ต้องยอมรับว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมาซบเซาลงอย่างมาก
จากสารพัดปัจจัยรุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สงครามการค้า ค่าบาทแข็ง
กำลังซื้อหดหาย กระทั่งล่าสุดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
ที่เป็นปัจจัยหลักกระทบการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุดปัจจัยหนึ่งด้วย
โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ฉายภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ว่า มีการชะลอตัวค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะกำลังซื้อจากนักลงทุนไทยลดลง รวมถึงลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ทำให้จำนวนการเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เปิดใหม่ลดลงถึง 30%
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
หากดูข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ที่ได้เก็บตัวเลขการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างด้าวทั่วประเทศ
จากข้อมูลการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ประเภทซื้อขายของกรมที่ดิน
ข้อมูลย้อนหลังพบว่าในปี 2561
คนต่างด้าวถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศ จำนวนกว่า 13,100 หน่วย มูลค่ากว่า 55,000 ล้านบาท
คิดเป็นพื้นที่ห้องชุดรวมกว่า 5.45 แสนตารางเมตร
ในจำนวนนี้เป็นการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลมากที่สุดถึง 51.1% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด รองลงมาเป็นภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันตก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง
“ปีที่ผ่านมาการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของนักลงทุนจีน
ลดความร้อนแรงลงไปจากหลายปัจจัย ทั้งค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น
และความเข้มงวดของรัฐบาลจีนในการจำกัดการนำเงินออกนอกประเทศ
ทำให้บรรยากาศการนำเงินมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2562
ไม่คึกคักเหมือนเมื่อ 2-3 ปีก่อน
แต่ถึงกระนั้นจีนก็ยังคงเป็นตลาดนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดสำหรับอสังหาริมทรัพย์ไทย”
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์
ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าว
สำหรับข้อมูลการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดในประเทศไทยของคนต่างด้าว
10 อันดับแรกสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนจากจีน
โดยคนต่างด้าวที่ถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดในประเทศไทยมากที่สุด
10 อันดับแรก ได้แก่ 1.จีน
(มีสัดส่วนถึง 57.6%) 2.รัสเซีย 3.ฝรั่งเศส
4.อังกฤษ 5.ญี่ปุ่น 6.สหรัฐอเมริกา 7.เยอรมนี 8.ออสเตรเลีย
9.ไต้หวัน และ 10.สิงคโปร์ นอกจากนี้
จีนยังเป็นสัญชาติที่ครอบครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดในประเทศไทยมากที่สุดในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2562 โดยมีจำนวนกว่า 54,000 หน่วย มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ราคา
3.7 ล้านบาท/หน่วย และมีพื้นที่ห้องชุดรวมกว่า 1.84 แสนตารางเมตร หรือเฉลี่ย 24.4 ตารางเมตร/หน่วย
ส่วนจังหวัดที่ชาวจีนครอบครองห้องชุดมากที่สุด
5 อันดับแรก คิดเป็น 98.1% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมดที่ชาวจีนถือครองทั่วประเทศ ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร มีสัดส่วน 49.5%
ของหน่วยห้องชุดทั้งหมดที่ชาวจีนครอบครอง 2.ชลบุรี 3.สมุทรปราการ 4.เชียงใหม่ และ 5.ภูเก็ต ส่วนจังหวัดอื่นๆ มีสัดส่วนเพียง 1.9%
โดยสัญชาติที่ถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดในช่วง
9 เดือนแรกของปี 2562 ได้แก่
กลุ่มเอเชีย โดยมีสัดส่วนมากถึง 71.1%
ของจำนวนหน่วยห้องชุดที่คนต่างด้าวถือครองกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศ รองลงมาเป็นกลุ่มยุโรป
อเมริกาเหนือ ออสเตรเลียและหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก แอฟริกา อเมริกาใต้ และอื่นๆ
ด้านนายอุทัย อุทัยแสงสุข
ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังคงชะลอตัวไม่ต่างจากปี 2562 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ตลาดต่างประเทศได้รับผลกระทบ
เพราะลูกค้าไม่สามารถเดินทางได้โดยเฉพาะลูกค้าจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักที่มีสัดส่วน
50% จากภาพรวมลูกค้าต่างประเทศทั้งหมด
ดังนั้นในปีนี้บริษัทปรับแผนให้เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจ ด้วยการลดจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมลงเหลือแค่
6 โครงการ แล้วหันมารุกตลาดแนวราบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว
ทาวน์เฮ้าส์ เพราะเป็นตลาดที่มีความต้องการอยู่อาศัยจริง และมีอัตราการเติบโตดี
"ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายจากตลาดต่างประเทศประมาณ
10,0000 ล้านบาท แต่ในปี 2562 ลดลงเหลือ
3,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า
ล่าสุดมียอดขายรอโอนคอนโดมิเนียมของลูกค้าชาวจีนประมาณ 2,000
ล้านบาท หรือ 500 ยูนิต จากจำนวน 8
โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเริ่มโอนได้ในไตรมาส 2 ปีนี้ แต่คาดว่าลูกค้าจีนจะไม่สามารถมารับโอนได้ ซึ่งสถานการณ์ COVID-19 จะคลี่คลายและทุกอย่างจะดีขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด
(มหาชน) กล่าวว่า สำหรับลูกค้าตลาดจีนมีสัดส่วน 50% จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ต่างชาติทั้งหมดมูลค่า 14,000
ล้านบาท คาดว่าจะมียอดโอนในปีนี้อยู่ที่ 2,500-3,000 ล้านบาท
ซึ่งมีลูกค้าจีนบางรายที่ขอยืดการโอนออกไปจากกำหนดทางบริษัทจะพิจารณาความเหมาะสมให้ยืดเวลาการโอน
โดยบริษัทจะมีกลยุทธ์จูงใจให้ลูกค้าที่กำลังรอโอนเข้ามาการเร่งโอนโดยมอบส่วนลด 3-10% ให้ลูกค้าที่ผ่านชำระเงินดาวน์ครบ 30%
เพื่อให้ลูกค้าบางรายที่มีความพร้อมเข้ามาเร่งโอน เพื่อจูงใจให้เร่งการโอนได้
“ช่วงนี้ยอมเข้าใจลูกค้าเพราะเดินทางมาไทยไม่ได้ เศรษฐกิจโลกก็ชะลอตัว แต่เชื่อว่าลูกค้าจีนยังต้องการเข้ามาซื้ออสังหาฯ และชอบเมืองไทย หลายรายต้องการที่จะเข้ามาพำนักในไทยหลังเกษียณการทำงาน จึงต้องรักษาฐานลูกค้าจีนไว้”
ขณะที่นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์ไวรัส COVID-19 ระบาดไปทั่วโลกโดยเฉพาะที่จีน ส่งกระทบต่อการโอนกรรมสิทธิ์ของลูกค้าชาวจีนอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ต้องเห็นใจลูกค้า เพราะไม่สามารถจะมาตรวจรับห้องและโอนกรรมสิทธิ์ได้ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างคลี่คลายลง ลูกค้าชาวจีนจะกลับมาโอนกรรมสิทธิ์แน่นอน