ถ้าจะพูดถึงตลาดสินค้าสำหรับค้าปลีกและซัพพลายเออร์ Dropshipping รายใหญ่ที่ทรงอิทธิพลของโลก คงจะหนีไม่พ้น Alibaba ซึ่งก่อตั้งโดย Jack Ma และผู้ร่วมก่อตั้งอีก 17 คนในปี 1999 คำถามคือ นอกจากความรู้ความสามารถของทีมผู้สร้าง Alibaba แล้ว ยังมีอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่ทำให้สามารถดันแพลตฟอร์มตลาดสินค้าออนไลน์แห่งนี้ก้าวขึ้นไปสู่การเป็นตลาดใหญ่ในระดับโลกได้ นั่นก็คือ เทคโนโลยี AI
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme

ความยิ่งใหญ่ของ Alibaba
Alibaba ไม่ได้เป็นเพียงแค่ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับค้าปลีก
หรือเป็นเพียงซัพพลายเออร์ Dropshipping
แต่เป็นเสมือนบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการอย่างหลากหลาย ตั้งแต่ E-Commerce, ตลาดค้าปลีก, เทคโนโลยีในด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยี AI ฯลฯ ไปจนถึงบริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ และบริการคอมพิวเตอร์แบบคลาวด์
ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศจีน
เคยเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่สุดและมีมูลค่ามากที่สุดของโลก เมื่อเดือนเมษายน 2559
และเมื่อปีที่ผ่านมา แม้ว่าหลายธุรกิจจะโดนผลกระทบจากโควิด 19 แต่ Alibaba กลับโตขึ้นสวนกระแส มีมูลค่าสูงกว่า 221,084
ล้านหยวน (ประมาณ 1 ล้านล้านหยวน)
ความมุ่งมั่นของจีนที่มีต่อ AI
หนึ่งในเหตุผลที่ Alibaba เองหรือแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งอื่นในประเทศจีนอย่าง
Tencent และ Baidu ฯลฯ สามารถสร้างผลกำไรมหาศาลได้จากปัญญาประดิษฐ์
หรือ AI ก็คือ นโยบายสนับสนุนจากทางรัฐบาลของจีนเอง
เพื่อชิงมงกุฎความเป็นที่หนึ่งของ AI มาจากสหรัฐอเมริกา
ให้มูลค่าอุตสาหกรรม AI ก้าวไปแตะที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภายในปี 2573 ด้วยความพร้อมในด้านของประชากรจีนที่มีจำนวนมหาศาล สามารถสร้างข้อมูลสำคัญสำหรับฐานระบบของ
AI และการสนับสนุนจากทางการของจีนนี้เอง ที่ทำให้ระบบ AI ในจีนก้าวไปไกลกว่าประเทศอื่นในอาเซียนมาก โดยปัจจุบัน Alibaba ได้ลงทุนสร้างห้องแล็ปวิจัยกว่า 7 แห่ง เน้นไปที่เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะ
ตัวอย่างผลลัพธ์อันน่าทึ่งจาก AI ในวัน Singles 'Day
เชื่อว่าคนในแวดวงธุรกิจส่วนใหญ่ แม้อาจจะไม่ได้สัมผัสหรือเคยสั่งซื้อกับ
Alibaba โดยตรง แต่คงจะพอเคยได้ยินข่าวของ Alibaba จากยอดขายแสนน่าทึ่งในวันเทศกาลคนโสด หรือ Singles 'Day ทุกปีแน่นอน เพราะยอดขายจะพุ่งขึ้นสูงอย่างก้าวกระโดดมากกว่าวันอื่นๆ
ยิ่งในช่วงปีที่ผ่านมาพุ่งทะลุไปกว่า 3 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.37 ล้านล้านบาท)
ทุบสถิติเป็นประวัติการณ์ใหม่แห่งปี ซึ่งเบื้องหลังของผลลัพธ์แสนน่าทึ่งมาจากเครื่องมือ
AI เหล่านี้
Tmall Smart Selection : ระบบอัลกอริทึมที่ประมวลด้วย AI
เรียนรู้ในเรื่องของภาษาและคีย์เวิร์ดต่างๆ
เพื่อช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ให้ผู้ซื้อได้มาเจอสินค้าของร้านค้าได้ตรงใจ
พร้อมทั้งแนะนำให้ผู้ขายสามารถเพิ่มสินค้าในคลังได้ทันกับความต้องการ
Dian Xiaomi : แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI
ทำให้เข้าใจคำถามและสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้แม่นยำมากกว่า 90% ตามข้อมูลใน Big Data ที่ Alibaba ถือครอง และของผู้ใช้งานมากกว่า 3.5 ล้านคนต่อวัน
ทำให้เข้าใจอารมณ์ของลูกค้า จัดลำดับความสำคัญของแต่ละแชท
พร้อมทั้งส่งแจ้งเตือนให้ผู้ขายที่เป็นมนุษย์เข้ามาดูแลและตอบเพิ่มเติม
หุ่นยนต์สำหรับช่วยขนส่งสินค้า : ในไทยอาจจะใช้การบริการขนส่งจากมนุษย์
ทำให้มีการทำงานที่ค่อนข้างจำกัดและบางครั้งอาจจะส่งไปผิดเขต ในขณะที่ Alibaba
เอง มีหุ่นยนต์มากกว่า 200 ตัวในคลังสินค้า
มีระบบการจัดการที่สามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างแม่นยำ พร้อมจัดส่งสินค้าได้กว่า 1
ล้านชิ้นต่อวัน ทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับสินค้าภายใน 24 ชั่วโมง
และทั้ง 3
สิ่งนี้เป็นเพียงตัวอย่างเทคโนโลยีของทาง Alibaba ที่มีการนำ AI มาใช้เพียงบางส่วนที่ถูกหยิบมาใช้ในวันคนโสด
หรือ Singles 'Day แต่ความจริงแล้ว Alibaba ยังมีการคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยี - นวัตกรรมอื่นๆ โดยการใส่ AI ลงไปด้วยอีกมากมาย เช่น ปรับร้านค้าปลีกอย่างซูเปอร์มาร์เก็ต Hema ให้มีความล้ำสมัย
โดยใช้เทคโนโลยีเชิงลึกปรับตลาดออนไลน์และออฟไลน์ให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียว
ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เหนือระดับกว่าซูเปอร์มาเก็ตแห่งอื่นๆ ฯลฯ

ทั้งนี้หากจะศึกษากันจริงๆ แล้ว Alibaba เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในองค์กรต้นแบบที่พัฒนาระบบ AI และเทคโนโลยีต่างๆ ได้อย่างล้ำสมัย คอยคิดค้น พัฒนาให้ก้าวล้ำนำเทรนด์การหยิบเทคโนโลยี AI มาใช้ได้อย่างหลากหลาย แถมยังมีประสิทธิภาพสูงอยู่เสมอ จนน่าจับตามองอยู่ตลอดเวลา ควรค่าแก่การศึกษา เพื่อนำไปต่อยอดในธุรกิจของคุณและทั่วตลาดในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง


