กำลงซื้อซึม! สัญญาณชีพ “ค้าปลีก” จากวิกฤตโควิด

SME Update
19/04/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 2809 คน
กำลงซื้อซึม! สัญญาณชีพ “ค้าปลีก” จากวิกฤตโควิด
banner

Kantar World panel รายงานถึงผู้บริโภคในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ เคอร์ฟิวเพื่อให้ประชาชนอยู่บ้านมากขึ้น มีผลให้การใช้บริการในช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้น โดยสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในเอเชีย 6 ประเทศรวมถึงไทย พบว่าขณะที่มีการระบาดเป็นวงกว้างการซื้อสินค้าออนไลน์และบริการสั่งอาหารได้เพิ่มขึ้น 30% ดิจิทัลแพลต์ฟอร์มจึงกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีความสอดคล้องกับภาวะและตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ทำให้“รายใหญ่”ต่างยกระดับดิจิทัลแพลต์ฟอร์มเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 


CRC ชู Multi-Category และ Multi-Format

สำหรับบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC มียุทธศาสตร์ชัดเจนที่จะก้าวสู่การเป็น "ออมนิชาแนลแพลตฟอร์ม" ที่แข็งแกร่งและครบวงจรซึ่งสถานการณ์ขณะนี้เป็นจังหวะสำคัญที่จะโชว์ขีดความสามารถของแพลตแฟอร์มออนไลน์ ด้วยโมเดล Multi-Category และ Multi-Format ที่จะทำให้การซื้อและการชำระค่าสินค้าจบได้บนออนไลน์

เริ่มจากการเลือกซื้อ ซึ่ง CRC พัฒนาออกมาหลายแพลตฟอร์ม เช่น เว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ ในเครือ ซึ่งมี 9 เว็บไซต์ เช่น www.central.co.th, www.supersports.co.th, www.tops.co.th เป็นต้น ทั้งยังมีแอพลิเคชั่นที่เลือกซื้อสินค้าได้ครบทุกแบรนด์ในเครือด้วยแอพเดียว รวมถึงในช่องทางไลน์ แชท&ช้อป ครอบคลุม 7 แบรนด์ในเครือ เช่น เซ็นทรัล ซีเอ็มจี พาวเวอร์บาย ฯลฯ และช่องทาง คอล&ช้อป ผ่านโทรศัพท์ของเซ็นทรัล ไทวัสดุ และบ้านแอนด์บียอนด์



จับมือแกร็บ ตอบโจทย์ Social Distancing

นอกจากนี้ซีอาร์ซียังมีบริการที่สามารถรองรองมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) และเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ปิดและมีคนจำนวนมาก ด้วยรูปแบบการจัดส่งซึ่งมีทั้งรูปแบบ ไดร์ฟ ทรู,คลิก แอนด์ คอลเล็ค ซึ่งเลือกรับสินค้าได้ที่ ท็อปส์ และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ทุกสาขา

ในสถานการณ์โควิด-19 ซีอาร์ซีถือว่าเป็นต่ออยู่มาก จากการเข้าลงทุนในแกร็บด้วยมูลค่าถึง 6,000 ล้านบาท ทำให้มีระบบการจัดส่งที่พร้อมทันทีและใช้เวลาน้อยที่สุด เช่น ท็อปส์สามารถส่งสินค้าถึงบ้านได้ 1-2 ชั่วโมงในกรุงเทพฯ และภายใน 1 วันทั่วไทย รวมถึงห้างเซ็นทรัลที่มีบริการส่งสินค้าด่วนภายใน 99 นาที สำหรับลูกค้าที่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

ล่าสุดซีอาร์ซียังได้เพิ่มช่องทางซื้อสินค้าบนแอพพลิเคชั่นแกร็บ ให้กับท็อปส์และแฟมิลี่มาร์ท ด้วยบริการใหม่ ๆ เช่น แกร็บมาร์ท รับฝากซื้อสินค้าที่ร้านสะดวกซื้อส่งตรงถึงบ้าน ซึ่งให้บริการครอบคลุม 17 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงบริการสั่งอาหารจาก TOPS SELECT ที่สามารถสั่งและส่งอาหารปรุงสดใหม่ ผลไม้สด แซนด์วิช คอฟฟี่อาริกาโตะในแฟมิลี่มาร์ท ฯลฯ บริการ Central Eatery สำหรับสั่งเมนูระดับพิเศษที่ปรุงโดยเชฟประจำเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์และส่งถึงบ้าน นอกจากนั้นยังมีบริการแกร็บเอ็กซ์เพรส บริการจัดส่งสินค้าภายใน 2 ชั่วโมง ค่าบริการจัดส่ง 80 บาท เมื่อสั่งซื้อสินค้าผ่าน www.tops.co.th 



โควิด-19 ทำ “ร้านสะดวกซื้อ” ซึม

ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาตรการสกัดการแพร่ระบาดได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับร้านสะดวกซื้ออย่างชัดเจน แม้ว่าจะมีสาขาอยู่จำนวนมากและกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ก็ตาม โดยเฉพาะเซเว่นอีเลฟเว่นที่มีสาขากระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลจำนวนมาก แต่ขณะนี้ได้กลายเป็นพื้นที่หลัก ซึ่งภาคเอกชนขานรับแนวคิด Work from Home บวกกับการสั่งปิดสถานที่สำคัญต่างๆ มาตรการเหล่านี้ทำให้ปริมาณการเดินทางลดลงเป็นอย่างมาก

โดยปกติรายได้ของร้านสะดวกซื้อเกิดขึ้นจากการสัญจรไปมาของประชาชน สะท้อนจากทำเลที่กระจายอยู่ในย่านธุรกิจ โรงเรียนหรือใกล้ตลาด ในสถานีบริการน้ำมัน แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ และหลายจังหวัดมีคำสั่งงดให้ร้านสะดวกซื้อเปิดบริการแบบ 24 ชม. โดยที่เวลาในการจำหน่ายสินค้าหายไป 5-6 ชม.ต่อสาขา

ขณะเดียวกันผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการซื้อข้าวของและอาหารจำนวนมากเพื่อสำรองใช้ในบ้าน ดังนั้นไฮเปอร์มาร์เก็ตหรือซูเปอร์มาร์เก็ตจึงตอบโจทย์ได้ดีกว่าร้านสะดวกซื้อ เพราะสามารถซื้อสินค้าได้ครบในที่เดียว และการที่ต้องอยู่กับบ้านผู้บริโภคมีแนวโน้มที่ใช้เวลาว่างทำอาหารกินเอง หรือใช้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่จะเพิ่มขึ้น

 

7-11 อัพสปีค “Delivery” อีกกว่า 1,000 สาขา

สำหรับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ผ่านมาให้ความสำคัญกับการขยายสาขามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ยจะเพิ่มราว 700 สาขาต่อปี จำนวนสาขาจึงเป็นยุทธศาสตร์เดียวที่ทำให้เซเว่น อีเลฟเว่นทรงอิทธิพลอย่างมาก แต่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกตินี้ ทำให้เกิดภาพขึ้นว่าสาขาอาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการเสมอไป

จะเห็นจากการที่ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาซีพี ออลล์ เปิดรับสมัครงานเจ้าหน้าที่จัดส่งสินค้าถึง 20,000 อัตรา เพื่อเตรียมให้บริการส่งถึงบ้าน โดยให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน 7-Eleven Delivery ซึ่งที่ผ่านมาเซเว่นอีเลฟเว่นเริ่มที่ให้บริการเดลิเวอรี่ด้วยการทดลองให้บริการเมื่อเดือนธันวาคม 2562 และจำกัดเพียงไม่กี่แห่ง

โดยสามารถสั่งซื้อสินค้าและเลือกรับได้ ทั้งแบบส่งในสถานที่ที่ต้องการหรือส่งที่บ้านและสำนักงาน ให้บริการจัดส่งตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น. โดยสามารถสะสมคะแนน ออล เมมเบอร์ ชำระเงินทันทีผ่านทรู มันนี่ วอลเลต หรือชำระปลายทางด้วยเงินสด พร้อมโปรโมชันส่งฟรีเมื่อสั่งสินค้าตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป จากค่าส่งปกติ 20 บาท ซึ่งถือเป็นการเพิ่มอัตราเร่งในเวลาที่กระชั้นชิดกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างมาก โดยตั้งเป้าที่จะขยายบริการดีลิเวอรีให้ได้ 1,500 สาขา และจะเพิ่มเป็นทุกสาขาในอนาคต



สยามพิวรรธน์ ขยับทุกแพลตฟอร์มรับวิกฤตโควิด-19 ยืดเยื้อ

ในสถานการณ์ที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องอยู่กับบ้านให้มากที่สุดทำให้มีเวลาว่างมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีความต้องการสินค้าต่างๆ เพื่อรองรับการใช้ชีวิต ทำให้ศูนย์การค้าระดับสูงเลือกนำโมเดลใหม่เข้ามาตอบโจทย์ โดยกลุ่มสยามพิวรรธน์ หรือวันสยาม ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และเป็นพันธมิตรของไอคอนสยาม เลือกที่ขับเคลื่อนแพลตฟอร์มดิจิทัลในหลายมิติ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ Extraordinary เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ “The Icon of Innovative Lifestyle" ให้ชัดยิ่งขึ้น

เริ่มจากการพัฒนาช่องทางสื่อสารใหม่เข้ามาให้บริการเพิ่ม โดยเมื่อลูกค้าสนใจสินค้าใดที่โพสต์ในโซเชียลมีเดียของศูนย์การค้าในวันสยาม จะสามารถเข้ามาสั่งซื้อพูดคุยในบริการกับพนักงานได้ทันทีที่ “OneSiam Chat & Shop”

รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มสำคัญอย่าง “Call & Pick Up Service” ซึ่งจะเข้ามารองรับความต้องการในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากกูร์เมต์มาร์เก็ต หรือพารากอนฟู้ดฮอลล์ และจากซูเปอร์มาร์เก็ตเดียร์ทัมมี่ หรือทาคามาเช่ ที่ไอคอนสยาม โดยจะมีบริการผู้ช่วยส่วนตัวจะนำสินค้าและจัดส่ง ณ จุดพิคอัพ

นอกจากนี้ยังมีบริการ “Eat at Home” ที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นฟู้ดดีลิเวอรีต่างๆ หรือร้านอาหารโดยตรง มีให้บริการมากกว่า 50 ร้านอาหารในสยามพารากอนโซน กูร์เมต์ การ์เด้น และพารากอน ฟู้ดฮอลล์  รวมทั้งร้านอาหารที่ไอคอนสยาม เปิดให้บริการสั่งกลับบ้าน และกระตุ้นการใช้บริการผ่านโปรโมชั่นส่วนลดสูงสุด 50%

อย่างไรก็ตามปัจจุบันเฟซบุ๊กเพจต่างๆ ของศูนย์การค้ากลุ่มวันสยามทั้ง 3 ศูนย์ในชุมชนคอมมูนิตี้ผู้ติดตามรวมกว่า 1.2 ล้านคน ส่วน One Siam Application มียอดดาวน์โหลดรวมกว่า 2 แสนคน และ LINE OA@OneSiam สมาชิกกว่า 7.2 แสนคน จะเห็นว่าลูกค้าในคอมมูนิตี้บนโลกดิจิทัลมีกว่า 2.1 ล้านคน  โดยทุกช่องทางจะทำหน้าที่สื่อสารตามกลยุทธ์ Social Commerce

 

เห็นชัดว่าแม้แต่รายใหญ่ก็รับผลกระทบอย่างหนัก จนต้องดิ้นรนนำพาธุรกิจให้รอดจากวิกฤตในครั้งด้วยสารพัดวิธีราวสำนวน 8 เซียนข้ามทะเล ใครมีความสามารถ มีอะไรดีก็ต้องงัดมาใช้แล้ว เพื่อนำพาธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้  


สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


ร้อนแรง! อีคอมเมิร์ซยอดขายเดือดช่วงโควิด-19

‘อาหารแปรรูป’ ขายอย่างไรให้มีแต่คนคลิ้กเข้ามาซื้อ



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีโจทย์สำคัญต้องเร่งแก้ นั่นคือ ภาวะโลกเดือด และปัญหาด้านพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง เป็นปัญหาใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงกัน…
pin
31 | 15/12/2024
8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

กลยุทธ์ Festive Marketing คืออะไร?Festive Marketing หรือการตลาดช่วงเทศกาล เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลต่าง…
pin
27 | 13/12/2024
พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

วิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กำลังส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เร่งให้เกิดภาวะโลกร้อนคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงอย่างอุตสาหกรรมโลหะ…
pin
35 | 07/12/2024
กำลงซื้อซึม! สัญญาณชีพ “ค้าปลีก” จากวิกฤตโควิด