ในปี 2018 ที่ผ่านมาแทบจะเรียกได้ว่าเป็นยุคแห่ง AI ที่แท้จริง เพราะมีการผลิตและดำเนินการทดสอบ AI ในหลายๆ อุตสาหกรรม และมีผลรองรับในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ไร้คนขับ โดรน Chatbot หรือแม้แต่เรื่องใกล้ตัวอย่าง Smartphone ของเราทุกคนก็มีระบบ AI แฝงอยู่ ทั้งในการช่วยสแกนใบหน้า ทั้งในเรื่องการถ่ายภาพแยกแยะว่าถ่ายรูปคน รูปดอกไม้ หรือรูปธรรมชาติ หรือแม้แต่สมาร์ททีวีสมัยนี้ก็สามารถค้นหารายการที่ชอบด้วยเสียงพูดได้ โดยไม่ต้องใช้รีโมท ซึ่งทำให้เห็นว่า AI นั้นเริ่มที่จะแทรกซึมเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของเราเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว หรือแทบไม่ทันตั้งตัว ซึ่งทั้งหมดนี้คือเหล่า AI ในอนาคต ที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
AI ทำอะไรได้อีกบ้าง
AI ในความคิดใครหลายคนอาจจะมองว่าเป็นหุ่นยนต์ที่ทำในสิ่งที่มนุษย์ทำได้ แต่ในความจริงแล้วไม่ใช่เลย AI คือสมองของหุ่นยนต์อีกทีหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวการในการออกคำสั่งทำสิ่งต่างๆ ตรงนี้เองที่ทำให้มันสามารถที่จะประมวลผลได้รวดเร็วมากกว่ามนุษย์หลายร้อยเท่า รวมทั้งเรียนรู้ได้อย่างว่องไว สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ค่าต่างๆ ที่ตั้งไว้ได้เป็นอย่างดี
อีกทั้ง AI ซึ่งมีความเป็นคอมพิวเตอร์นั้นจะประเมินและเลือกการตัดสินใจทำในสิ่งต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ ถูกต้อง ลดความสูญเสียให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ทำให้แตกต่างกับการตัดสินใจของมนุษย์อย่างมาก
สุดท้ายแล้ว AI เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องการการหยุดพัก ขอแค่มีไฟหล่อเลี้ยงก็สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง แตกต่างจากมนุษย์ที่ต้องมีการพักผ่อนอย่างน้อยๆ 8 ชั่วโมงต่อวัน
ด้วยความฉลาดเหล่านี้เองที่ทำให้ AI ถูกนำไปต่อยอดพัฒนาในหลายๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ด้านเศรษฐกิจ ด้านสาธารณูปโภค ด้านความมั่นคง หรือแม้แต่ด้านการแพทย์ ซึ่งการที่มี AI เข้าไปในอุตสาหกรรมเหล่านี้ก็จะช่วยให้เกิดการประหยัดต้นทุน ช่วยงานที่ต้องทำซ้ำๆ กันให้เสร็จได้ไวขึ้น ช่วยทำงานที่เสี่ยงอันตรายไม่ให้เกิดการสูญเสียมากกว่าเดิม และช่วยงานที่อยู่เหนือความสามารถของมนุษย์ ซึ่งอาชีพที่ใช้ AI ทำแทนได้บ้างแล้วเช่น
1.นักกฎหมาย
อาชีพแรกที่น้อยคนนักจะนึกถึงเวลาพูดถึงคนที่โดน AI แย่งงาน ซึ่งนักกฎหมายนี้ดูไกลตัวมาก แต่ความเป็นจริงแล้วอาชีพนี้ก็หนีไม่พ้นเช่นกัน เพราะตั้งแต่ปี 2014 ได้มีการสร้างซอฟต์แวร์ AI ที่คอยศึกษาตัวบท สัญญา และข้อตกลงทางกฎหมายต่างๆ ขึ้นมา และ AI ตัวนี้ก็สามารถทำแบบทดสอบเอาชนะนักกฎหมายได้อย่างขาดลอย ถูกต้องแม่นยำ และใช้เวลาไวมาก พิจารณากฎหมายได้เร็วกว่าคนถึง 200 เท่า จึงน่าเป็นห่วงว่าอนาคตอาชีพนี้อาจถูก AI แย่งไปได้เช่นกัน
2.พนักงานบัญชี
นักบัญชีที่เคยเป็นอาชีพที่ไม่ว่าบริษัทไหนก็ต้องการตัว อาจจะไม่ใช่อาชีพที่มั่นคงอีกต่อไป เมื่อ AI สามารถเข้ามาทำงานตรงนี้ได้อย่างง่ายดาย เช่น การเก็บรายรับรายจ่าย และการลงบัญชีเบื้องต้น ซึ่งสามารถทำงานได้ทันที โดยทุกวันนี้ต่อให้ไม่มี AI ก็ยังมีโปรแกรมสำเร็จรูปที่สามารถให้เจ้าของธุรกิจทำงานได้เองโดยไม่ยุ่งยาก และไม่ต้องจ้างพนักงานบัญชีอีกต่อไป
3.ทหาร
ถึงแม้ทุกวันนี้ทหารยังคงมีบทบาทอยู่มากในบ้านเรา แต่ในอนาคตไม่ไกลเหล่าทหารจะหมดความจำเป็นลงทันที เมื่อ AI เข้ามาทดแทนตำแหน่งนี้ได้อย่างน่าชื่นชม เพราะในอนาคตการลงทุนเสียเวลาฝึกฝันกับผู้คนนั้นแทบจะไม่จำเป็นอีกต่อไป เราจะมีหุ่นยนต์ที่ออกไปสู้รบแทนคนได้ รวมทั้งยังทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า ทนทานกว่า ใช้เวลาเตรียมการน้อยกว่า รวมทั้งสู้รบได้หลากหลายมากกว่าเข้ามาทดแทน
4.คนงานก่อสร้าง
ถึงแม้จะดูเป็นหนึ่งในอาชีพที่ไม่น่ามีปัญหาสักเท่าไหร่ เพราะไม่เกี่ยวกับเครื่องไม้เครื่องมือเทคโนโลยีใดๆ ทั้งสิ้น แต่ AI เองก็ยังคงคุกคามแรงงานก่อสร้างอยู่ดี เพราะในปัจจุบันโลกเรามี AI ที่ช่วยในการแต่งเติมบ้าน ออกแบบบ้าน รวมทั้งผู้ช่วยในการเทปูน ฉาบปูน และก่อสร้างบ้านแล้ว ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีนี้จะพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ทำให้ AI เข้ามาแทนที่คนงานได้ ทำงาน 24 ชั่วโมงโดยไม่มีคำว่าเหนื่อย ซึ่งจะทำให้การทำงานเสร็จไวขึ้นอีกหลายเท่าตัว
5.หมอ
สุดท้ายแล้วอาชีพที่ไม่น่าจะถูกใครทดแทนได้อย่างอาชีพหมอ ที่ต้องอาศัยความพยายามอย่างหนัก ทั้งเรียน ทั้งประสบการณ์ เพื่อผ่าตัดผู้คนได้อย่างเชี่ยวชาญ ชำนาญ กลับต้องมาจบลงด้วย AI เนื่องจากในอนาคตนั้น AI จะสามารถวิเคราะห์ และวินิจฉัยอาการผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องเพียงป้อนข้อมูลที่ถูกต้องเข้าไป รวมทั้งยังช่วยผ่าตัดในผู้ป่วยได้อย่างแม่นยำ มือนิ่งกว่ามนุษย์ และตัดสินเลือกทำในสิ่งที่เหมาะสมที่สุดได้เป็นอย่างดี เป็นหนึ่งในอาชีพที่ไม่น่าเชื่อว่าจะถูก AI เข้ามาล้มล้างได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว
คำถาม คือ AI จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจนเหลือแต่ AI เลยรึเปล่า
สำหรับคนที่กลัวว่า AI ในอนาคต จะเข้ามาแย่งทุกอย่างในชีวิตไป เหลือแต่การทำงานกับหุ่นยนต์แค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นก็ไม่จำเป็นต้องกลัวไป เพราะต่อให้อนาคต AI จะถูกพัฒนาขึ้นมามากแค่ไหน ก็ยังคงพอมีพื้นที่ว่างให้ผู้คนได้ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ดี AI ไม่สามารถกลายเป็นทุกสิ่ง และเข้ามาทดแทนศักยภาพของผู้คนได้จนหมดสิ้น
แต่ในขณะเดียวกัน เราเองก็ต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงตัวเองให้ฉลาดมากขึ้น และเพิ่มพูนความรู้ความสามารถไปพร้อมๆ กัน เพื่อยกระดับมาตรฐานของตัวเองให้เป็นที่ต้องการ เนื่องจากการแข่งขันในอนาคตนั้นจะเข้มข้นขึ้นยิ่งกว่าเดิม ทำให้ทุกทักษะความสามารถที่มีติดตัวนั้นจะช่วยเป็นประโยชน์ให้กับคุณได้
โดยทักษะที่คนเรายังเอาชนะ AI ได้อยู่ โดยไม่ต้องกลัวการแย่งงานอีกต่อไป นั่นคือเราต้องพัฒนาและปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ
การมีทักษะเหล่านี้ติดตัวจะช่วยให้ตัวเราเองพัฒนามากยิ่งขึ้น แตกต่างจากคนอื่นและเป็นคนมีคุณค่า จนต่อให้ AI จะเข้ามามากแค่ไหน ก็ยังมีคนต้องการความสามารถเราไปใช้งานได้อยู่