ผ่านครึ่งปีแรกไปอย่างยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
ทั้งจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้กับกำลังซื้อลดลง และยังต้องมาเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด
19 ยิ่งทำให้อุตสาหกรรมนี้ถูกแช่แข็งหนักขึ้นไปอีก
ในส่วนของประเทศไทย
มีข้อมูลสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า การผลิตในช่วงครึ่งปีแรก
(ม.ค.-มิ.ย.) 2563 มีจำนวน 606,132 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 43.15%
โดยเป็นผลจากตลาดในประเทศครึ่งปีแรกหดตัว 259,754 คัน ลดลง 48.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และตลาดส่งออกมีจำนวน 346,378 คัน ลดลง 37.87% ของปีก่อน
ทั้งนี้ หากแยกเป็นรายประเภทจะพบว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี การผลิตปรับลดลงทุกกลุ่ม อาทิ กลุ่มรถยนต์นั่งลดลง 63.45% รถยนต์โดยสารขนาดเล็กลดลง 49.77% รถยนต์บรรทุกลดลง 40.76% รถกระบะขนาด 1 ตันลดลง 40.75% รถกระบะบรรทุกลดลง 36.66% และรถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน-มากกว่า 10 ตันลดลง 40.98%
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
อย่างไรก็ตาม หากเทียบในกลุ่มประเทศอาเซียนจะพบว่า
หลายประเทศที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ในอาเซียนก็มีอาการโคม่าไม่ต่างกัน อาทิ โปรตอน (Proton)
ซึ่งเป็นแบรนด์ของบริษัท Proton Holding Bhd ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติมาเลเซีย
ได้มีการประกาศปรับราคารถยนต์ลง 1.2% ถึง 5.7% มาตั้งแต่ต้นปี
และภาครัฐยังมีมาตรการยกเว้นภาษีการขายให้กับผู้ซื้อรถยนต์ใหม่
โดยหวังว่าราคาใหม่จะช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ได้
และที่สำคัญอุตสาหกรรมนี้ยังช่วยเศรษฐกิจคิดเป็น 4.3%
ของจีดีพี และมีการจ้างงานถึง 7 แสนคน
แต่มาตรการดูจะไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก สะท้อนทางจากยอดขายรถยนต์ใหม่ในเดือนเมษายน 2563 ที่มีเพียง 141 คัน จากปีก่อนที่มี 49,935 คัน นั่นเป็นผลจากผู้บริโภคในมาเลเซียกังวลต่อสถานการณ์ความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมาเลเซีย ทำให้ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
ขณะที่สถานการณ์การผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในเวียดนาม
ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 เช่นกัน โดยสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของเวียดนามระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรก มีจำนวน 64,100 คัน ลดลง 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
กระทั่งรัฐบาลเวียดนามได้ออกประกาศปรับลดค่าธรรมเนียม
59%
ในการจดทะเบียนรถยนต์คันแรก จากเดิมที่เคยเก็บค่าธรรมเนียมสูงถึง 12% สำหรับฮานอย ไฮฟอง และกว่างนิงห์ และอัตรา 10%
ที่โฮจิมินห์ และอัตรา 11% ที่ฮาติ๋งห์
และจังหวัดทางภาคภาคกลาง
นอกจากนี้ยังมี "ฟิลิปปินส์"
ที่ประสบปัญหายอดขายรถยนต์ในเดือนมิถุนายน มีจำนวน 4,711 คน ลดลง 50.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน
10,867 คัน เป็นการปรับลดลงแทบทุกแบรนด์ เช่น โตโยต้า
มอเตอร์ ฟิลิปินส์ ลดลง 48.6% มิซูบิชิ มอเตอร์ฟิลิปปินส์
ลดลง 56.5% ซูซุกิ ฟิลิปปินส์ ลดลง 30.8% นิสสัน ฟิลิปปินส์ ลดลง 73.9% และฟอร์ด มอเตอร์
ฟิลิปปินส์ ลดลง 44.6%
เรียกเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรง ค่ายรถยนต์ได้ปิดไลน์การผลิตชั่วคราว
จากมาตรการเปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด
และคาดว่าอุตสาหกรรมยังต้องใช้เวลาอีกนานในการฟื้นตัวจากโควิด
อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งผู้ประกอบการค่ายรถยนต์ต่างๆ เร่งพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อใช้ส่งเสริมการขาย และบางค่ายเตรียมเปิดตัว ‘ตัวแทนจำหน่ายเสมือนจริง’ เพราะผลจากโควิด 19 ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal) ลดการเดินทางไปโชว์รูมแต่หันมาใช้ระบบออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งมีการจัดโปรโมชั่นส่งเสริมและกระตุ้นยอดขายอย่างคึกคัก เช่น การใช้ส่วนลดเงินสดในบางรุ่นมากขึ้น การลดเงินดาวน์ และอัตราขั้นต่ำในการผ่อนชำระต่อเดือน เป็นต้น
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<