ปี 2562 บริษัทไมโครซอฟท์และ IDC ได้เผยผลสำรวจองค์กรในประเทศไทย พบว่า 57% ขององค์กรได้นำ AI มาใช้งานแล้ว ทั้งในรูปแบบของ AI ที่มากับโซลูชันที่องค์กรเลือก และการตั้งใจนำ AI มาประยุกต์ใช้เอง ซึ่งในปัจจุบันการใช้ AI ไม่ได้จำกัดอยู่ในธุรกิจสายคอมพิวเตอร์หรือบริษัทที่มีชื่อเสียงทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่นำไปใช้อย่างแพร่หลายจนแทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในทุกภาคส่วน ลองมาดูกันว่า AI ถูกนำมาใช้ในธุรกิจแต่ละภาคส่วนอย่างไรบ้าง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ด้านสาธารณสุข
การวินิจฉัยโรคต่างๆ ให้ถูกต้องนั้น แพทย์แต่ละคนต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนักในสาขาเฉพาะทางที่ตนเลือก
เพื่อสั่งสมประสบการณ์ให้สามารถวิเคราะห์อาการได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ แต่ระบบ AI ทางการแพทย์ สามารถฝึกฝนจากข้อมูลที่เทียบเท่ากับการฝึกฝนนับล้านชั่วโมง
เสมือนการเรียนรู้จากประสบการณ์ของหมอหลายพันคนพร้อมกัน
ได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในเวลาที่รวดเร็วกว่ามาก ฉะนั้นในบางกรณี AI จะสามารถวิเคราะห์โรคจากอาการได้แม่นยำใกล้เคียงหรือเหนือกว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเลยทีเดียว
ด้านเกษตรกรรม
ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม
เทคโนโลยี AI สามารถนำมาใช้เพื่อดูแลแปลงเกษตร
และวิเคราะห์ว่าพืชแปลงไหนมีวัชพืช หรือขาดแคลนน้ำและปุ๋ยได้ ด้วยการป้อนข้อมูลที่ได้จากเซ็นเซอร์ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นระดับความชุ่มชื้น ค่า pH ของดิน อัตราการเติบโตของพืช
สีของใบ และอื่นๆ เข้าไปให้ AI วิเคราะห์สภาพของดิน
หลังจากระบบวินิจฉัยแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอัตโนมัติ
(Automation Technology) เพื่อช่วยให้เกษตรกรดูแลแปลงเพาะปลูกได้
โดยไม่ต้องพึ่งแรงงานมนุษย์
นอกจากนี้ AI ยังสามารถกำหนดปริมาณและสถานที่ที่ต้องการยาฆ่าวัชพืชหรือปุ๋ยได้อย่างแม่นยำ
จึงช่วยลดปริมาณสารตกค้าง ซึ่งเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภค
และตัวเกษตรกรเองได้อีกด้วย อีกประโยชน์หนึ่งของการใช้ AI ในด้านการเกษตร ก็คือการนำมาใช้ในระบบควบคุมและตัดสินใจของหุ่นยนต์สำหรับการเก็บเกี่ยวผลิตผลต่างๆ
ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลไม้ที่สุกพอดีได้อย่างแม่นยำ
และนำไปสู่การลดปริมาณผลไม้เน่าเสีย
ด้านการเงิน
ก่อนที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินต่างๆ จะปล่อยเงินกู้ให้กับลูกค้า
จำเป็นต้องตรวจสอบทรัพย์สินและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า
เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนเสมอ ซึ่งในปัจจุบันข้อมูลเกือบทั้งหมดถูกจัดเก็บอยู่ในรูปแบบดิจิทัล
จึงทำให้สถาบันการเงินสามารถนำข้อมูลที่มีไปใช้สร้างโมเดลเพื่อประเมินผู้ยื่นกู้ และพยากรณ์ความสามารถในการชำระหนี้ได้
การมีข้อมูลอยู่ภายในระบบจึงช่วยเพิ่มความง่ายดายในการส่งข้อมูลไปให้โมเดลของ AI ประมวลผล
ซึ่งตอนนี้ทางแบงก์ชาติได้ประกาศหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล
(Digital Lending) ของธนาคารและสถาบันการเงินแล้ว
ด้านขนส่งและการเดินทาง
รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (self-driving car) ที่กำลังเป็นกระแสและมีบริษัทชื่อดังหลายแห่ง
เช่น Tesla GM และ Ford ทำการพัฒนาอยู่ในปัจจุบัน
เทคโนโลยีทางด้าน AI ที่ใช้อยู่ภายในรถยนต์อัตโนมัติมีอยู่เป็นจำนวนมาก
ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือการใช้เทคนิคด้าน Image recognition และ
Deep Learning เพื่อช่วยตรวจจับวัตถุจากภาพที่เห็นผ่านกล้อง ข้อมูลที่วัดจากเซ็นเซอร์คำนวณระยะห่างของวัตถุต่างๆ
จากรถ และจำลองการตัดสินใจของผู้ขับ
นอกจากนี้ AI ยังสามารถใช้ในเรื่องอื่นๆ เช่น
การวางแผนการจราจรและเส้นทางการเดินทางได้อีกด้วย โดยเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ได้ร่วมกับบริษัท
Huawei ติดตั้งเครือข่าย “Traffic Brain” เพื่อทำหน้าที่เก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิดจำนวนมหาศาลมาใช้ตรวจดูสภาพการจราจร
และวิเคราะห์แก้ไขสภาพรถติด รวมทั้งใช้เทคโนโลยีในด้าน image recognition ตรวจจับทะเบียนและลักษณะรถ เพื่อช่วยเหลือตำรวจในการรักษากฎจราจรอีกทางหนึ่ง
ด้านการเรียนรู้
เทคโนโลยี AI เพื่อการศึกษา ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนได้
เลียนแบบวิธีคิดของมนุษย์มากขึ้น เช่น การสอนให้ระบบเข้าใจความหมาย (Semantic)
ของข้อมูลมากขึ้น
รวมถึงพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบของเครื่องมือและแอปพลิเคชันที่สนับสนุนทั้งฝั่งผู้เรียน
และอำนวยความสะดวกแก่ผู้สอนมากยิ่งขึ้น โดยนอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการสนับสนุนการเรียนรู้ตามอัธยาศัย
ออกแบบหลักสูตร รวมไปถึงการบริการทรัพยากรสนับสนุนการศึกษา ซึ่งในอนาคตเราอาจมีความสุขกับระบบสนับสนุนการเรียนรู้ที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับตัวเรา
ทำให้ “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” เกิดขึ้นได้จริงๆ
การแก้ปัญหาสังคม
อัลกอริทึม AI ในตระกูลของการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) นับเป็นหนึ่งในเทคนิคที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ได้โดยตรง
โดยการนำเทคนิคนี้ไปวิเคราะห์ลักษณะของข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์เกี่ยวกับปัจจัยด้านองค์ประกอบของคำหรือความหมาย นอกจากนี้ผลลัพธ์จากการวิเคราะห์ยังสามารถนำไปใช้แยกแยะชนิดของข้อความ
(Text Classification) หรือวิเคราะห์ด้านอารมณ์ความรู้สึก (Sentiment
Analysis) เพื่อทำนายว่าข้อความนั้นๆ
มีความหมายเชิงบวกหรือลบมากน้อยแค่ไหนอีกด้วย ตัวอย่างเช่น The Trevor
Project องค์กรที่สนับสนุนด้านสุขภาพจิตของวัยรุ่นในกลุ่ม LGBTQ
ซึ่งในสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงฆ่าตัวตายสูง
ทางองค์กรจึงเปิดช่องทางติดต่อให้คำปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความมือถือ และแชท
โดยใช้เทคนิคทาง NLP ประมวลผลข้อความและวิเคราะห์อารมณ์ความรู้สึกของผู้ส่ง
เพื่อช่วยให้ที่ปรึกษาขององค์กรสามารถประเมินระดับความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายของวัยรุ่นที่ติดต่อเข้ามา
และช่วยเลือกให้บริการที่เหมาะสมที่สุดแก่คนแต่ละคนอีกด้วย
ในระยะเวลาอันใกล้นี้อัตราการใช้งาน AI จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ภายใต้เงื่อนไขความพร้อมของบุคลากรเป็นพื้นฐานสำคัญ
โดยเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างการทำงานร่วมกันระหว่างหุ่นยนต์และมนุษย์จะกลายเป็นทางออกที่ยั่งยืนที่สุด
แก้ปัญหาเรื่องตลาดแรงงาน ไปจนถึงการทำงานของระบบอัตโนมัติและแรงงานที่มีความยืดหยุ่น
แหล่งอ้างอิง :
https://waa.inter.nstda.or.th/