เข้าใจสังคมผู้สูงอายุ สู่การคว้าโอกาสธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ SME เมืองไทย
Aging Society หรือ สังคมผู้สูงอายุ คืออีกหนึ่ง Mega Trend โลกยุคปัจจุบัน โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) มีการคาดการณ์ว่าจะประชากรสูงอายุมีจำนวนมากถึง 1,400 ล้านคนในปี 2573 และจะเพิ่มเป็น 2,000 ล้านคนในปี 2593 ด้วยความที่มีผู้สูงวัยเพิ่มมากขึ้นทั่วโลกรวมถึงไทยเอง ดังนั้นผู้ประกอบการและ SME ต่างต้องมีการ Business Transformation ปรับตามตลาดที่เปลี่ยนไปแล้ว สังคมผู้สูงอายุยังได้สร้างโอกาส - ความท้าทาย ก่อเกิดธุรกิจใหม่ๆ อีกด้วย Bangkok Bank SME จึงขอนำเรื่องควรรู้มาให้ภาคธุรกิจบ้านเราได้ทราบ เพื่อนำข้อมูลไปสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรของตน

ประเทศไทยแบ่ง ‘สังคมสูงวัย’ ออกเป็น 3 ช่วง
ผู้สูงอายุวัยต้น (อายุ 60-69 ปี)
เป็นกลุ่มที่มีผู้สูงอายุปริมาณสูงสุด 56% ของจำนวนผู้สูงอายุทั้งหมดในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือราว 4.6 ล้านคน เป็นกลุ่มที่ทำงานได้ ต้องการเรียนรู้โซเชียลมีเดีย สนใจสุขภาพ จึงมักทุ่มไปด้านการสร้างเสริมสุขภาพ เน้นตรวจสุขภาพ รับประทานอาหารเสริม เครื่องสำอางเน้นเรื่องความชุ่มชื่น ชะลอวัย
ผู้สูงอายุวัยกลาง (อายุ 70-79 ปี)
มีปริมาณรองลงมา คือราว 2.5 ล้านคน เป็นกลุ่มที่ต้องการพักผ่อน บางคนมีโรคประจำตัวที่ต้องระวัง ยังมีความต้องการเรียนรู้โซเชียลมีเดียอยู่ อุปกรณ์ไอที โรงเรียนสอนการใช้อินเทอร์เน็ต ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม เช่น การท่องเที่ยวแบบช้าๆ
ผู้สูงอายุวัยปลาย (อายุ 80 ปีขึ้นไป)
เป็นกลุ่มที่ ต้องพึ่งพิงผู้ดูแล สัดส่วนอยู่ที่ราว 1 ล้านคน สนใจธุรกิจ ที่เกี่ยวกับการดูแล เช่น เนิร์สซิ่งโฮม ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ จะมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากเหมาะกับสังคมไทยที่เป็นครอบครัวใหญ่ รวมทั้งสินค้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ดูแลจะเป็นหลัก

ผู้สูงอายุกับ 5 Basic Need (ความต้องการพื้นฐาน)
เมื่อผู้สูงอายุกำลังจะกลายเป็นประชากรกลุ่มใหย่ในอีกไม่ช้า ภาคธุรกิจจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มคนเหล่านี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเหมาะสม
ความมั่นคงด้านสุขภาพ
ผู้สูงอายุมีแนวโน้มต้องการสิ่งเหล่านี้เช่น การสนับสนุนและบริการดูแลในระยะยาวสำหรับใช้ชีวิตประจำวัน (Long Term Caring)
ความมั่นคงด้านการเงิน
ผู้สูงอายุต้องวางแผนการเงินเพื่อใช้ชีวิตหลังเกษียณ โดยพาะคนที่เริ่มต้นออมเงินช้าหรือไม่มีหลักประกันความมั่นคง จะต้องการบริการที่ให้คำปรึกษาทางการเงินอย่างจริงจัง
ความเป็นอิสระ
ผู้สูงวัยส่วนใหญ่ไม่ต้องการเป็นภาระของลูกหลาน ต้องการมีชีวิตที่เป็นอิสระและสามารถพึ่งพาตนเองได้ ถือเป็นโอกาสเติบดตสำหรับตลาดสินค้าและบริการที่ช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
สินค้าและบริการสำหรับผู้สูงวัยโดยตรง
เมื่ออายุมากขึ้น สมรรถภาพร่างกายของผู้สูงอายุจะเสื่อมถอยลงไปตามวัย จึงมีความต้องการสินค้าและบริการที่มีความพิเศษและพาะกว่าคนวัยอื่นๆ
ความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งและต้องการสินค้าที่มีคุณภาพ
พฤติกรรมในการเลือกซื้อสินค้าของผู้สุงอายุนั้นแตกต่างจากผู้บริโภคกลุ่มอื่น นิยมจับจ่ายในร้านค้าขนาดเล็กและไม่ชอบที่คนพลุกพล่าน คำนึงถึงคุณภาพของสินค้ามาเป็นอันดับแรก

เข้าใจผู้สูงอายุ สู่การคว้าโอกาสธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการและ SME
ปริมาณและชนิดของสินค้าและบริการโดยเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้สูงอายุยังมีอยู่น้อย แม้ว่าตลาดสินค้าและบริการ รวมทั้งที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุจะมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะสินค้าและบริการในกลุ่มของ Active Aging ที่เป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ และมีอุปสงค์ที่หลากหลาย รวมไปถึงอุปสงค์ในที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุในราคาที่เหมาะสมกับฐานะทางการเงิน ขณะที่ในกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงก็มีอุปสงค์ใน Nursing Home และ Home Care ที่ได้มาตรฐานในจำนวนที่เพียงพอ ดังนั้น จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจทั้งในแง่ปริมาณและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และผู้ให้บริการ
ซึ่งนอกจากธุรกิจ Nursing Home และ Home Care ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น ทั้งในกลุ่มผู้สูงอายุสัญชาติไทยและต่างชาติ ที่จะเข้ามาใช้ชีวิตหลังเกษียณในประเทศไทยมากขึ้นแล้ว ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุที่มีโอกาสเติบโตได้จากอุปสงค์ที่สูงขึ้นต่อเนื่องมีดังนี้

ธุรกิจให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินของผู้สูงอายุ
ได้แก่ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบย้อนกลับ (Reverse Mortgage) ที่ตรงกับความต้องการของผู้สูงอายุที่ไม่มีลูกหลานมากขึ้น ซึ่งในเมืองไทยมีสถาบันการเงินและบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เช่น บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) ให้บริการโครงการดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ยังมีประกันสุขภาพและประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ผู้สูงอายุมากขึ้น ครอบคลุมค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพตลอดช่วงชีวิตในราคาที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงิน รวมถึงเงื่อนไขของการรับผลประโยชน์เมื่อเสียชีวิต รวมทั้งผลิตภัณฑ์ด้านการวางแผนการเงินระยะยาว เพื่อเพิ่ม Wealth Span ตั้งแต่อยู่ในวัยทำงานเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่วัยสูงอายุด้วย

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยที่มีการออกแบบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
เช่น มีบุคลากรทางการแพทย์และ Care Giver ดูแล มีนักโภชนาการคอยดูแลด้านอาหาร มีกิจกรรมสันทนาการและกิจกรรมกลุ่ม รวมไปถึงการมี ‘Aging in Place’ ซึ่งเป็นแนวคิดในการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุอาศัยอยู่ที่บ้านและชุมชนเดิมให้นานที่สุดโดยไม่ต้องย้ายไป Nursing Home หรือ Hospice จะสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้น อาทิ ธุรกิจการให้บริการปรับปรุงบ้านพัก ที่อยู่อาศัยให้มีความเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุมากขึ้น

ธุรกิจการดูแลฟื้นฟูและสร้างเสริมสุขภาพร่างกาย
เวชศาสตร์ชะลอวัย การดูแลด้านทันตกรรมสำหรับผู้สูงอายุ อาหารเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ (โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว) ซึ่งควรมีราคาที่เหมาะสมมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีราคาสูงมาก

ธุรกิจให้บริการด้านนิติกรรมและการจัดการชีวิตให้ผู้สูงอายุ
เช่น ชีวเจตน์ (Living Will) ว่าจะไม่ยื้อชีวิตกรณีเจ็บป่วยวิกฤตและเรื้อรัง การจัดการด้านกฎหมายและเอกสารต่างๆ
ธุรกิจผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ (devices and package)
อาทิ สมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต สมาร์ทวอตช์ เครื่องช่วยฟัง จีพีเอสนำทาง หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ อุปกรณ์สมาร์ทโฮม และระบบติดตามการเคลื่อนไหวเพื่อให้ลูกหลานสามารถติดตามและดูแลผู้สูงอายุขณะที่อยู่ลำพังได้ เป็นต้น
ธุรกิจผลิตอุปกรณ์ช่วยดำรงชีวิตสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะทุพพลภาพ
ได้แก่ ช้อนเฉพาะสำหรับคนไข้ที่มือพิการ สามารถตักอาหารเองได้ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์ที่ช่วยในการเดิน รวมไปถึงผ้าอ้อมอนามัยสำหรับผู้สูงอายุที่สามารถหาซื้อได้ง่ายในราคาที่ไม่แพงมากนัก และมีศูนย์รับซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

ธุรกิจบริการเกี่ยวกับทางการแพทย์
เช่น การเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิง เพื่อไปโรงพยาบาลในราคาที่เข้าถึงได้ ราคาใกล้เคียงกับแท็กซี่สาธารณะและกระจายทั่วถึงครอบคลุมพื้นที่ โดยมีบริการช่วยเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุที่ติดเตียง/พิการ เพื่อให้สามารถไปรับบริการทางการแพทย์ได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งธุรกิจการให้คำปรึกษาผ่าน Telemedicine และจัดส่งยาให้และบริการ Care Giver กระจายไปตามชุมชนหมู่บ้าน เพื่อลดการเดินทางและตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุได้ทั่วถึงมากขึ้น
ธุรกิจจัดการขยะที่เกิดจากการดูแลผู้สูงอายุที่จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
โดยเฉพาะขยะจากผ้าอ้อมอนามัยที่ต้องมีการจัดการอย่างเหมาะสมและถูกสุขลักษณะ
ธุรกิจเกี่ยวกับความบันเทิงสำหรับผู้สูงอายุ - ทัวร์ผู้สูงอายุที่มีผู้ติดตามดูแลหรือ Care Giver ไปด้วย
เพื่อให้ผู้สูงอายุมีโอกาสท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันธุรกิจในลักษณะนี้ยังมีให้เห็นไม่มากนักในเมืองไทย

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ และฝึกทักษะใหม่ๆ ให้กับผู้สูงอายุ
เพื่อคลายความเหงา รวมถึงการสร้างรายได้เพิ่มเติมหลังการเกษียณอายุ โดยการ Upskill ผู้สูงวัย เช่น โรงเรียนสอนคอมพิวเตอร์และสอนภาษา แอปพลิเคชันบริหารสมอง เป็นต้น
ผู้ประกอบการและ SME ที่ได้ไอเดียใหม่ๆ ในการทำธุรกิจเจาะตลาดกลุ่มผู้สูงอายุตอบโจทย์ความต้องการกันไปแล้ว สำหรับภาคธุรกิจที่มองเห็นโอกาสและสนใจในธุรกิจใด ก็อย่ารอช้ารีบเริ่มต้นศึกษาหาข้อมูล มองหาช่องทางสร้างรายได้ให้ออก และเมื่อมั่นใจว่าองค์กรมีความรู้ความสามารถมากพอ การจะประสบความสำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องยาก และมีโอกาสเป็นไปได้เสมอแม้การแข่งขันในตลาดยุคดิจิทัลจะดุเดือดเพียงใดก็ตาม
แหล่งอ้างอิง : สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์, สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน)
https://www.ditp.go.th/contents_attach/155259/155259.pdf
https://tdri.or.th/2018/06/ageing-business/
https://www.thansettakij.com/economy/trade/516405