จากสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั่วโลกยังคงมีทีท่าว่าจะเพิ่มจำนวนต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งที่จะตามมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีมากขึ้นก็คือ
"ขยะติดเชื้อ" จากอุปกรณ์การแพทย์แบบใช้แล้วทิ้งและหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง
ที่มีส่วนผสมของพลาสติกชนิด “พอลิโพรไพรีน” (polypropylene) เพื่อใช้ในการป้องกันเชื้อโรคและของเหลว ที่ต้องใช้ระยะเวลานานมากในการย่อยสลาย
อันจะกลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษอันตรายต่อชีวิตของทั้งคนและสัตว์
ที่ต้องเพิ่มจำนวนการใช้งานมากขึ้นตามจำนวนผู้ติดเชื้อและระยะเวลาที่โรควิด-19
ยังแพร่ระบาดอยู่
นอกจากขยะหน้ากากอนามัยจะเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังคาดว่าจะมีขยะที่เกี่ยวข้อง เช่น ขวดเจลล้างมือแบบพกพาที่ใช้แล้ว กระดาษชำระเปียก กล่องอาหารพลาสติก และถุงพลาสติก ที่เกิดจากการให้ร้านอาหารตั้งแต่เชนดังไปจนถึงร้านระดับชาวบ้าน ตลาดริมทาง เปลี่ยนบริการเป็นสั่งอาหารกลับบ้านแทน ในช่วง Lockdown กักตัวอยู่บ้าน ล้วนเป็นพฤติกรรมกระตุ้นให้เกิดปริมาณขยะมากขึ้นจากเดิมได้ทั้งสิ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
กทม.
มีปริมาณขยะติดเชื้อ 1.68 ตันต่อวัน.
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงปริมาณการจัดเก็บขยะติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ
ว่า ในปีงบประมาณ 2562 มีปริมาณขยะติดเชื้อเฉลี่ย 42.53 ตันต่อวัน
สำหรับในปีนี้ช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. ซึ่งเป็นช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค (COVID-19) พบว่า มีปริมาณขยะติดเชื้อเฉลี่ย 40.98
ตันต่อวัน ลดลงจำนวน 1.55 ตันต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 3.64
เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณขยะติดเชื้อที่จัดเก็บได้ในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อ
(COVID-19) ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค. กับปีที่ผ่านมา
พบว่า เดือน ม.ค.จัดเก็บขยะติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นจากเดือน ม.ค.62 เฉลี่ยวันละ 1.82
ตัน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 4.40
สอดคล้องกับจำนวนสถานพยาบาลที่รับบริการเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ
5.60 ส่วนเดือน ก.พ. จัดเก็บขยะติดเชื้อได้ลดลงจากเดือน ก.พ.62 เฉลี่ยวันละ 1.80
ตัน หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 4.30
ในขณะที่จำนวนสถานพยาบาลที่รับบริการเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้นร้อยละ
6.58 และเดือน มี.ค.จัดเก็บขยะติดเชื้อได้ลดลงจากเดือน มี.ค.62 เฉลี่ยวันละ 3.06
ตัน หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 7.15
ทั้งนี้มีปริมาณมูลฝอยที่เกิดจากผู้ป่วย (COVID-19) และผู้ที่ถูกกักกัน ได้แก่
หน้ากากอนามัยและวัสดุปนเปื้อนต่างๆ จากโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข จำนวน 29
แห่ง ที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ดำเนินการเก็บขนและกำจัด ตั้งแต่เดือน ม.ค.-7
เม.ย. มีปริมาณทั้งสิ้น 30,370 ตัน
หรือเฉลี่ย 1.68 ตันต่อวัน
ทุกวันนี้การที่ยังมีคนทิ้งขยะติดเชื้ออันตราย เช่น หน้ากากอนามัย
ที่ต่อให้อดีตผู้ที่เคยใช้จะยืนยันว่าปลอดเชื้อก็ยังสร้างความวิตกกังวลแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่พบเจอ
เพราะเขาไม่อาจรู้ได้ว่ามีเชื้อโรคปะปนมาจริงหรือไม่ ดังนั้น
เมื่อมีการทิ้งปนมากับขยะทั่วไป นั่นจะเท่ากับว่าเป็นความเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่เก็บขยะต้องพบเจอ
ดังนั้น หากใครจะทิ้งหน้ากากอนามัยขอให้ใส่ถุงแยกจากขยะทั่วไปให้ชัดเจน
เพื่อคัดแยกไปกำจัดเป็นขยะติดเชื้อ
ขยะพลาสติกเพิ่มปริมาณมากขึ้นช่วงกักตัวอยู่บ้าน
การกักตัวอยู่บ้านของคนไทยทำให้ปริมาณขยะทั่วไปลดลง
แต่ประมาณขยะพลาสติกกลับเพิ่มขึ้น จากการสั่งซื้อสินค้าอาหารสำเร็จรูป
อาหารแบบหิ้วกลับบ้าน และอาหารแบบสั่งเดลิเวอร์รี่
ส่วนใหญ่เป็นกล่องพลาสติกใส่อาหารช้อนส้อมพลาสติก แก้วพลาสติก หลอดพลาสติก
ที่พ่วงมาด้วย
นอกจากนี้การทิ้งขยะจากบ้านเรือนของผู้คนทั่วไป
ไม่มีการคัดแยกเศษอาหารหรือแยกชนิดขยะ
ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เก็บขยะเป็นไปด้วยความยากลำบาก
เพระเมื่อมีปริมาณขยะเศษอาหารทิ้งปะปนมากับขยะทั่วไปมากขึ้น การคัดแยกก็ต้องเสี่ยงต่อการสัมผัสถูกมูกเมือกหรือสารคัดหลั่งอย่างน้ำลายที่อาจตกค้างติดมากับเศษอาหารหรือภาชนะบรรจุไปด้วย
ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการเสี่ยงต่อการสัมผัสโดนเชื้อโควิด-19 ที่อาจมีปะปนมาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
แนวทางในการจัดการขยะในช่วงเวลานี้จึงเป็นไปได้ยากหากประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ
แนะแนวทางการลดประมาณขยะพลาสติกจากครัวเรือนในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(ทส.) ได้ให้คำแนะนำไว้ดังนี้
1. หากไม่มีครัวปรุงอาหารช่วงเก็บตัวอยู่บ้าน
และจำเป็นต้องสั่งอาหารแบบเดลิเวอรรี่ ควรแจ้งทางร้านหรือคนขับของแอพต่างๆ ที่ให้บริการ
เดลิเวอร์รี ฟู้ด ทุกครั้งว่าไม่รับช้อนส้อมพลาสติก เพื่อช่วยกันลดปริมาณขยะพลาสติก
เน้นใช้ช้อน จาน ขามตัวเอง และในส่วนของร้านอาหารควรใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. ลดการบริโภคอาหารแบบแพ็คห่อสำเร็จรูปลงเหลือแค่พอประมาณ
ลดการสร้างขยะพลาสติก
ช่วงกักตัวหากสามารถทำอาหารทานเองได้ควรทำให้บ่อยขึ้นแทนการบริโภคอาหารสำเร็จรูป
ที่มีการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกครั้งเดียวทิ้ง
3. การซื้อสินค้าอาหาร ควรตรวจสอบวันหมดอายุก่อนซื้อ และซื้อไว้ในปริมาณที่พอเหมาะสำหรับการบริโภค เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด Food waste หรือขยะอาหาร
ด้วยเหตุนี้
หากไม่มีการรณรงค์เกี่ยวกับผลเสียและการลดใช้ขยะพลาสติก รวมไปถึงขยะอื่นๆ
อย่างต่อเนื่องต่อไป ทั้งๆ ที่ไทยทำมาดีแล้วตั้งแต่ต้นปี ก็คาดว่าปริมาณขยะกำจัดยากอย่างขยะพลาสติก
จะไม่หายไปตามที่รัฐบาลเคยลั่นวาจาแถลงข่าวไว้ เกี่ยวกับนโยบายการบริหารจัดการขยะพลาสติกในภาพรวมของประเทศ
ที่ตั้งเป้าไว้ว่าประเทศไทยจะปลอดจากขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในปี
พ.ศ.2565 เพราะในขณะนี้ผู้คนให้ความสำคัญต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
และวิกฤติเศรษฐกิจการเงินส่วนตัวมากกว่า ที่จะมาห่วงเรื่องการลดใช้ปริมาณขยะหรือผลกระทบที่ขยะสร้างความเสียหายให้แก่โลก.
แหล่งอ้างอิง :
https://news.ch7.com/detail/406488
https://www.thebangkokinsight.com/337500/
https://www.matichon.co.th/covid19/news_2127981
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/874793