เดี๋ยวนี้ไม่ว่าใครก็หันมาดูแลใส่ใจสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น
เพราะแน่นอนว่าการมีสุขภาพที่ดีเป็นเรื่องของการใส่ใจตัวเองควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งการที่จะมีรูปร่างที่ดียังต้องอาศัยความอดทนและวินัยในการกินควบคู่กับการออกกำลังกาย
ทั้งไม่มีทางลัดสำหรับเรื่องนี้อีกต่างหาก บางครั้งอาจจะต้องจ่ายเงินค่าเทรนเนอร์ฟิตเนสไปมากมายเพื่อแลกกับการชี้นำในการออกกำลังกาย
แต่จะดีกว่าไหมถ้าคุณสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยมีแค่สมาร์ทโฟนก็พอ
ในที่นี้เราเลยรวบรวม 5 แอปพลิเคชันดีต่อใจที่จะช่วยให้หุ่นดีขึ้นได้แบบเห็นผลทันตามาฝากกัน เป็นตัวช่วยที่จะแนะนำทุกเทคนิคที่คุณอาจไม่เคยรู้มาเสิร์ฟให้คุณถึงที่ รับรองหุ่นดีขึ้นกว่าเดิมแน่
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
1. Fitbit Coach
สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง
คือ ยกดัมเบล วิดพื้น สควอท อะไรพวกนี้ การมีเทรนเนอร์ส่วนตัวมาสอนท่าทางที่ถูกต้องให้ก็จะช่วยให้เราได้ใช้แรงอย่างถูกจุด
กล้ามขึ้นอย่างเห็นผล เผาผลาญได้ถูกต้องรวดเร็ว
และลดความเสี่ยงในการทำท่าผิดจนเกิดอุบัติเหตุอีกด้วย ซึ่งแอปพลิเคชันนี้จะมีการจัดโปรแกรมการออกกำลังกายมาให้
และมีการคำนวณอัตราการเผาผลาญพลังงานมาแบบครบถ้วนเลยล่ะ
ผู้เล่นสามารถดูท่วงท่าการออกกำลังที่ถูกต้อง และทำตามโปรแกรมที่วางไว้ได้ทันที และที่สำคัญมีการทดสอบความฟิตร่างกายของเราก่อนเริ่มใช้งานด้วย ทำให้แบ่งแยกประเภทของการออกกำลังกายไม่ให้หักโหมจนเกินไปสำหรับผู้เริ่มต้น
2. MyFitnessPal
สำหรับคนที่กำลังควบคุมอาหารอยู่
แล้วไม่รู้ว่าวันวันหนึ่งจะสามารถกินอะไรได้บ้างถึงจะไม่เกินแคลอรีที่กำหนดไว้
ก็โหลดแอปฯ MyFitnessPal ตัวนี้มาใช้กันได้เลย
เพราะมันจะคอยตรวจดูว่าในแต่ละวันเรากินเข้าไปกี่แคลอรีแล้ว ซึ่งเราสามารถใส่ชื่ออาหารที่กินเข้าไปได้เลย
แถมถ้าอันไหนในระบบไม่มีข้อมูลให้เราก็สามารถแอดเข้าไปเองได้
ใครที่กำลังลดน้ำหนักอยากให้หุ่นสวย แอปฯ นี้ก็จะมีการเก็บข้อมูลจำนวนแคลอรีที่เราได้กินเอาไว้ และคำนวณว่าวันวันนึ่งเราต้องกินเท่าไหร่เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายในการลดน้ำหนักของเรา
3. 7 Minute Workout
สำหรับคนที่ชอบบอกว่าตัวเองไม่มีเวลา
หรือวันวันหนึ่งไม่ค่อยมีเวลาว่างสักเท่าไหร่ ขอให้คิดใหม่ได้เลย
เพราะการออกกำลังกายเรียกหุ่นดีอย่างที่ฝันไว้นั้นใช้เวลาแค่ 7 นาที (ต่อวัน)ไม่นานเลยใช่มั้ย?
แอปฯ 7 Minute Workout นี้ได้ออกแบบมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนสมัยใหม่อย่างแท้จริง คือ
ใช้เวลาสั้นๆ ในการออกกำลังกาย
แถมยังมีคอมมูนิตี้ให้อัปเดตและพูดคุยกับคนที่ใช้แอปฯนี้ได้ด้วย ซึ่งจะมีการจัดตารางการออกกำลังกายมาให้แบบเป็นเซต ว่าจะต้องออกแบบไหน มีอุปกรณ์มั้ย เอาแบบกี่นาที เน้นจุดไหนของร่างกายเป็นหลัก ปรับได้หมดเลย มีท่าให้เลือกออกกำลังกายมากกว่า 200 แบบเลยด้วย
4. Runkeeper
ใครชอบวิ่งต้องมี Runkeeper ติดสมาร์ทโฟนไว้เลย เพราะแอปฯ นี้จะคอยติดตามว่าเราใช้เวลาวิ่งทั้งหมดกี่นาที
วิ่งได้กี่กิโลเมตรแล้วตามเป้าหมายที่วางไว้รึยัง หรือว่าวิ่งจากไหนถึงไหน
นอกจากการวิ่งยังสามารถเทรคการเดินเขา ขี่จักรยาน หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ
อย่างการเดินป่าได้อีกต่างหาก
Runkeeper ใช้การวัดระยะจาก GPS ทำให้ตอบโจทย์ได้ครอบคลุมทุกกิจกรรมที่เราต้องการ สามารถตั้งค่าเสียงเทรนเนอร์ได้ด้วยว่าอยากให้ออกมาแนวไหน จะวิ่ง ปั่น เดิน หรือทำกิจกรรมอะไรก็เห็นผลได้ดีขึ้น
5. Lose Weight in 30 Days
สุดท้ายมาพบกับแอปฯที่ช่วยให้หุ่นดีแบบเห็นผลจริง
เหมาะกับคนที่อยากลดน้ำหนักแบบรักษาสุขภาพ เพราะ Lose Weight in 30 Days
จะช่วยเลือกว่าเราควรจะออกกำลังกายช่วงไหนเป็นหลัก ทั้งแขน ก้น
หน้าท้อง น่อง ขา มีให้เลือกหมด จะได้โฟกัสกับการลดสัดส่วนที่เราไม่ต้องการได้
ที่สำคัญมีวิดีโอการออกกำลังในท่าต่างๆ
ให้ได้ดูด้วยนะ และมีแพลนเมนูอาหารที่ควรกินในแต่ละมื้ออีกต่างหาก งานนี้หุ่นดีใน
30 วันตามชื่อแอปฯแน่(ถ้าทำตามอย่างเคร่งครัด)
สุดท้าย แต่ถึงแม้เราจะโหลดแอปพลิเคชันลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ช่วยให้หุ่นดีเอาไว้เต็มเครื่องมากแค่ไหน ถ้าเราไม่ทำตาม หรือไม่มีระเบียบวินัยก็คงไม่ได้หุ่นที่ต้องการมาไว้ในครอบครอง ดังนั้นอย่าลืมแบ่งเวลามาออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำให้สม่ำเสมอถึงแม้จะไม่ได้หุ่นสวยหรือมัดกล้ามที่หวังไว้ แต่สุขภาพของคุณจะดีขึ้นแน่นอน และเมื่อสุขภาพดีก็เป็นพื้นฐานให้หลายๆ สิ่งในชีวิตดีตามไปด้วย ลองดูสิ