กำลงซื้อซึม! สัญญาณชีพ “ค้าปลีก” จากวิกฤตโควิด

SME Update
19/04/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 2638 คน
กำลงซื้อซึม! สัญญาณชีพ “ค้าปลีก” จากวิกฤตโควิด
banner

Kantar World panel รายงานถึงผู้บริโภคในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ เคอร์ฟิวเพื่อให้ประชาชนอยู่บ้านมากขึ้น มีผลให้การใช้บริการในช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้น โดยสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในเอเชีย 6 ประเทศรวมถึงไทย พบว่าขณะที่มีการระบาดเป็นวงกว้างการซื้อสินค้าออนไลน์และบริการสั่งอาหารได้เพิ่มขึ้น 30% ดิจิทัลแพลต์ฟอร์มจึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีความสอดคล้องกับภาวะและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ทำให้“รายใหญ่”ต่างยกระดับดิจิทัลแพลต์ฟอร์มเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 


CRC ชู Multi-Category และ Multi-Format

สำหรับบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC มียุทธศาสตร์ชัดเจนที่จะก้าวสู่การเป็น "ออมนิชาแนลแพลตฟอร์ม" ที่แข็งแกร่งและครบวงจรซึ่งสถานการณ์ขณะนี้เป็นจังหวะสำคัญที่จะโชว์ขีดความสามารถของแพลตแฟอร์มออนไลน์ ด้วยโมเดล Multi-Category และ Multi-Format ที่จะทำให้การซื้อและการชำระค่าสินค้าจบได้บนออนไลน์

เริ่มจากการเลือกซื้อ ซึ่ง CRC พัฒนาออกมาหลายแพลตฟอร์ม เช่น เว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ ในเครือ ซึ่งมี 9 เว็บไซต์ เช่น www.central.co.th, www.supersports.co.th, www.tops.co.th เป็นต้น ทั้งยังมีแอพลิเคชั่นที่เลือกซื้อสินค้าได้ครบทุกแบรนด์ในเครือด้วยแอพเดียว รวมถึงในช่องทางไลน์ แชท&ช้อป ครอบคลุม 7 แบรนด์ในเครือ เช่น เซ็นทรัล ซีเอ็มจี พาวเวอร์บาย ฯลฯ และช่องทาง คอล&ช้อป ผ่านโทรศัพท์ของเซ็นทรัล ไทวัสดุ และบ้านแอนด์บียอนด์



จับมือแกร็บ ตอบโจทย์ Social Distancing

นอกจากนี้ซีอาร์ซียังมีบริการที่สามารถรองรองมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ปิดและมีคนจำนวนมาก ด้วยรูปแบบการจัดส่งซึ่งมีทั้งรูปแบบ ไดร์ฟ ทรู,คลิก แอนด์ คอลเล็ค ซึ่งเลือกรับสินค้าได้ที่ ท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา

ในสถานการณ์โควิด-19 ซีอาร์ซีถือว่าเป็นต่ออยู่มาก จากการเข้าลงทุนในแกร็บด้วยมูลค่าถึง 6,000 ล้านบาท ทำให้มีระบบการจัดส่งที่พร้อมทันทีและใช้เวลาน้อยที่สุด เช่น ท็อปส์สามารถส่งสินค้าถึงบ้านได้ 1-2 ชั่วโมงในกรุงเทพฯ และภายใน 1 วันทั่วไทย รวมถึงห้างเซ็นทรัลที่มีบริการส่งสินค้าด่วนภายใน 99 นาที สำหรับลูกค้าที่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

ล่าสุดซีอาร์ซียังได้เพิ่มช่องทางซื้อสินค้าบนแอพพลิเคชั่นแกร็บ ให้กับท็อปส์และแฟมิลี่มาร์ท ด้วยบริการใหม่ ๆ เช่น แกร็บมาร์ท รับฝากซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อส่งตรงถึงบ้าน ซึ่งให้บริการครอบคลุม 17 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงบริการสั่งอาหารจาก TOPS SELECT ที่สามารถสั่งและส่งอาหารปรุงสดใหม่ ผลไม้สด แซนด์วิช คอฟฟี่อาริกาโตะในแฟมิลี่มาร์ท ฯลฯ บริการ Central Eatery สำหรับสั่งเมนูระดับพิเศษที่ปรุงโดยเชฟประจำเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์และส่งถึงบ้าน นอกจากนั้นยังมีบริการแกร็บเอ็กซ์เพรส บริการจัดส่งสินค้าภายใน 2 ชั่วโมง ค่าบริการจัดส่ง 80 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่าน www.tops.co.th 



โควิด-19 ทำ “ร้านสะดวกซื้อ” ซึม

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรการสกัดการแพร่ระบาดได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับร้านสะดวกซื้ออย่างชัดเจน แม้ว่าจะมีสาขาอยู่จำนวนมากและกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ก็ตาม โดยเฉพาะเซเว่นอีเลฟเว่นที่มีสาขากระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลจำนวนมาก แต่ขณะนี้ได้กลายเป็นพื้นที่หลัก ซึ่งภาคเอกชนขานรับแนวคิด Work from Home บวกกับการสั่งปิดสถานที่สำคัญต่างๆ มาตรการเหล่านี้ทำให้ปริมาณการเดินทางลดลงเป็นอย่างมาก

โดยปกติรายได้ของร้านสะดวกซื้อเกิดขึ้นจากการสัญจรไปมาของประชาชน สะท้อนจากทำเลที่กระจายอยู่ในย่านธุรกิจ โรงเรียนหรือใกล้ตลาด ในสถานีบริการน้ำมัน แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ และหลายจังหวัดมีคำสั่งงดให้ร้านสะดวกซื้อเปิดบริการแบบ 24 ชม. โดยที่เวลาในการจำหน่ายสินค้าหายไป 5-6 ชม.ต่อสาขา

ขณะเดียวกันผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการซื้อข้าวของและอาหารจำนวนมากเพื่อสำรองใช้ในบ้าน ดังนั้นไฮเปอร์มาร์เก็ตหรือซูเปอร์มาร์เก็ตจึงตอบโจทย์ได้ดีกว่าร้านสะดวกซื้อ เพราะสามารถซื้อสินค้าได้ครบในที่เดียว และการที่ต้องอยู่กับบ้านผู้บริโภคมีแนวโน้มที่ใช้เวลาว่างทำอาหารกินเอง หรือใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่จะเพิ่มขึ้น

 

7-11 อัพสปีค “Delivery” อีกกว่า 1,000 สาขา

สำหรับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับการขยายสาขามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ยจะเพิ่มราว 700 สาขาต่อปี จำนวนสาขาจึงเป็นยุทธศาสตร์เดียวที่ทำให้เซเว่น อีเลฟเว่นทรงอิทธิพลอย่างมาก แต่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกตินี้ ทำให้เกิดภาพขึ้นว่าสาขาอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการเสมอไป

จะเห็นจากการที่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาซีพี ออลล์ เปิดรับสมัครงานเจ้าหน้าที่จัดส่งสินค้าถึง 20,000 อัตรา เพื่อเตรียมให้บริการส่งถึงบ้าน โดยให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน 7-Eleven Delivery ซึ่งที่ผ่านมาเซเว่นอีเลฟเว่นเริ่มที่ให้บริการเดลิเวอรี่ด้วยการทดลองให้บริการเมื่อเดือนธันวาคม 2562 และจำกัดเพียงไม่กี่แห่ง

โดยสามารถสั่งซื้อสินค้าและเลือกรับได้ ทั้งแบบส่งในสถานที่ที่ต้องการหรือส่งที่บ้านและสำนักงาน ให้บริการจัดส่งตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น. โดยสามารถสะสมคะแนน ออล เมมเบอร์ ชำระเงินทันทีผ่านทรู มันนี่ วอลเลต หรือชำระปลายทางด้วยเงินสด พร้อมโปรโมชันส่งฟรีเมื่อสั่งสินค้าตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป จากค่าส่งปกติ 20 บาท ซึ่งถือเป็นการเพิ่มอัตราเร่งในเวลาที่กระชั้นชิดกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างมาก โดยตั้งเป้าที่จะขยายบริการดีลิเวอรีให้ได้ 1,500 สาขา และจะเพิ่มเป็นทุกสาขาในอนาคต



สยามพิวรรธน์ ขยับทุกแพลตฟอร์มรับวิกฤตโควิด-19 ยืดเยื้อ

ในสถานการณ์ที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องอยู่กับบ้านให้มากที่สุดทำให้มีเวลาว่างมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีความต้องการสินค้าต่างๆ เพื่อรองรับการใช้ชีวิต ทำให้ศูนย์การค้าระดับสูงเลือกนำโมเดลใหม่เข้ามาตอบโจทย์ โดยกลุ่มสยามพิวรรธน์ หรือวันสยาม ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นพันธมิตรของไอคอนสยาม เลือกที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มดิจิทัลในหลายมิติ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ Extraordinary เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ “The Icon of Innovative Lifestyle" ให้ชัดยิ่งขึ้น

เริ่มจากการพัฒนาช่องทางสื่อสารใหม่เข้ามาให้บริการเพิ่ม โดยเมื่อลูกค้าสนใจสินค้าใดที่โพสต์ในโซเชียลมีเดียของศูนย์การค้าในวันสยาม จะสามารถเข้ามาสั่งซื้อพูดคุยในบริการกับพนักงานได้ทันทีที่ “OneSiam Chat & Shop”

รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มสำคัญอย่าง “Call & Pick Up Service” ซึ่งจะเข้ามารองรับความต้องการในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากกูร์เมต์มาร์เก็ต หรือพารากอนฟู้ดฮอลล์ และจากซูเปอร์มาร์เก็ตเดียร์ทัมมี่ หรือทาคามาเช่ ที่ไอคอนสยาม โดยจะมีบริการผู้ช่วยส่วนตัวจะนำสินค้าและจัดส่ง ณ จุดพิคอัพ

นอกจากนี้ยังมีบริการ “Eat at Home” ที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นฟู้ดดีลิเวอรีต่างๆ หรือร้านอาหารโดยตรง มีให้บริการมากกว่า 50 ร้านอาหารในสยามพารากอนโซน กูร์เมต์ การ์เด้น และพารากอน ฟู้ดฮอลล์  รวมทั้งร้านอาหารที่ไอคอนสยาม เปิดให้บริการสั่งกลับบ้าน และกระตุ้นการใช้บริการผ่านโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 50%

อย่างไรก็ตามปัจจุบันเฟซบุ๊กเพจต่างๆ ของศูนย์การค้ากลุ่มวันสยามทั้ง 3 ศูนย์ในชุมชนคอมมูนิตี้ผู้ติดตามรวมกว่า 1.2 ล้านคน ส่วน One Siam Application มียอดดาวน์โหลดรวมกว่า 2 แสนคน และ LINE OA@OneSiam สมาชิกกว่า 7.2 แสนคน จะเห็นว่าลูกค้าในคอมมูนิตี้บนโลกดิจิทัลมีกว่า 2.1 ล้านคน  โดยทุกช่องทางจะทำหน้าที่สื่อสารตามกลยุทธ์ Social Commerce

 

เห็นชัดว่าแม้แต่รายใหญ่ก็รับผลกระทบอย่างหนัก จนต้องดิ้นรนนำพาธุรกิจให้รอดจากวิกฤตในครั้งด้วยสารพัดวิธีราวสำนวน 8 เซียนข้ามทะเล ใครมีความสามารถ มีอะไรดีก็ต้องงัดมาใช้แล้ว เพื่อนำพาธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้  


สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


ร้อนแรง! อีคอมเมิร์ซยอดขายเดือดช่วงโควิด-19

‘อาหารแปรรูป’ ขายอย่างไรให้มีแต่คนคลิ้กเข้ามาซื้อ



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
1221 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1581 | 26/01/2024
จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

ปี 2024 นี้ ธุรกิจไหนมาแรง ธุรกิจไหนน่าจับตา เทรนด์ธุรกิจใดกำลังมาแรง Bangkok Bank SME สรุปมาไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางแก่ SME และผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกท่าน…
pin
1859 | 25/01/2024
กำลงซื้อซึม! สัญญาณชีพ “ค้าปลีก” จากวิกฤตโควิด