สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้น สร้างความกังวลให้แก่ตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก
ราคาสินทรัพย์ผันผวนสูง นักลงทุนในหลายประเทศเทขายสินทรัพย์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง กระทบสภาพคล่องของตลาดการเงิน
ส่งผลให้ตลาดการเงินไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
ภาครัฐในหลายประเทศจึงได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินอย่างต่อเนื่อง แม้ระบบสถาบันการเงินไทยโดยรวมยังมีเสถียรภาพดี ธนาคารพาณิชย์ไทยมีเงินกองทุนเข้มแข็งและไม่มีปัญหาสภาพคล่อง แต่สถานการณ์สภาพคล่องตึงตัวในระบบการเงินโลก และกลไกตลาดการเงินที่ทำงานต่างจากสภาวะปกติได้เริ่มส่งผลต่อตลาดการเงินไทย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) ได้ช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องในตลาดการเงิน
เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึนต่อเศรษฐกิจ โดยเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลกว่าหนึ่งแสนล้านบาท
ในช่วงวันที่ 13 -20 มีนาคม 2563
ลดและยกเลิกการออกพันธบัตร ธปท. และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 คณะกรรมการนโยบายการเงินได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
มาอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ร้อยละ 0.75 ต่อปี
อย่างไรก็ดี สถานการณ์ที่ยังมีความผันผวนสูง
ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนบางส่วนเร่งไถ่ถอนหน่วยลงทุน จากกองทุนรวมตราสารหนี้ส่งผลให้กองทุนรวมตราสารหนี้บางแห่ง
ต้องเร่งขายตราสารหนี้ที่ส่วนใหญ่มีคุณภาพดีในราคาต่ำกว่าปกติ เพราะการขาดสภาพคล่องในตลาดการเงิน
ส่งผลให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ต่ำกว่าที่ควรโดยไม่จำเป็น
ซึ่งอาจส่งผลต่อเนื่องให้เกิดการไถ่ถอนหน่วยลงทุนอื่นๆ ตามมา จนกระทบต่อการทำงานของกองทุนรวมตราสารหนี้และตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
รวมถึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ภาคเอกชน เศรษฐกิจ และประชาชนเป็นวงกว้าง
กระทรวงการคลัง ธปท. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(ก.ล.ต.) ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
และเห็นควรออกมาตรการสนับสนุนเสถียรภาพตลาดการเงินไทย ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาการขาดสภาพคล่องในตลาดการเงินขยายผลต่อไป
โดยมาตรการดังกล่าว ประกอบด้วยการดำเนินงานใน 3 ด้านดังต่อไปนี้
1. กองทุนรวมตราสารหนี้ ธปท.จัดตั้งกลไกพิเศษเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่กองทุนรวมผ่านธนาคารพาณิชย์
โดยธนาคารพาณิชย์ที่เข้าซื้อหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมตลาดเงิน (Money market fund) และกองทุนรวมตราสารหนี้ที่เป็นกองทุนเปิด
(Dailyfixed income fund) ที่ถือสินทรัพย์คุณภาพดี แต่ได้รับผลกระทบจากการที่ตลาดการเงินขาดสภาพคล่อง
สามารถนำหน่วยลงทุนดังกล่าวมาวางเป็นหลักประกัน เพื่อขอสภาพคล่องจาก ธปท.ได้
โดยจะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์ในตลาดการเงินจะเข้าสู่ภาวะปกติ จากการประมาณการเบื้องต้น
พบว่ามีกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มี สินทรัพย์คุณภาพดีที่สามารถนำมาวางเป็นหลักประกัน
เพื่อขอสภาพคล่องจาก ธปท. ได้มูลค่ารวมกว่าหนึ่งล้านล้านบาท
2. ตราสารหนี้ภาคเอกชน สมาคมธนาคารไทย
ธุรกิจประกันภัย และกองทุนบำเหน็จ บำนาญข้าราชการ ร่วมกันจัดตั้งกองทุนเสริมสภาพคล่อง
เพื่อลดความเสี่ยงของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน วงเงินเริ่มต้น 70,000 – 100,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในตราสารหนี้ ภาคเอกชนออกใหม่ของบริษัทที่มีคุณภาพดีแต่ประสบปัญหาตลาดขาดสภาพคล่อง
จนส่งผลให้ไม่สามารถต่ออายุ (rollover) ตราสารหนี้ที่ครบกำหนดได้ครบทั้งจำนวน
3. ตราสารหนี้ภาครัฐ ธปท. พร้อมที่จะดูแลให้กลไกตลาดตราสารหนี้ภาครัฐทำงานได้อย่างราบรื่น
มีประสิทธิภาพ และมีสภาพคล่องเพียงพอผ่านการเข้าซี้อพันธบัตรรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
มาตรการเหล่านี้จะเสริมสภาพคล่องของตลาดการเงิน และช่วยให้กลไกตลาดตราสารหนี้กลับมาทำงานได้อย่างปกติ ท่ามกลางภาวะตลาดการเงินโลกที่ผันผวน และจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนตราสารหนี้ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน จะร่วมกันติดตามพัฒนาการในตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะร่วมมือในการดำเนินมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าตลาดการเงินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป