ใครที่ชอบเที่ยวเมืองเล็ก ๆ ที่บ้านเมืองเจริญ เดินทางสะดวกสบาย แต่ยังคงกลิ่นอายของเมืองเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีความหลากหลายด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรม จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก “ปีนัง” เท่านั้นที่เป็นคำตอบถูกต้องที่สุด
“ปีนัง” เป็นรัฐหนึ่งใน 13 รัฐของประเทศมาเลเซีย คนไทยรู้จักปีนังมาตั้งสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เรียกกันว่า “เกาะหมาก” และในยุค 50-60 ปีที่ผ่านมาคนไทยยังนิยมจะส่งลูกหลานไปเรียนภาษาอังกฤษที่ปีนัง แทนการข้ามน้ำข้ามทะเลไปเรียนถึงอังกฤษ
“ปีนัง” ได้รับการขนานนามว่า “ไข่มุกแห่งตะวันออก” สืบเนื่องบ้านเมืองที่มีความงดงามและอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ในสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่สวยงามอมตะและโรแมนติก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ขณะที่ Gorge Town คือเมืองหลวงของปีนัง ที่ปัจจุบันใคร ๆ จะรู้จักว่าเป็นเมืองฮิปที่มีสตรีทอาร์ตที่ขึ้นชื่อจนหลาย ๆเมืองนำเอาไปเป็นแบบอย่าง แต่ในความเป็นจอร์จทาวน์ยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตบอกเล่าเรื่องราวยุคล่าอาณานิคมของอังกฤษในสมันศตวรรษที่ 18 ซึ่งยังทิ้งร่องรอยของอาคารบ้านเรือนที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีสอันเป็นเอกลักษณ์ที่งดงามจนกลายเป็นเมืองมรดกโลก
ชาวปีนังประกอบด้วยหลากหลายชนชาติ ต่างศาสนา และวัฒนธรรม แต่กลับอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ทั้งพุทธ คริสต์ ฮินดู อิสลาม ต่างอาศัยอยู่ร่วมกันอยู่ในย่านจอร์ทาวน์ ที่ต่างมีศาสนสถานติดกันหรือใกล้กันเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้อย่างสงบเรียบร้อย
เช่นนั้นลองไป check in ศาสนสถานสำคัญในแต่ละศาสนาที่จอร์จทาวน์กันดีกว่า แล้วคุณจะต้องร้องว่า “โอ้ว พระเจ้าจอร์จ มันยอดจริง ๆ”
Kapitan Keling Mosque
เป็นมัสยิดสีขาวโดดเด่นเป็นสง่างาม มีอายุเก่าแก่ที่สุดในปีนังสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวมุสลิมกลุ่มแรกที่เดินทางมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ปีนัง Cauder Mohuddeen ผู้นำทางศาสนา เป็นผู้สร้าง
มัสยิดแห่งแรกเก่าแก่ทรุดโทรม จึงมีการสร้างใหม่แทนหลังเดิมเมื่อปี 1916 โดมหอคอยของมัสยิดเป็นสถาปัตยกรรมแนวอิสลามที่ได้รับอิทธิพลมาจากอินเดีย เปิดให้เข้าชมฟรีแต่จะต้องเปลี่ยนชุดก่อนเข้าไปในมัสยิด ซึ่งมีชุดไว้บริการให้นักท่องเที่ยว
เทวสถานศรีมหามารรีอัมมาน (Sri Mahamariamman Temple)
ตั้งอยู่ในย่าน Little India ซึ่งเป็นชุมชนใหญ่ของชาวฮินดู เป็นเทวสถานที่เก่าแก่ที่สุดในจอร์จทาวน์ สร้างขึ้นเมื่อปี 1833 มีการบูรณะอีกครั้งเมื่อปี 1933 ความโดดเด่นทางศิลปกรรมอยู่ที่ซุ้มประตูที่เรียกว่า โคปุระ สูงเด่นตระหง่านประดับประดาด้วยรูปเทพเทวาต่างๆมากมายตามแบบนิยมของศิลปะทมิฬ พระเป็นเจ้าองค์ประธานในเทวสถานแห่งนี้คือ “เจ้าแม่มารีอัมมานเทวี” เทพธิดาผู้ปกป้องและปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และถือว่าเป็นปางหนึ่งของ “พระอุมา” ชายาของพระศิวะด้วย
วัดเจ้าแม่กวนอิม
สร้างขึ้นโดยชาวจีนฮกเกี้ยนและชาวจีนกวางตุ้งกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาตั้งรกรากบนเกาะปีนัง ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะปีนัง มีอายุกว่า 100 ปี เนื่องจากเจ้าแม่กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีเมตตา ชาวปีนังที่มากราบไหว้ส่วนมากจึงมาอธิษฐานขอให้หายป่วยจากโรคร้ายรวมถึงขอให้ทำการค้าร่ำรวย ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมแบบจีนที่สวยงาม รวมทั้งการตกแต่งแบบจีนอันเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีรูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิม 18 มือ ที่งดงามตั้งอยู่ภายในวัด ซึ่งเป็นจุดสำคัญของวัดแห่งนี้
โบสถ์เซนต์จอร์จ (St. George’s Church)
เป็นศาสนสถานคริสต์นิกายแองกลิคัน สร้างขึ้นเมื่อปี 1818 ถือเป็นโบสถ์นิกายแองกลิกันที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อสร้างโดยบริษัท อีสต์อินเดียของอังกฤษ เพื่อเป็นศาสนสถานหลักของชาวอังกฤษในอาณานิคมแห่งนี้ สถาปัตยกรรมของตัวโบสถ์ส่วนใหญ่เป็นสไตล์นีโอคลาสสิค ภายนอกโบสถ์มีศาลาอนุสรณ์สถาน ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 1886 เพื่อระลึกถึงเซอร์ฟรานซิส ไลท์ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เดิมตัวโบสถ์ได้รับความเสียหายอย่างหนักและถูกปล้นสิ่งของข้างในไปมากมาย ในปีค.ศ. 2007 โบสถ์เซนต์จอร์จได้รับการประกาศให้เป็นมรดกแห่งชาติของมาเลเซีย และปัจจุบันก็เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมโดยไม่เสียค่าเข้าใดๆ
วัดไชยมังคลาราม
เป็นวัดไทยสร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2388 เนื่องจากมีคนไทยและคนไทยเชื้อสายจีนในภูเก็ต ได้เดินทางมาทำการค้าขายในเกาะปีนังเป็นจำนวนมาก และในเกาะปีนังเองก็มีคนจีนแผ่นดินใหญ่ที่นับถือศาสนาพุทธ อยู่เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน จึงได้สร้างวัดขึ้นมา เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธ
ภายในมีองค์พระประธานเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่ยาวที่สุดในมาเลเซีย วัดนี้ในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ เยือนเพื่อประกอบพิธีเปิด (ไหมคลุม) ดวงเนตรพระพุทธรูปปางไสยาสน์ และพระราชทานนามพระพุทธรูปองค์นั้นว่า “พุทธชัยมงคล” พร้อมทั้งทรงพระราชทานพระราชทรัพย์บำรุงพระอารามอีกด้วย
วัดธรรมิการาม
เดินจากวัดไชยมังคลารามข้ามถนนเพียงเล็กน้อยก็จะพบ วัดธรรมิการม เป็นวัดพม่าในศาสนาพุทธ สีเหลืองทองอร่ามตามาก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2346 เดิมวัดชื่อ Nandy Moloh Burmese Temple สำหรับประวัติของวัด ได้มีบันทึกว่า เดิมที่ดินผืนนี้ถูกครอบครองคนอังกฤษ ชื่อ George Layton จากนั้นถูกขอซื้อโดยชาวพม่านาม Nonya Betong ในราคา 360 ดอลลาห์สเปน ผู้ถือครองอุทิศบางส่วนของที่ดินผืนนี้ เพื่อสำหรับสร้างวัด
ภายในอุโบสถประดิษฐานด้วยพระพุทธรูปประทับยืนคล้ายปางห้ามญาติองค์ใหญ่มาก สร้างจากหินอ่อนสีขาว ด้านหลังอุโบสถก็จะมีประติมากรรม กิเลนเหยียบลูกโลก อีกหนึ่งศิลปกรรมจีนผสมผสาน และภายในวิหารก็จะมีองค์พระพุทธรูปเหมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระอรหันต์ซ้ายและขวา
Gorge Town ยังมีอีกหลายแง่มุมที่น่าค้นหา คล้ายๆ ชายหนุ่มหน้าตาธรรมดา แต่พอได้รู้จักถึงรู้ว่าเขาลึกซึ้งและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ ลองค้นหา “จอร์จทาวน์” ในแง่มุมของคุณสิ ไม่แน่อาจไม่เหมือนที่เราบอกก็ได้ ใครจะรู้
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333