บทบาทผู้นำหญิงในธุรกิจครอบครัว และการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกครอบครัว
ในอดีตที่ผ่านมา ผู้นำของธุรกิจครอบครัวจะเป็นผู้ชาย แม้ในความเป็นจริง ผู้หญิงซึ่งเป็นคู่สมรส อาจจะเป็นผู้คิดริเริ่ม หรือมีส่วนร่วมในการก่อร่างสร้างธุรกิจครอบครัว (Family Business) มาด้วยกัน แต่เนื่องด้วยวัฒนธรรมตะวันออกที่ให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่า ทำให้มีการกำหนดบทบาทให้ผู้ชายเป็นผู้นำครอบครัว และเป็นกำลังหลักในการทำงานเพื่อเลี้ยงดูสมาชิกของครอบครัวให้อยู่ดีมีสุข ซึ่งวัฒนธรรมหรือความเชื่อดังกล่าวนี้ ได้ส่งผลสืบเนื่องไปถึงการเป็นผู้นำในการประกอบธุรกิจ หรือการบริหารธุรกิจครอบครัวด้วย

การเปลี่ยนแปลง สู่ สังคมแห่งความเท่าเทียม
แต่ในเวลาต่อมา รูปแบบการบริหารธุรกิจครอบครัว ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของสังคมที่ให้การยอมรับความเท่าเทียมทางเพศ ทำให้แนวความคิดที่เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจครอบครัวโดยผู้นำชายเท่านั้นพลอยเปลี่ยนแปลงไปด้วย ส่งผลให้ผู้หญิงที่มีศักยภาพทางธุรกิจได้มีโอกาสขึ้นมาเป็นผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัวได้ ถ้าสามารถพิสูจน์ตนเองให้เป็นที่ยอมรับของสมาชิกในธุรกิจครอบครัวได้ว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถที่จะนำพาธุรกิจครอบครัวไปสู่ความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และพร้อมรับมือกับการแข่งขันหรือรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกธุรกิจทั้งในปัจจุบันและในอนาคตได้

ดังนั้น ปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมให้ผู้หญิงประสบความสำเร็จ ในฐานะ “ผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัว” คือ ความพร้อมที่จะบริหารธุรกิจครอบครัวซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากธุรกิจทั่วไป การเรียนรู้เพื่อเข้าใจในบทบาทผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัวที่พึงกระทำ เพราะจะต้องเป็นผู้ที่รับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างความเจริญเติบโตให้แก่ธุรกิจครอบครัวอย่างเต็มกำลังความสามารถ ดังนั้น การปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่จากสมาชิกผู้หญิงของธุรกิจครอบครัวไปสู่การเป็นผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัวที่ “กล้าคิด กล้านำ กล้าทำ กล้าเปลี่ยน” เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจครอบครัวสามารถเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืนได้ จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่สามารถละเลยได้

อนึ่ง ประเด็นสำคัญที่ผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัวควรจะตระหนักถึง ได้แก่ การให้ความสำคัญกับการวางกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจครอบครัวเชิงรุก ร่วมกับสมาชิกของธุรกิจครอบครัว ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจจากสมาชิกของธุรกิจครอบครัวแล้ว ยังส่งผลให้เกิดการตัดสินใจร่วมกันบนพื้นฐานของเหตุและผลอย่างเป็นรูปธรรม อันจะนำไปสู่การสร้างความมั่นคง และความยั่งยืน ให้ธุรกิจครอบครัวสามารถเป็นสินทรัพย์ของครอบครัวที่สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยาวนาน
3 ทักษะที่โดดเด่นที่สุดของ “ผู้นำหญิง”
สำหรับทักษะที่โดดเด่นที่สุดของผู้หญิงในการเป็นผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัว ได้แก่
1. ความสามารถในการสร้างความสมานฉันท์ระหว่างสมาชิกของครอบครัว โดยผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัว จะคำนึงถึงการประสานความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกของธุรกิจครอบครัว กับผลประโยชน์ทางธุรกิจที่เป็นธรรม

2. ความยืดหยุ่น ผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัว จะมีความละเอียดอ่อน พร้อมเรียนรู้และเข้าใจในคุณลักษณะและพฤติกรรมต่างๆ ของสมาชิกธุรกิจครอบครัว ส่งผลให้เกิดการทำงานร่วมกันด้วยความสมานฉันท์ ทำให้การบริหารธุรกิจครอบครัว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3. การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ทำให้สามารถใช้ทักษะการสื่อสารเป็นเครื่องมือในการบริหารธุรกิจครอบครัว ส่งผลให้การบริหารสมาชิกของธุรกิจครอบครัวเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งระหว่างกัน เป็นต้น
ความท้าทายหลักที่ผู้หญิงต้องเผชิญในการสืบทอดและบริหารธุรกิจครอบครัว
ในส่วนของการสืบทอดและบริหารธุรกิจครอบครัว ความท้าทายหลักที่ผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัว ต้องเผชิญ ได้แก่ ความสามารถในการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจครอบครัวที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ความชำนาญ รวมทั้งประสบการณ์ในธุรกิจครอบครัวอย่างลึกซึ้ง เพื่อจะได้สามารถบริหารธุรกิจครอบครัวอย่างมืออาชีพ เช่น ปรับเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจครอบครัว หรือกำหนดกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้สามารถรับมือกับการแข่งขัน หรือรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับความท้าทายที่เกี่ยวกับคุณลักษณะส่วนบุคคลของผู้นำธุรกิจครอบครัวที่เป็นผู้หญิง และอาจส่งผลต่อการยอมรับจากสมาชิกของธุรกิจครอบครัว ตัวอย่างเช่น การมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงเกินไป มีความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรผลประโยชน์ให้แก่สมาชิกของธุรกิจครอบครัว ไม่มีระบบการสื่อสารระหว่างสมาชิกของธุรกิจครอบครัวที่สร้างสรรค์และเป็นเอกภาพ ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน การไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกธุรกิจครอบครัวคนอื่น ๆ การใช้อารมณ์เหนือเหตุผล ทำให้มีพฤติกรรมการแสดงออกที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น

ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
รศ.ทองทิพภา วิริยะพันธุ์ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ให้ความเห็นว่า การเป็นผู้นำหญิงของธุรกิจครอบครัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคปัจจุบันที่สังคมเปิดกว้าง การให้โอกาสผู้หญิงเป็นผู้นำธุรกิจครอบครัว…จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง !!!

อย่างไรก็ตาม เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจครอบครัวในระยะยาว ผู้บริหารธุรกิจครอบครัวจำเป็นต้องทำการเตรียมความพร้อมเพื่อสร้างทายาททางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นทายาทหญิง หรือ ทายาทชาย เพื่อให้ทายาทธุรกิจเหล่านั้นได้เข้ามามีบทบาทหรือมีส่วนร่วมในการบริหารธุรกิจครอบครัว หรือเป็นผู้นำธุรกิจครอบครัวที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :
• เมื่อ ‘ทายาท’ ไม่อยากสานต่อกิจการ ผู้บริหาร “ธุรกิจครอบครัว” ควรรับมืออย่างไร
• รุ่นบุกเบิก บ่มเพาะ ‘ทายาท’ อย่างไร? ให้การสืบทอดธุรกิจครอบครัวราบรื่น จบทุกข้อขัดแย้ง

การเตรียมความพร้อมทายาทธุรกิจแต่เนิ่น ๆ นอกจากจะเป็นผลดีต่อการวางแผนสืบทอดทายาทของธุรกิจครอบครัวอย่างเป็นระบบแล้ว ยังส่งผลดีต่อความเจริญเติบโตของธุรกิจครอบครัว ทำให้สามารถส่งต่อธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างไม่รู้จบ
ติดตามสาระเรื่องธุรกิจครอบครัวได้ใหม่ในตอนหน้า