นี่คือ 4 เหตุผลสำคัญ ที่ชี้ว่าทำไม “ธุรกิจครอบครัว” ต้องปรับตัวด้วย Digital Marketing

Family Business
22/10/2024
รับชมแล้วทั้งหมด 72 คน
นี่คือ 4 เหตุผลสำคัญ ที่ชี้ว่าทำไม “ธุรกิจครอบครัว” ต้องปรับตัวด้วย Digital Marketing
banner
ธุรกิจครอบครัว (Family Business) เป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 80% ของธุรกิจทั้งหมดในประเทศ และครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอาหารและเครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน หรือบริการต่าง ๆ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้ง SET และ MAI พบว่าธุรกิจครอบครัว มีสัดส่วนที่สูง ทั้งในแง่จำนวนบริษัทและมูลค่าหลักทรัพย์ สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของธุรกิจครอบครัวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ธุรกิจครอบครัวที่มีหลายแห่งในปัจจุบัน บางรายมักเผชิญกับความท้าทายในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล สาเหตุหลักมาจากแนวความคิดที่ยึดติดกับรูปแบบการทำงานแบบเดิม การขาดทักษะดิจิทัลในองค์กร โครงสร้างองค์กรที่ไม่ค่อยยืดหยุ่น และความขัดแย้งภายในครอบครัวเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องความกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวเหล่านั้น ไม่สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้ ส่งผลให้ธุรกิจ อาจสูญเสียฐานลูกค้า และเติบโตได้ช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น

โดยหากเปรียบเทียบธุรกิจทั่วไปที่ใช้ Digital Marketing อาจจะเผชิญกับปัญหาด้านการปรับตัว และการใช้เทคโนโลยี เช่น ขาดทักษะในการสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดลูกค้าและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม นอกจากนี้ ยังต้องแข่งขันกับบริษัทอื่น ๆ ที่มีการใช้ Digital Marketing อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เสียโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่สำคัญ

ในขณะที่ธุรกิจครอบครัว มักจะมีปัญหาการยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเดิม และไม่เปิดรับการเปลี่ยนแปลงหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ส่งผลให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก Digital Marketing ได้อย่างเต็มที่ โดยรวมแล้ว ธุรกิจทั่วไปมักจะมีการปรับตัวเข้ากับแนวโน้มดิจิทัลได้ดีมากกว่า ในขณะที่ธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องปรับมายด์เซ็ตเพื่อแข่งขันในยุคดิจิทัล
 

4 เหตุผลที่ธุรกิจครอบครัวต้องปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล

สิ่งที่ชี้ว่า ธุรกิจครอบครัว จำเป็นต้องปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเร่งด่วน ด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ โลกยุคใหม่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ผู้บริโภคหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการค้นหาข้อมูลและซื้อสินค้าบริการมากขึ้น หากธุรกิจครอบครัวไม่ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง อาจจะเสียโอกาสทางธุรกิจให้กับคู่แข่งที่ปรับตัวได้เร็วกว่า 
 


นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ธุรกิจครอบครัวจึงควรก้าวสู่การเปลี่ยนแปลง เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะเท่ากับการยอมรับความเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังท่ามกลางยุคดิจิทัลที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่ง 4 เหตุผลที่สะท้อนข้อมูลที่กล่าวข้างต้น มีดังนี้ 

1. การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค

เนื่องจากยุคดิจิทัล ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว โดยหันมาใช้เวลากับโลกออนไลน์มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล เปรียบเทียบราคา และตัดสินใจซื้อสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นแหล่งข้อมูลหลัก หากธุรกิจครอบครัวไม่เข้าถึงช่องทางเหล่านี้ จะทำให้สูญเสียโอกาสในการดึงดูดลูกค้าใหม่

2. ความสามารถในการแข่งขัน

การมีอยู่ในโลกออนไลน์ ทำให้ธุรกิจมีโอกาสในการแข่งขันที่มากขึ้น ธุรกิจที่ใช้ Digital Marketing จะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นตามไปด้วย และสามารถปรับกลยุทธ์ได้ตามความต้องการของตลาดได้อย่างรวดเร็ว

 

3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

Digital Marketing ช่วยให้ธุรกิจครอบครัวสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย อีเมล หรือเว็บไซต์ การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทำให้ธุรกิจสามารถฟังความคิดเห็นและปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

4. ประหยัดต้นทุน

การทำการตลาดออนไลน์มักมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการทำการตลาดในแบบดั้งเดิม เช่น โฆษณาทางทีวี หรือป้ายโฆษณา ธุรกิจครอบครัวสามารถใช้สื่อดิจิทัลเพื่อโปรโมตสินค้าและบริการ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมาก แต่ได้ประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้กว้างขึ้น เพิ่มโอกาสทางการค้าได้มากกว่า

นอกจากนั้น การทำ Digital Marketing ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างและเสริมสร้างแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการสร้างเนื้อหา (Content) ที่น่าสนใจ และการเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ จะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวมีความน่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักในตลาด

 

เหตุผลเหล่านี้ คือสิ่งที่สะท้อนภาพว่า ธุรกิจครอบครัว ต้องปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลเพื่อรักษาความอยู่รอดและเติบโตในตลาดที่แข่งขันสูง โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

หาก ธุรกิจครอบครัวไม่ปรับตัว จะส่งผลอย่างไร?

อย่างที่ทราบดีว่า ธุรกิจครอบครัว มีลักษณะเด่นหลายประการที่แตกต่างจากธุรกิจทั่วไป เช่น ความผูกพันในครอบครัวที่ส่งผลให้มีความมุ่งมั่นในการรักษาธุรกิจให้คงอยู่ ความรู้และประสบการณ์เฉพาะทางที่สั่งสมมาหลายชั่วอายุคน และวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม การปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ประกอบกับการบริหารจัดการที่เหมาะสม และการวางแผนระยะยาว จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน สามารถอยู่รอดในสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในทางตรงข้าม หากธุรกิจครอบครัว ไม่ปรับตัว อาจเกิดผลเสียดังต่อไปนี้

1. สูญเสียลูกค้า

กล่าวคือ ลูกค้าจะหันไปหาคู่แข่งที่มีการเข้าถึงได้ง่ายกว่า อีกทั้งธุรกิจที่ขาดการตลาดออนไลน์ อาจทำให้สูญเสียโอกาสในการขายและการสร้างฐานลูกค้าใหม่

2. ขาดความน่าเชื่อถือ 

ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงได้ง่าย ธุรกิจที่ไม่มีการแสดงตัวตนในโลกออนไลน์จะขาดความน่าเชื่อถือ ลูกค้าส่วนใหญ่จะมองหาข้อมูลจากแหล่งที่มีการแสดงตัวตนที่ชัดเจน และสามารถสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าได้
 

3. ยากต่อการปรับตัวในอนาคต

หากไม่เริ่มต้นปรับตัวตั้งแต่วันนี้ อาจทำให้การเปลี่ยนแปลงในอนาคตเป็นเรื่องยากขึ้น ธุรกิจจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและอาจไม่สามารถตามทันคู่แข่งได้

4. โอกาสที่หายไป

เพราะอาจทำให้ธุรกิจพลาดโอกาสในการขยายตลาด การไม่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ทำให้ธุรกิจมีการเติบโตที่จำกัดและไม่สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมได้

ธุรกิจครอบครัวเริ่มทำ Digital Marketing อย่างไร

1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย

การทำ Digital Marketing ต้องเริ่มจากการเข้าใจลูกค้าและกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น อายุ เพศ ความสนใจ และพฤติกรรมการซื้อ การรู้จักกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดได้ตรงจุด

2. เลือกช่องทางการตลาด

ควรเลือกช่องทางที่เหมาะสมในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น โซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram, TikTok) หรือเว็บไซต์ การเลือกช่องทางที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า

3. สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า

การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่าให้กับลูกค้า จะช่วยสร้างความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้าได้ โดยอาจเป็นบทความ บล็อก หรือวิดีโอ เนื้อหาที่มีคุณค่าจะทำให้ลูกค้ารู้สึกสนใจและกลับมาที่ธุรกิจอีกครั้ง

 

4. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์

การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Google Analytics จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า สามารถวัดผลการทำการตลาดและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมได้

5. สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดียและอีเมล จะช่วยให้ธุรกิจสามารถฟังความคิดเห็นและปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า

4 แนวทางในการปรับตัวเพื่อเริ่มต้นสร้างกลยุทธ์ Digital Marketing สำหรับธุรกิจครอบครัว มีดังนี้ 

1. ปรับเปลี่ยนมายด์เซ็ต

ธุรกิจครอบครัวต้องปรับเปลี่ยนมายด์เซ็ตเสียใหม่  เนื่องจากหลายครอบครัวยังยึดติดกับแนวทางความสำเร็จแบบเดิมที่เคยใช้ ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับสถานการณ์และบริบทที่เปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจปัจจุบัน หากไม่สามารถปรับตัว จะไม่สามารถเติบโต หรือขยับขยายต่อไปได้ และอาจถึงขั้นล้มหายตายจากตลาดอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น ควนลองเริ่มต้นจากการจัดการประชุมครอบครัว สร้างพื้นที่ให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทำให้สมาชิกรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง พร้อมจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานและกระบวนการต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อไปสู่จุดหมายที่ครอบครัววางไว้
 


2. ทำความเข้าใจทั้งธุรกิจและลูกค้ายุคดิจิทัล

วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค เพื่อทำความเข้าใจในธุรกิจ ว่าอะไรคือสิ่งที่โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมทั้งศึกษาพฤติกรรมลูกค้ายุคดิจิทัล ว่าลูกค้าของเราเป็นใคร มีความต้องการอะไร ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลเป็นอย่างไร เพื่อให้ธุรกิจครอบครัว สามารถกำหนดกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเข้าถึงให้ชัดเจน และสื่อสารได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
 


3. นำเทคโนโลยีมาใช้

ทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาปรับใช้ในทุกส่วนของธุรกิจ ตั้งแต่กระบวนการทำงานภายใน ไปจนถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เช่น ระบบคลาวด์ ระบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน 

เมื่อลูกค้าอยู่บนออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ธุรกิจจึงควรเพิ่มช่องทาง e-Commerce ขายผ่านออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น โดยใช้โซเชียลมีเดียในการทำการตลาด สร้างแบรนด์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น

 

4. สร้างกลยุทธ์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งที่เหมาะสม

เลือกช่องทางที่เหมาะสม โดยดูว่าลูกค้าเป้าหมายใช้งานในแพลตฟอร์มใดบ่อย ๆ เช่น Facebook, Instagram, Line, Google จากนั้น สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการของธุรกิจ และมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า

หากต้องการสร้างเว็บไซต์ เป็นหน้าร้านออนไลน์ ควรออกแบบให้ใช้งานง่ายและมีข้อมูลที่ครบถ้วน และควรมีการติดตามผลลัพธ์ โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เพื่อติดตามประสิทธิภาพ พร้อมทั้งปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับผลลัพธ์อยู่เสมอ 

ข้อดีและข้อเสียของ Digital Marketing สรุปให้เห็นภาพชัดขึ้นได้ ดังนี้ 

ข้อดี 

1. เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น การทำ Digital Marketing ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น
2. วัดผลได้ง่าย ธุรกิจสามารถวัดผลและปรับกลยุทธ์ได้ตามข้อมูลที่ได้รับ
3. ประหยัดต้นทุน การทำการตลาดออนไลน์มักมีต้นทุนต่ำกว่าการทำการตลาดในแบบดั้งเดิม
4. สร้างความสัมพันธ์ ช่วยให้ธุรกิจสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้ง่ายขึ้น
5. สามารถปรับตัวได้รวดเร็ว: ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ตามสถานการณ์และความต้องการของตลาด

ข้อเสีย

1. ต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ เนื่องจากการสร้างแบรนด์ในโลกดิจิทัลต้องใช้เวลาและความพยายาม
2. การแข่งขันสูง ธุรกิจจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงในช่องทางออนไลน์
3. ต้องอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ โลกดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจต้องพร้อมที่จะปรับตัวตลอดเวลา
4. ความเป็นส่วนตัว การเก็บข้อมูลลูกค้าอาจมีข้อกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว และธุรกิจต้องศึกษาข้อมูล และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ การปรับตัวของธุรกิจครอบครัวในยุคดิจิทัลไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ ธุรกิจครอบครัวควรเริ่มต้นใช้ Digital Marketing เพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่ สร้างความสัมพันธ์ และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาด 

 

การทำ Digital Marketing สำหรับธุรกิจครอบครัว เริ่มต้นจากการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เลือกช่องทางการตลาด สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า และใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อวัดผลและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม ถึงแม้จะมีข้อดีและข้อเสีย แต่หากธุรกิจครอบครัวเริ่มปรับตัวในวันนี้ จะสามารถสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน

Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ธุรกิจครอบครัวที่ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นของตระกูล "Mars" และพลังแห่งการสืบทอดยาวนานกว่า 113 ปี

ธุรกิจครอบครัวที่ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นของตระกูล "Mars" และพลังแห่งการสืบทอดยาวนานกว่า 113 ปี

ในโลกของธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดำรงอยู่ของธุรกิจครอบครัวที่สามารถสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจยิ่ง…
pin
33 | 24/12/2024
ปูทางสู่ความยั่งยืน เจาะลึกระบบหลังบ้านธุรกิจครอบครัว ให้เติบโตแบบบริษัทมหาชน

ปูทางสู่ความยั่งยืน เจาะลึกระบบหลังบ้านธุรกิจครอบครัว ให้เติบโตแบบบริษัทมหาชน

11ธุรกิจครอบครัว (Family Business) มักเผชิญความท้าทายที่ซับซ้อนในการจัดการระบบหลังบ้าน โดยเริ่มจากวัฒนธรรมองค์กรแบบดั้งเดิมที่ยังยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเก่า…
pin
35 | 19/12/2024
5 คำถามสำคัญ ก่อนการ  Transition ธุรกิจครอบครัว

5 คำถามสำคัญ ก่อนการ Transition ธุรกิจครอบครัว

แม้ผู้นำธุรกิจครอบครัว (Family Business) จะต้องการส่งต่อธุรกิจของตนเองจากรุ่นสู่รุ่นให้ยาวนานและยั่งยืน ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ต้องยอมรับว่า…
pin
42 | 14/12/2024
นี่คือ 4 เหตุผลสำคัญ ที่ชี้ว่าทำไม “ธุรกิจครอบครัว” ต้องปรับตัวด้วย Digital Marketing