ผลสำรวจของ Chinese International Travel Monitor (CITM) แสดงให้เห็นว่า ในปีที่ผ่านมาชาวจีนในทุกช่วงวัยมีการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีแนวโน้มและพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มชาวจีนที่เกิดในช่วงทศวรรษที่ 1990 หรือ “กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่” ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ประกอบการไทยควรหันมาให้ความสนใจมากขึ้น เพื่อเรียนรู้และปรับตัวให้สอดคล้องกับกระแสการท่องเที่ยวแนวใหม่ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังในการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวสูง และเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ทำความรู้จักกับ “5 กลุ่ม นักท่องเที่ยวชาวจีน”
จากผลสำรวจของ CITM
กลุ่มที่ 1 เที่ยวเพื่อความสัมพันธ์ในครอบครัว :
เกิดในยุค 60-70 เดินทางกับครอบครัว ประหยัด
กลุ่มที่ 2 เที่ยวแบบเจาะลึก :
เกิดในยุค 70 ท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญ ราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ
กลุ่มที่ 3 เที่ยวเพื่อความสุขใจ :
เกิดในยุค 80 พักโรงแรม 5 ดาว ใช้จ่ายเพื่อความสุขในการเที่ยว
กลุ่มที่ 4 เที่ยวเพื่อเปิดประสบการณ์ชีวิต :
เกิดในยุค 80-90 พักโรงแรมบูทีค เที่ยวตามรีวิวจากสื่อ
กลุ่มที่ 5 เที่ยวแบบเรียบง่าย :
เกิดในยุค 90 วางแผนล่วงหน้าก่อนเที่ยว ใช้จ่ายอย่างประหยัด
บุคลิกของ “กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่”
ในการประชุมเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ
“เจาะลึกและแสวงหาโอกาสในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายใต้กระแสความนิยมสมัยใหม่ของจีน”
จัดโดยบริษัท Now Travel Asia Media Group ได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิ
อาจารย์จากมหาวิทยาลัยดังในมณฑลเสฉวน และตัวแทนวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยวและอสังหาริมทรัพย์ทั้งไทยและจีน
เข้าร่วมเสวนาหารือและวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม
พร้อมทั้งจุดเด่นของกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ โดยได้ข้อสรุป 7 ข้อที่สำคัญ
ได้แก่
1.เป็นนักช็อปที่ฉลาดหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
2.อายุไม่มากและประสบความสำเร็จรวดเร็ว
3.มั่นใจและทำในสิ่งตนที่รัก
4.ท่องเที่ยวแบบเดี่ยวเพื่อเปิดประสบการณ์ชีวิต
5.ชอบความเรียบง่ายและสะดวกสบาย
6.ชอบความเสี่ยงและกล้าใช้จ่ายเงิน
7.เลือกที่จะแตกต่างและชอบแสดงสถานะทางสังคม
สิ่งที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่ต้องการ
ผู้ประกอบการโรงแรมและที่พัก
และธุรกิจร้านค้าต่าง ๆ ควรจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ่ายเงินที่สะดวกรวดเร็วด้วยมือถือ หรือ WeChat ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญประกอบการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว/ผู้ซื้อชาวจีนได้
อาทิ พัฒนาระบบสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอพพลิเคชัน WeChat ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
ของโรงแรมที่พัก เช่น การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในตัวเมือง ระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi ความเร็วสูง และการให้บริการอื่น ๆ
ที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจได้ง่ายขึ้น (และจ่ายได้เร็วขึ้นเนื่องจากความสะดวก)
ตลอดไปจนถึง
แนะนำหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการจองตั๋วหรือซื้อบัตรในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
ที่สะดวกรวดเร็ว เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์จากกิจกรรมอื่น ๆ
ของระดับท้องถิ่นมากขึ้น
ประเทศไทยถือได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้น
ๆ ที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนต้องการเดินทางมาท่องเที่ยว
และปัจจุบันชาวจีนยังเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกลุ่มใหญ่ที่สุดของไทย
เห็นได้จากสถิติตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยมากกว่า
10 ล้านคน สูงเป็นประวัติการณ์ และยังรายได้เป็นจำนวนมากให้แก่ประเทศ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม
ซึ่งมีแนวโน้มว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในอนาคต
ดังนั้นการทำความเข้าใจและเรียนรู้ถึงความต้องการและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีนรุ่นใหม่
มีประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาอุตสาหรรมการท่องเที่ยว
ทั้งนี้กลุ่มผู้ประกอบการไทยที่ประกอบธุรกิจในด้านการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก
ร้านอาหาร หรือแม้แต่ผู้ผลิตสินค้าต่าง ๆ ควรจะมีความตื่นตัว
และปรับตัวไปกับกระแสการท่องเที่ยวแนวใหม่ของชาวจีน
ซึ่งจะเป็นอีกแนวทางในการส่งเสริมความแข็งแกร่งและศักยภาพในการเป็นเมืองท่องเที่ยวของไทยไปพร้อมกัน
อ้างอิง : ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู