชั่นอย่างไร

อาจเรียกได้ว่า Metaverse เข้ามาปฏิวัติแฟชั่น พลิกโฉมอุตสาหกรรมด้วยการสร้างแนวทางใหม่สำหรับแบรนด์แฟชั่นในการมีส่วนร่วมกับลูกค้า สร้างรายได้และแสดงผลิตภัณฑ์ของตน โดยมี 3 วิธีการ คือ 

แบรนด์ต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จาก Metaverse สำหรับกิจกรรมบนรันเวย์ หรือ แฟชั่นเสมือนจริงกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในอุตสาหกรรมแฟชั่น Metaverse แบรนด์ต่าง ๆ กำลังใช้การแสดงแฟชั่นเสมือนจริงเพื่อแสดงคอลเลกชันของตน มีส่วนร่วมกับลูกค้า  และสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ  การแสดงแฟชั่นเสมือนจริงยังครอบคลุมมากขึ้น ทำให้ลูกค้าจากทั่วโลกสามารถสัมผัสกับงานได้แบบเรียลไทม์  

ซึ่งการแสดงแฟชั่นเสมือนจริงนี้ ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่ต้องใช้สถานที่ราคาแพง หุ่นจำลอง หรือทรัพยากรอื่น ๆ  ผู้คนจำนวนมากที่มีส่วนร่วมในการเปิดใช้งาน Web3 เห็นว่าเป็นหนึ่งในการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในอุตสาหกรรมแฟชั่น Metaverse  นี่คือวิธีที่แบรนด์แฟชั่นใช้ประโยชน์จาก Metaverse เพื่อสร้างกิจกรรมบนรันเวย์แบบอินเทอร์แอกทีฟที่สมจริง ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์ของตนในรูปแบบใหม่ทั้งหมด

NFTs หรือโทเค็น คือ ของสะสมดิจิทัลที่กำลังสร้างกระแสรายได้ใหม่ให้กับแบรนด์แฟชั่น  ซึ่ง NFT ในแฟชั่น เป็นทรัพย์สินดิจิทัลที่ไม่เหมือนใครและไม่สามารถเป็นเจ้าของ แลกเปลี่ยน และขายเหมือนของสะสมที่จับต้องได้  

ทั้งนี้ แบรนด์ต่าง ๆ กำลังสร้าง NFT รุ่นจำกัดที่เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ สร้างวิธีใหม่ ๆ สำหรับลูกค้าในการโต้ตอบกับแบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบ  NFT กำลังเปลี่ยนวิธีที่เราสัมผัสกับแฟชั่นโดยอนุญาตให้นักออกแบบและแบรนด์สร้างของสะสมดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร ของสะสมดิจิทัลเหล่านี้ยังเป็นช่องทางใหม่สำหรับแบรนด์แฟชั่นในการสร้างรายได้ โดยสินทรัพย์บางส่วนสามารถขายได้ในราคาหลายล้านดอลลาร์

ห้องแต่งตัวเสมือนจริง คือ อนาคตของอีคอมเมิร์ซใน Metaverse  ซึ่งแบรนด์ต่าง ๆ ให้ลูกค้าลองเสื้อผ้าในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง สร้างประสบการณ์การ Shopping ที่ดื่มด่ำและโต้ตอบได้มากขึ้น  และข้อดีของห้องแต่งตัวเสมือนจริงยังช่วยลดความเสี่ยงในการคืนสินค้า เนื่องจากลูกค้าสามารถเห็นได้ว่าเสื้อผ้าเข้ารูปและดูเป็นอย่างไรก่อนตัดสินใจซื้อ 

นอกจากจะมีความยั่งยืนมากกว่าห้องแต่งตัว และลดปริมาณขยะที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแฟชั่นแล้ว เทคโนโลยีนี้ยังทำให้ผู้ใช้สามารถทดสอบอุปกรณ์สวมใส่ NFT บนอวาตาร์ Metaverse ของตนได้อีกด้วย  วิธีที่ยอดเยี่ยมในการดึงดูดลูกค้าด้วยประสบการณ์ที่สมจริงและเต็มไปด้วยเกมกำหนดเอง

โดยปกติแล้ว ทุก ๆ แบรนด์จะประสบปัญหาเกี่ยวกับการผลิตสินค้าที่มากเกินความต้องการของผู้บริโภค ทำให้มีปัญหาด้านการจัดการสต็อก และต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บสินค้ามากเกินความจำเป็น มิหนำซ้ำ ยังต้องคิดหาทางระบายสินค้าในสต็อกที่ขายไม่ออก เมื่อจบซีซันการขายคอลเล็กชันนั้น ๆ อีกด้วย

เนื่องจากการผลิตเสื้อผ้าและเครื่องประดับเพื่อขายบนเมตาเวิร์ส ไม่ต้องมีการจัดซื้อวัตถุดิบ และจ้างแรงงานมาเพื่อทำการผลิตสินค้าออกมาเป็นชิ้น ๆ ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถลดต้นทุนการผลิตได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

แบรนด์หรูทุกแบรนด์ ล้วนมีสินค้าที่เรียกได้ว่าเป็น ‘ตำนาน’ ของแต่ละแบรนด์อยู่แล้ว นี่จึงเป็นโอกาสดีที่แบรนด์จะกลับมาผลิตสินค้าเหล่านั้นในรูปแบบดิจิทัล และขายบนเมตาเวิร์สแทน

ด้วยข้อดีหลาย ๆ ด้านจึงไม่แปลกใจเลยที่ แบรนด์แฟชั่นชั้นนำหลาย ๆ แบรนด์หันมาใช้ Metaverse ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งพอจะประมวลได้ ดังนี้ 

ความร่วมมือของ Gucci กับ Roblox เป็นตัวอย่างของวิธีที่แบรนด์แฟชั่นสุดหรูใช้ Metaverse เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดื่มด่ำให้กับลูกค้าของพวกเขา  Gucci เปิดตัวประสบการณ์ Gucci Garden เสมือนจริงบน Roblox ช่วยให้ลูกค้าสำรวจประวัติและคอลเล็กชันของแบรนด์ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง  การเป็นหุ้นส่วนทำให้ผู้ใช้ Roblox สำรวจและโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ใน Metaverse เกม

Digital Replica Store ของ Burberry เป็นประสบการณ์การช็อปปิ้งที่สร้างสรรค์สำหรับนักช็อปMetaverse  ร้านค้าจำลองดิจิทัล ช่วยให้ลูกค้าสามารถเรียกดูและซื้อผลิตภัณฑ์ของ Burberry ในสภาพแวดล้อมเสมือนจริง  ร้านค้าได้รับการออกแบบให้จำลองร้านค้าจริง โดยมุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์ที่สมจริงและโต้ตอบได้สำหรับลูกค้ากำหนดเอง

คอลเลกชั่นนี้ประกอบด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ซ้ำใครและแท้จริง รวมถึงตัวละครเคลื่อนไหว 10,000 ตัวและประติมากรรม 3 มิติ 100 ชิ้น  คอลเลกชัน NFT ได้รับการออกแบบให้เป็นช่องทางใหม่สำหรับลูกค้าในการสัมผัสผลิตภัณฑ์ของ Louis Vuitton และมีส่วนร่วมกับแบรนด์  คอลเลกชันนี้สร้างขึ้นโดยความร่วมมือกับ Beeple ศิลปินดิจิทัลที่เป็นที่รู้จักจากการขาย NFT ในราคา 69 ล้านเหรียญ

การออกแบบเสื้อผ้าดิจิทัล สามารถขายในรูปแบบ NFT ซึ่งช่วยให้นักออกแบบและแบรนด์ต่าง ๆ สร้างรายได้จากการสร้างสรรค์ และมอบวิธีใหม่ในการรวบรวมและจัดแสดงสินค้าแฟชั่นแก่ผู้บริโภค  ยิ่งไปกว่านั้น ผู้มีอิทธิพลด้านแฟชั่นเสมือนจริงกำลังเกิดขึ้นใน Metaverse ทำให้แบรนด์แฟชั่นมีโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ และความสามารถในการเข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้น

เซดริก ชาร์บิท (Cédric Charbit) ซีอีโอ (CEO) ของบาเลนเซียกาได้เผยว่า ตอนนี้ทางแบรนด์กำลังสร้างแผนกโลกเสมือน (The Virtual World) เพื่อรองรับการเติบโตของเมตาเวิร์สที่จะมีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในอนาคต

อาทิ  Adidas  ลงทุนใน Sandbox ซื้อที่ดินไปทั้งหมด 144 ผืน ซึ่งต่อมาได้มีการทวีตคำว่า ‘adiVerse’ ในทวิตเตอร์ของ Adidas และทำให้เห็นว่าเตรียมพร้อมเข้าสู่โลกของ Metaverse เต็มตัว นอกจากนั้นแล้ว Adidas ยังเปิดตัว NFT แรกจากโครงการ “Into the Metaverse” ของ Adidas Originals ได้สร้างรายได้ไป 11,391 Ether ( ETH ) มูลค่ากว่า 43 ล้านเหรียญสหรัฐบน OpeanSea ได้ร่วมมือออกแบบชุดให้กับผลงาน NFT ชื่อดังหลายเจ้า เช่น Bored Ape Yacht Club, PUNKS Comic และ gmoney

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเป็นช่วงเริ่มต้นของการใช้ Metaverse เชื่อมั่นได้ว่าในอนาคตจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  โลกของ Metaverse ได้เปิดโอกาสให้ทั้งรายใหญ่และรายย่อยสามารถเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนา และเติบโตไปด้วยกันพร้อมทั้งยังมี Ecosystem ที่หลากหลาย ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตจะทำให้มีอาชีพใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายจากการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ 

FutureTales LAB - 2030: Fashion Industry in Metaverse

Metaverse Fashion Trends For 2023 | Blockster

https://metav.rs/blog/impact-metaverse-fashion-industry/

https://program-ace.com/blog/fashion-in-the-metaverse/