Know How - Knowledge 30 ปี ‘ลอนดอน อินดัสตรี’ Supply Chain ผลิตเส้นทอใยสังเคราะห์ให้กับบริษัทชั้นนำโลก

คุณเดโช สว่างรุ่งเรืองกิจ กรรมการผู้จัดการ หจก.ลอนดอน อินดัสตรี เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจว่าเกิดจากช่วงตอนเรียนมหาวิทยาลัยคุณแม่พาไปเที่ยวต่างประเทศ และได้พาไปดูโรงงานผลิตเส้นทอใยสังเคราะห์ที่ไต้หวัน พอกลับมาท่านก็ถามว่าจบแล้วอยากทำอะไร ซึ่งตอนนั้นตนเรียนอยู่ปีสุดท้ายใกล้จบแล้ว ก็มองว่าโรงงานที่ทำยางยืดน่าจะใช้ทุนน้อยและคืนทุนเร็วกว่าธุรกิจผลิตเสื้อผ้า

เนื่องจากมีการแข่งขันสูง นอกจากนี้ยังต้องสร้าง Branding ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่การที่เราเป็น ‘ซัพพลายเชน’ ที่ผลิตชิ้นส่วนเพื่อ Support ให้กับลูกค้าแบรนด์ต่างๆ น่าจะเป็นตลาดที่เติบโตได้ง่ายกว่า

ด้วยประสบการณ์จากการทำงานเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี โรงงานของเรามีการพัฒนาคุณภาพ และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ ทั้งเรื่องจำนวนออเดอร์ และกำลังการผลิต ด้วยเครื่องจักรกว่า 650 เครื่อง นอกจากสินค้าตามมาตรฐานของโรงงานแล้ว เรายังพร้อมรับผลิตงานตามคุณภาพเฉพาะเพื่อเป็นแบรนด์ของลูกค้า โดยธุรกิจเราแบ่งการผลิตเป็น 2 ประเภท คือ หนึ่งการผลิตสินค้าให้ลูกค้าทั่วไป กับส่วนที่สองคือ การผลิตแบบ OEM เพื่อป้อนให้กับลูกค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ 

      

โดยเราได้รับมาตรฐานผ่าน OEKO-TEX, BUREAU VERITAS จากการตรวจโรงงานทุกๆ ปี ทำให้เราสามารถส่งออกต่างประเทศ โดยเป็นส่วนหนึ่งของเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, เครื่องนอน ของแบรนด์ชั้นนำดังๆ หลากหลายแบรนด์

ปัจจุบัน ‘ลอนดอน อินดัสตรี’ ดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี โดยผลิตภัณฑ์หลักๆ จะเป็นเส้นทอใยสังเคราะห์หน้าแคบที่เป็นยางยืด อาทิ สายกระเป๋าต่างๆ สายเกี่ยวหน้ากากอนามัยที่เป็นยางยืด เสื้อผ้าเด็กอ่อน สายยกทรง ชุดกีฬาที่มีส่วนประกอบของยางยืดทั้งหมด เป็นต้น 

คุณเดโช เผยถึงจุดแข็งของ ‘ลอนดอน อินดัสตรี’ ว่า ด้วยการทำงานที่ผสมผสานระหว่าง Know How และ Knowledge ที่สั่งสมจากประสบการณ์ที่ยาวนาน ทำให้เราสามารถตอบโจทย์ที่หลากหลายของลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยบริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ตามความพอใจ ตามสเปกที่ลูกค้าต้องการ จึงต้องมีความเข้าใจในงานที่ทำอย่างแท้จริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในการผลิตชิ้นงานมีคุณภาพและได้มาตรฐานตามที่ลูกค้ากำหนด 

ยกตัวอย่าง เช่น การผลิตรองเท้ากีฬาแบรนด์ดังของต่างประเทศปีนี้มี Concept ว่าต้องการวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบรับกระแสลดโลกร้อน โดยนำวัตถุดิบรีไซเคิลมาใช้ในการผลิตสินค้า เป็นโจทย์ที่เราต้องหาวัตถุดิบที่ลูกค้าต้องการโดยเฉพาะมาใช้ในการผลิตสินค้า โดยเน้นที่คุณภาพเป็นสำคัญในราคาที่เป็นธรรม และการส่งมอบสินค้าที่ตรงเวลา สิ่งนี้ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าแบรนด์ชั้นนำที่มีสเปกสูง

คุณเดโช เผยด้วยว่า อีกหนึ่งจุดแข็งที่เป็นความได้เปรียบของ ‘ลอนดอน อินดัสตรี’ คือมีโปรดักส์ที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมทุกขนาด ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกประเภท ขณะเดียวกันเรายังมีความได้เปรียบด้านการเข้าถึงวัตถุดิบ เพราะโรงงานผลิตของบริษัทอยู่ในเมืองไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำยางพาราคุณภาพอันดับ 1 ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเส้นด้ายยางยืด

คุณเดโช อธิบายถึงหลักเกณฑ์การคัดเลือกซัพพลายเออร์ ว่า Ranking ระดับโลกจะให้ผู้ผลิตเสื้อผ้าจากซัพพลายเออร์ที่กำหนด การที่เราจะได้เป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจให้ผลิตสินค้าแบรนด์ชั้นนำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องมีอันดับ Ranking อยู่ในอันดับ 1 - 5 เท่านั้น ซึ่งเราต้องรักษามาตรฐานการผลิตของเราไม่ให้ต่ำกว่าอันดับ 5 เพื่อจะสามารถรักษาลูกค้าไว้ได้ 

     

อย่างเช่น ซัพพลายเออร์ที่ผลิตเสื้อผ้าแล้วไปทำให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เราก็สามารถส่งได้เพราะเราอยู่ใน Ranking 5 อันดับ ซึ่งบริษัทเราอยู่อันดับที่ 1 - 2 มาตลอด ซึ่งปัจจุบันเรามีการส่งออกประมาณ 20% โดยสามารถครองตลาดในประเทศเมียนมาได้ เนื่องจากลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพการผลิตของเราโดยสินค้าเราเป็นเบอร์หนึ่งในประเทศเมียนมา

ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ระบาดหนัก คุณเดโช เล่าว่า ช่วงที่โควิด 19 ระบาดในช่วงแรกๆ หลายๆธุรกิจได้รับผลกระทบหนัก เราก็ได้รับผลกระทบด้านการส่งออกบ้าง แต่เรามองเห็นโอกาสช่วงที่หน้ากากอนามัยขาดแคลน เราจึงผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้า ซึ่งได้รับผลตอบรับดีจนผลิตไม่ทันต่อความต้องการเลยทีเดียว ต่อมาเราจึงผลิตชิ้นส่วนเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ สายคล้องหน้ากากอนามัย, สายรัด Face shield, ชุด PPE และอุปกรณ์ในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ในธุรกิจที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤต ทำให้กิจการยังเดินต่อไปได้

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า คุณเดโช มองว่าธุรกิจเส้นทอใยสังเคราะห์จะเติบโตขึ้นอีกมากจะเห็นได้จาก จำนวนออเดอร์สั่งผลิตของลูกค้า โดยเฉพาะลูกค้าสินค้า Supply Chain แบรนด์ชั้นนำที่มีอัตราเติบโตถึงปีละ 10% ทำให้ธุรกิจเราต้องขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 10% เพื่อให้สอดรับกับการเติบโตของลูกค้าซึ่งเราเป็นคู่ค้ากันมากว่า 10 ปี ที่ทำให้ธุรกิจเราเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง

คุณเดโช บอกอีกว่า ในแผนธุรกิจของบริษัทมีการวางกลยุทธ์ไว้ล่วงหน้า โดยการเจาะตลาดใหม่ๆ สร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีความหลากหลาย รวมถึงการขยายกำลังการผลิตเพื่อรองรับการเติบโตที่วางแผนไว้ส่งผลให้บริษัทสามารถผลิตและจำหน่ายเส้นทอใยสังเคราะห์ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านขนาดและคุณภาพที่แตกต่างกันไปสามารถรองรับความต้องการที่แตกต่างของเส้นทอใยสังเคราะห์ได้เพิ่มขึ้นทั้งจากฐานลูกค้าเดิมและการขยายฐานลูกค้าใหม่ 

ประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ส่งผลให้เกิดอุปสงค์ของเส้นด้ายยางยืดที่เป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น สายคล้องหน้ากากผ้า ยางยืดขอบชุด PPE และหมวกคลุมผมทางการแพทย์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ปัจจุบันเราได้ขยายกำลังการผลิต โดยส่งออกไปประเทศเวียดนามและกัมพูชา ซึ่งเป็นฐานการผลิตสินค้าแบรนด์ชั้นนำหลายยี่ห้อ จึงมองว่าตลาดทั้งสองประเทศนี้จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้มากขึ้นในอนาคต

ก่อนจบการสนทนา คุณเดโช เผยถึงกุญแจที่ไขสู่ความสำเร็จของธุรกิจที่ทำว่า ‘การบริหารต้นทุน’ ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องของเสียในขบวนการผลิตต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ดูว่าจะสามารถนำของเสียไปใช้ในส่วนไหนได้บ้าง หรือนำกลับมารีไซเคิลเพื่อใช้งานได้อีกครั้ง เพื่อให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด รวมถึงเครื่องจักรที่มีอยู่ก็ต้องปรับรูปแบบให้มีการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนเครื่องจักรใหม่ที่มีราคาสูง

การได้เปิดมุมมอง ‘คุณเดโช’ สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการและ SME ไทยต้องผลักดันธุรกิจตัวเองให้เข้าไปอยู่ในซัพพลายเชนระดับโลกให้ได้  ที่สำคัญต้องมีแนวคิดในการสร้างโอกาสใหม่ๆ จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

www.londonindustry.co.th 

https://www.facebook.com/profile.php?id=100061084845922