อาเซียนแถลงการณ์ รับมือ COVID-19

SME Update
25/03/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 2137 คน
อาเซียนแถลงการณ์ รับมือ COVID-19
banner

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ทวีความรุนแรงมากขึ้น กระทั่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศแถลงการณ์ให้เข้าสู่ภาวะระบาดหนักหลังจากมีผู้ได้รับเชื้อกว่า 120,000 คน จาก 100 กว่าประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับการจัดประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 26 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 11 มีนาคม ณ เมืองดานัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

การประชุมครั้งนี้ฝ่ายไทยนำโดย นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วม  

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 


ประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้ สมาชิกอาเซียนต่างแสดงความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของโลกและอาเซียน จึงได้ร่วมกันกันออกแถลงการณ์เรื่อง “การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของอาเซียน ในการรับมือต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา” สาระสำคัญของแถลงการณ์ ระบุว่า สมาชิกต่างเห็นพ้องจะเร่งดำเนินการช่วยบรรเทาผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น รักษาตลาดอาเซียนที่ยังคงเปิดกว้างสำหรับการค้าและการลงทุน และส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการประสานงาน และความร่วมมือระหว่างกันที่ช่วยให้อาเซียนสามารถตอบสนองกับปัญหาที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาด

โดยส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มไมโครเอสเอ็มอี (MSMEs) สามารถดำเนินต่อไปได้ และการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียวของอาเซียนเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงของห่วงโซ่การผลิตในอาเซียน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่จะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร เป็นต้น

 

กำหนดหลักการ 3 ด้านพัฒนาเศรษฐกิจอาเซียน

นอกจากนี้ ที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ยังให้ความเห็นชอบแผนงานด้านเศรษฐกิจ (AEC Blueprint) ตามที่เวียดนาม ในฐานะประธานอาเซียนในปีนี้ ได้ผลักดันให้ดำเนินการให้สำเร็จในปี 2563

แนวคิดของเวียดนามในการประชุมครั้งนี้ ต้องการให้อาเซียนที่เป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว (Cohesive and Responsive ASEAN)  3 ด้านหลักได้แก่

1. เน้นการส่งเสริมการบูรณาการและความเชื่อมโยงภายในอาเซียน เช่น การส่งเสริมอาเซียนให้เป็นภูมิภาคที่ใช้ดิจิทัลร่วมกัน การส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะในประเทศอาเซียน การเชื่อมโยงระบบการชำระเงินในภูมิภาคให้เป็นระบบเดียวกัน

2. การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของอาเซียนกับประชาคมโลก เช่น การลงนามความตกลงยุทธศาสตร์เศรษฐกิจในภูมิภาค (RCEP) ระหว่างสมาชิกอาเซียน และพันธมิตร 5 ประเทศ ยกเว้นอินเดียซึ่งกำหนดจะมีขึ้นในปีนี้

3. การเสริมสร้างอาเซียนให้พร้อมปรับตัวและมีศักยภาพมากขึ้น เช่น การสร้างเครือข่ายศูนย์นวัตกรรมของประเทศในอาเซียน และการจัดทำแผนงานด้านความมั่นคงอาหาร โดยหลายประเด็นสานต่อจากไทยที่ริเริ่มไว้ในฐานะประธานอาเซียนปีที่แล้ว เช่น การส่งเสริมอาเซียนให้เป็นภูมิภาคที่ใช้ดิจิทัลร่วมกัน การจัดทำแผนงานต่อต้านการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) และการลงนามความตกลง RCEP ในปีนี้ 


เร่งลงนามความตกลง RCEP ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้

อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่ง ประเด็นที่ประชุมได้ให้ความสำคัญ คือ การช่วยเหลืออำนวยความสะดวกทางการค้าแก่ภาคธุรกิจในด้านต่างๆ อาทิ การเริ่มใช้ระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตัวเอง เพื่อลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการทำการค้าระหว่างกัน และการลงนามข้อตกลงยอมรับร่วม (MRA) ด้านรถยนต์ของอาเซียน ซึ่งเวียดนามเป็นประเทศสุดท้ายตอบรับจะเร่งรัดกระบวนการในประเทศ ให้สามารถดำเนินการประเด็นดังกล่าวทั้งหมดภายในปีนี้

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยก็ยังคงต้องให้ความสำคัญต่อความเคลื่อนไหวต่างๆ ของอาเซียนอย่างเนื่องเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันอาเซียนถือเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย โดยตลาดส่งออกและแหล่งนำเข้าสำคัญของไทยในอาเซียน ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่การประชุมอาเซียนครั้งนี้ยังคงมุ่งให้ความสัมพันธ์กับประเทศนอกภูมิภาค โดยเฉพาะการลงนามความตกลง RCEP ตามกำหนดภายในปีนี้ ถือเป็นภารกิจลำดับแรก และยังมีแผนขยายเปิดตลาดการค้าสินค้าอ่อนไหวต่างๆ เพิ่มเติมกับเกาหลีใต้โดยเร็ว

ในส่วนภาคเอกชนอาเซียน ในนามสภาธุรกิจอาเซียน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้อาเซียนดำเนินการข้อเสนอต่างๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ (Ecosystem) เพื่อเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการในภูมิภาคอาเซียน อำนวยความสะดวกการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลของ MSMEs ให้สามารถเริ่มต้น ขยาย และรักษาธุรกิจได้อย่างประสบความสำเร็จ ซึ่งทางที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจฯ ได้ขอให้ภาคเอกชนดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องของอาเซียน เพื่อให้มีความสอดคล้องและเดินหน้าไปด้วยกัน


 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 


ทุนไทยเร่งปรับตัว หลังกัมพูชาถูกตัด GSP

สัมพันธ์จีน-เมียนมา : บนเส้นทางลงทุน Belt and Road 


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
898 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1226 | 26/01/2024
จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

ปี 2024 นี้ ธุรกิจไหนมาแรง ธุรกิจไหนน่าจับตา เทรนด์ธุรกิจใดกำลังมาแรง Bangkok Bank SME สรุปมาไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางแก่ SME และผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกท่าน…
pin
1520 | 25/01/2024
อาเซียนแถลงการณ์ รับมือ COVID-19