Work From Home หนีภัยระบาด COVID-19

SME in Focus
20/03/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 2571 คน
Work From Home หนีภัยระบาด COVID-19
banner

สถานการณ์การแพร่ระบาดของ ไวรัส COVID-19 (โควิด-19) ยังขยายความรุนแรงและแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องลุกลามไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งภาคอุตสาหกรรม, เศรษฐกิจ, ธุรกิจต่างๆ และภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนในกลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิด โดยส่วนใหญ่ติดต่อผ่านทางละอองเสมหะ จากการไอ จาม น้ำมูก และน้ำลาย

โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากก็จะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการติดต่อได้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดความหวาดระแวงต่อกันว่าจะเกิดการแพร่ระบาดติดต่อกันง่ายมากขึ้น ไม่ว่าเป็นที่โรงเรียน, สถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่บริษัทและสำนักงานต่างๆ

การทำงานที่บ้าน หรือ Work from Home  (WFH) ถือเป็นมาตราการอีกทางเลือกอีกทางหนึ่งในการหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ ซึ่งพนักงานทำงานที่บ้านต้องเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ ,เครื่องมือในการทำงานและการติดต่อสื่อสารให้สอดคล้องกับยุคเทคโนโลยีดิจิทัล

ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าไปทำงานในออฟฟิศอีกต่อไป เนื่องจากไม่ว่าจะอยู่ที่ซีกไหนของประเทศไทยก็สามารถทำงานได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 


ทำงานที่บ้านเริ่มเป็นที่นิยมหลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2008

ปี 2008 ที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจและวิกฤติการณ์ทางการเงินโลก (Global Financial Crisis) ทำให้บริษัทขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ เพื่อเป็นการลดต้นทุนทั้งของบริษัทและพนักงาน ซึ่งนับตั้งแต่ปีนั้นเป็นต้นมา ชาวอเมริกันเริ่มนิยมทำงานที่บ้านเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จาก 4.1% ในปี 2008 เพิ่มเป็น 5.4% ในอีก 10 ปีต่อมา

หลังจากปี 2008 ที่เศรษฐกิจเติบโตชะลอตัวลงและยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้นมาเมื่อไหร่ ทำให้บริษัทต่างๆ พยายามลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด รวมถึงลดขนาดของตัวออฟฟิศเล็กระชับลง และสนับสนุนให้พนักงานออฟฟิศทำงานที่บ้านแทนมากขึ้น

ซึ่งผลที่ตามมาไม่ใช่แค่บริษัทสามารถลดต้นทุนได้เท่านั้น แต่ตัวพนักงานเองก็ทำงานได้มากขึ้นด้วย จากการศึกษาของฮาร์วาร์ด บิสิเนส รีวิวิ( Harvard Business Review) พบว่าการทำงานที่บ้านนั้น นอกจากทำให้พนักงานทำงานได้งานมากขึ้นถึง 4.4% แล้วยังทำให้อัตราคนลาออกจากบริษัทลดลงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งจากการศึกษาของสแตนฟอร์ด ยูนิเวอร์ซิตี้ ( Stanford University) พบว่าในพนักงานมากกว่า 16,000 คนของบริษัทเอเจนซี่ทัวร์ของจีนมีความสุขจากการทำงานมากขึ้น ลดอัตราคนออกจากงานได้กว่าครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

นั่นคือเหตุผลว่าตอนทำงานในออฟฟิศมักจะมีสิ่งรบกวน เช่น พักกินกาแฟ มีคนทักรบกวน เข้าสังคม แต่พอได้ทำงานที่บ้านแล้วทำงานได้มากขึ้น มีสมาธิมากขึ้น สามารถจัดการสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้มากขึ้น การทำงานที่บ้านทำให้พนักงานต้องรู้จักวางแผนตารางการทำงานมากขึ้น ทำให้พนักงานทำงานในตารางเวลาที่ยืดหยุ่นขึ้น Work-Life Balance เริ่มเป็นจริงมากขึ้นตามไปด้วย ทำงานได้มากขึ้น แถมมีเวลาให้ครอบครัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

 

ผลเสียทำงานที่บ้านที่ไม่ค่อยมีใครคิดถึง

1. ไม่ได้จดจ่ออยู่กับงานตลอดเวลา

2. เหงา

3. ประสิทธิภาพในการสื่อสารและทำงานร่วมกันลดลง

4. มีสิ่งรบกวนในบ้าน

5. Time Zone ระหว่างเพื่อนร่วมงานต่างกัน

6. ความรู้สึกอยากทำงานลดลง

ทั้ง 6 ข้อดังกล่าวเป็นข้อเสียของการทำงานที่บ้าน หลายคนไม่ชอบทำงานที่บ้าน เพราะที่บ้านสามารถปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนไม่ได้ทำงาน การทำงานที่บ้านทำให้ธุรกิจไม่สามารถรักษาวัฒนธรรมขององค์กรเอาไว้ได้ ไม่เหมือนตอนที่งานในห้องเดียวกันที่ออฟฟิศ พนักงานยังอยากเห็นหน้าคุยกันอยู่ทุกวัน การประสานงานที่ออฟฟิศดีกว่าตอนทำงานที่บ้าน

ที่สำคัญคือการที่เทคโนโลยีเชื่อมต่อพนักงานตลอดเวลา นั่นอาจหมายถึง ต้องพร้อมทำงานตลอดเวลาด้วยเช่นกัน จริงอยู่ที่หากทำงานที่บ้านไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศตอน 9  โมง เลิก 5 โมงเย็น แต่นั่นหมายความว่าต้องทำงานก่อน 9 โมง และหลัง 5 โมงเย็นได้เช่นเดียวกัน


ธุรกิจที่เกิดขึ้นจากทำงานที่บ้าน

พวกซอฟท์แวร์การสื่อสารในที่ทำงานอย่าง Slack หรือ Video Conference อย่าง Zoom บริการพวกนี้ได้รับความนิยมส่วนหนึ่งมาจาก Work From Home โดยเฉพาะธุรกิจอย่าง “Co-working Space” ซึ่ง Co-working Space มาจากการที่บริษัทมานั่งทบทวนปัญหาของตัวพื้นที่ในออฟฟิศเอง และบริษัทอยากให้มีพื้นที่สำหรับทั้งโฟกัสไปที่การทำงาน พื้นที่ทำงานร่วมกัน พื้นที่ส่วนตัวไว้คุยสองต่อสอง และพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่ามาทำงานที่ออฟฟิศก็เหมือนได้ทำงานที่บ้าน

หรือแม้แต่ แอปพลิเคชัน LINE ก็สามารถประชุมแบบวิดีโอแบบกลุ่มกันได้ แถมง่ายและสะดวกเพราะคนไทยคุ้นเคยกับการติดต่อผ่านLINE เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ การทำงานที่บ้านปัจจุบันมีหลายบริษัทชั้นนำของไทย เริ่มให้พนักงานของบริษัทในทำงานที่บ้านบ้างแล้ว หลังตรวจพบว่าพนักงานบริษัทติดเชื้อ หรือต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทได้สั่งปิดออฟฟิศทันที พร้อมกับห้ามพนักงานมาทำงานชั่วคราว อาจเป็น 7 วัน หรือ 14 วัน โดยให้พนักงานทำงานที่บ้านแทน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโรค หรือการทำให้โรคแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น ซึ่งแนวโน้มการทำงานที่บ้านอาจเป็นต้นแบบของบริษัทสมัยใหม่นำมาประยุกต์ใช้ในองค์กรในอนาคตก็อาจเป็นไปได้

 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 


มาตรการรับมือ COVID-19 สำหรับสถานประกอบการ

แนะ 4 ทริค รับมือ COVID-19 ให้อยู่หมัด


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ขับเคลื่อนเกษตรกรไทยด้วยแนวทาง 2 Q เปิดสวิตช์ติดเครื่อง ฟื้นคืนวัฏจักร ผลักดันสู่อาเซียน

ขับเคลื่อนเกษตรกรไทยด้วยแนวทาง 2 Q เปิดสวิตช์ติดเครื่อง ฟื้นคืนวัฏจักร ผลักดันสู่อาเซียน

แม้ในปัจจุบัน มนุษย์จะมีองค์ความรู้มากขึ้นเพียงใดก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแทบทุกวงการ มนุษย์ก็ต้องการเครื่องทุ่นแรง เพื่อมาช่วยเหลือในเรื่องต่าง…
pin
2 | 05/02/2025
ราชินีแห่งดอนตูม รวมกลุ่มเกษตรกร ส่งต่อมะเขือเทศผ่านแนวคิดพอเพียง

ราชินีแห่งดอนตูม รวมกลุ่มเกษตรกร ส่งต่อมะเขือเทศผ่านแนวคิดพอเพียง

เสิร์ฟสานความสดใหม่ ร่วมมือร่วมใจเกษตรกรแข็งขัน องค์ความรู้เก่า แนวคิดใหม่ ส่ง “มะเขือเทศราชินี” สู่การแข่งขันจากแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง…
pin
5 | 04/02/2025
“น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ” จากธุรกิจครอบครัว สู่แบรนด์ระดับโลก สร้างความยั่งยืนธุรกิจเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด ESG

“น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ” จากธุรกิจครอบครัว สู่แบรนด์ระดับโลก สร้างความยั่งยืนธุรกิจเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด ESG

เจาะกลยุทธ์ “น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ” สร้างความยั่งยืนธุรกิจ ด้วยแนวคิด ESG เติบโตเคียงคู่ดูแลสิ่งแวดล้อม สู่แบรนด์ระดับโลกช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา…
pin
8 | 21/01/2025
Work From Home หนีภัยระบาด COVID-19