ในยุคปัจจุบันมีการเก็บและประมวลข้อมูลจำนวนมหาศาล หรือที่เรียกว่า ‘Big Data’ ซึ่งให้ประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันมากมาย ตั้งแต่การทำการตลาด Data-Driven Marketing ไปจนถึงการนำมาใช้งานกับการสร้างสรรค์แอปพลิเคชัน เสริมประสิทธิภาพการขายสินค้า บริการให้ปัง และตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น ส่งเสริมให้ธุรกิจเติบโตไปได้ไวอีกระดับ แต่จะต้องสร้างแอปพลิเคชันควบคู่กับการใช้ Big Data ลองรับชมแนวทางจากตัวอย่างธุรกิจเหล่านี้กัน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. ร้านอาหาร
แน่นอนว่าประเภทร้านอาหารที่ควรค่าแก่การนำ
Big data มาใช้ คงหนีไม่พ้นกลุ่มอาหารจานด่วนอย่างฟาสต์ฟู้ด
เนื่องจากเป็นธุรกิจอาหารที่ต้องมีการแข่งขันกับเวลา
เพื่อประหยัดระยะเวลาทั้งผู้ให้บริการและการใช้งาน
รวมถึงแข่งขันในตลาดเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเห็นได้เลยว่าธุรกิจฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่อย่าง
McDonald's, KFC, Pizza Hut, Domino
Pizza ฯลฯ ที่มีการนำ Big data มาเสริมการทำงานของแอปพลิเคชันและเว็บไซต์เช่นกัน
ทั้งนี้ไม่จำเป็นว่าต้องเฉพาะร้านฟาสต์ฟู้ดเท่านั้น อุตสาหกรรมอาหารอื่นๆ
ก็สามารถใช้งาน Big Data ได้เช่นกัน
- แนะนำ ควรมีการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า ความสนใจ
และพฤติกรรมการเลือกซื้อในแต่ละเมนู (อาจเก็บข้อมูลรสชาติที่ชอบ
และความต้องการเพิ่มเติมของบุคคลแต่ละรายด้วยก็ได้),
ระยะเวลาที่มีการสั่งในแต่ละเมนู,
ร้านอาหารทั่วไปอาจมีการแสดงคลังอัจฉริยะแบบเรียลไทม์
เพื่อให้ผู้ที่สนใจเมนูนั้นได้ทราบว่า ยังเหลืออีกหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน
2. สื่อบันเทิงออนไลน์
การทำสื่อบันเทิงไม่ว่าจะ Youtube, TikTok หรือแอปสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง
Netflix ต่างก็มีการพัฒนาในเรื่องของการนำ Big Data มาใช้ทั้งสิ้น เพื่อปรับการแสดงผลให้สามารถนำเสนอรายการคอนเทนต์ที่น่าสนใจ
เหมาะกับรสนิยมของผู้ใช้งานแต่ละรายได้อย่างตรงใจให้เร็วทันใจที่สุด
เพราะในขณะที่คอนเทนต์บนแต่ละแพลตฟอร์มมีจำนวนมหาศาลเป็นหลักแสนหลักล้าน
หากปล่อยให้ผู้ใช้งานมานั่งค้นหาเอง อาจจะต้องนั่งตามหานานจนเบื่อที่จะใช้งานต่อก็เป็นได้
- แนะนำ อย่างน้อยต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้งาน และความต้องการเสพคอนเทนต์ของผู้ใช้งานแต่ละบุคคล
เก็บข้อมูลอุปกรณ์และระยะเวลาที่เข้าใช้งาน
เพื่อวิเคราะห์แผนในการนำเสนอคอนเทนต์ต่อไป
นำข้อมูลไปต่อยอดในการสร้างสรรค์คอนเทนต์หรือทำโฆษณาต่อไป
3. การท่องเที่ยว
แม้ว่าช่วงโควิด 19
ที่ผ่านมาจนปัจจุบัน จะทำให้การท่องเที่ยวมีกระแสแผ่วลงไปพอสมควร
แต่การมีแอปพลิเคชั่นที่สนับสนุนนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ที่นิยมใช้งานหรือเลือกสินค้า/บริการต่างๆ
ผ่านโลกดิจิทัลมากกว่าการติดต่อเอเจนซี่ทัวร์ ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้จะสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงได้เป็นวงกว้างในระดับทั่วโลก
มากกว่าการทำการตลาดแบบเดิมที่เข้าถึงได้เฉพาะวงแคบอย่างผู้คนภายในประเทศ ดังนั้น
หากอยากไปต่อในเรื่องของการท่องเที่ยว จำเป็นที่จะต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของคนในปัจจุบัน
- แนะนำ ให้เก็บรวบรวมข้อมูลของนักท่องเที่ยวที่มีการใช้งานบนแอปพลิเคชั่น
โซเชียลมีเดีย, รวบรวมข้อมูลบัตรเครดิต/บัตรเดบิต, มีตัวช่วยวางแผนสายการบินให้สามารถวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นำเสนอแพ็กเกจเที่ยวที่น่าสนใจ
และจัดหาสิทธิประโยชน์พิเศษให้เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละราย ฯลฯ
4. ตลาดอีคอมเมิร์ซ
หนึ่งในกิจการที่มีการใช้ข้อมูล Big Data เป็นจำนวนมหาศาลเช่นกัน เนื่องด้วยคนส่วนใหญ่หันมาขายของออนไลน์และขายดีมากขึ้นในช่วงโควิด
19 นี้ จึงทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือด ไม่ว่าจะตลาดเล็กหรือใหญ่ก็ตาม การมี
Big data ยิ่งทำให้เป็นข้อได้เปรียบ
สำหรับการนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้วิเคราะห์และแสดงผลให้ผู้ใช้งานในแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะผู้ขายหรือผู้ซื้อก็ตามต่างต้องรู้สึกว่า
ได้ประโยชน์และความสะดวกสบายร่วมกัน จะเห็นตัวอย่างได้จาก Shopee, Lazada ฯลฯ
- แนะนำ มีการรวบรวมข้อมูลและความต้องการของลูกค้า ก่อนที่จะมีการเปิดตัวแอปพลิเคชันอย่างเป็นทางการ
และควรมีการประเมินพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อปรับการแสดงผลให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งานตลอดเวลา
เพื่อเพิ่มยอดขายและรายได้ให้แก่ฝั่งผู้ขาย
จัดเรียงข้อมูลโพสต์ขายสินค้าตามที่ลูกค้าน่าจะสนใจ เช่น เรียงตามยอดขาย
โพสต์ล่าสุด ที่เกี่ยวข้อง เรียงตามราคา เรียงตามเรทคะแนน ฯลฯ
ทั้ง 4 ตัวอย่างธุรกิจที่เราได้นำมาบอกต่อ
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธุรกิจที่ในปัจจุบันผู้บริโภคส่วนใหญ่คงจะพอได้พบเจอกันมาบ้างแล้ว
แต่ไม่ใช่ว่าการนำ Big Data มาปรับใช้กับแอปพลิเคชันจะเหมาะแค่กับเพียง
4 ธุรกิจนี้เท่านั้น แต่ยังคงเหมาะกับอีกหลากหลายประเภทธุรกิจ
อยู่ที่การหาวิธีเก็บข้อมูลและการนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมในแต่ละธุรกิจกัน สำหรับธุรกิจใดที่ยังคงมองข้าม
หรือยังไม่รู้จัก Big Data ก็อาจจะต้องรีบศึกษาต่อไป
เพราะในยุคนี้และยุคถัดไปการใช้ Big Data จะเข้ามาเป็นอีกเรื่องสำคัญที่อยู่ในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปและกิจการทุกประเภท
อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
และการวิเคราะห์ข้อมูลให้เลือกใช้ ตั้งแต่บริการฟรี จ่ายเป็นรายเดือน
หรือสัญญาตามจำนวนครั้ง ดังนั้นการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาการตลาดโดยใช้ Big Data ควรวางไว้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการใช้งานที่แท้จริง