ณ ปัจจุบันนี้หลังหมดโควิด-19 การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของออนไลน์ที่เติบโตขึ้น การบริการส่งอาหารถึงที่ที่ได้รับความนิยม และอีกหนึ่ง New Normal ที่จะมาแรงและเกิดกระแสขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่แพ้กันก็คือ กระแสของ Digital Healthcare นั่นเอง เพราะโควิด-19 ที่เข้ามา ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการแพทย์ต่างๆ เกิดขึ้น รวมถึงเพราะการระบาดที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทุกคนตื่นตัวกับอุตสาหกรรมนี้กันทั้งสิ้น และแน่นอนว่ามันจะได้รับความนิยม เติบโตขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ธุรกิจ Digital Healthcare ที่น่าจับตาหลังโควิด-19
ธุรกิจในด้านสุขภาพนั้นถึงแม้จะไม่เกิดกระแสโควิด-19 ขึ้นมา ก็ยังคงเป็นที่น่าจับตา
และผู้คนให้ความสนใจอยู่ดี
เพราะคนยุคใหม่มีแนวโน้มหันมาดูแลสุขภาพร่างกายกันมากขึ้น
ยิ่งมีการกระตุ้นจากโควิด-19 แล้ว
ยิ่งทำให้อุตสาหกรรมนี้ได้รับความนิยม และมีความต้องการมากกว่าเดิม
ซึ่งสังเกตกระแส Digital Healthcare นี้ได้จากกลุ่มธุรกิจเหล่านี้
1. เทคโนโลยีทันสมัยสำหรับการรักษา
เทคโนโลยีที่ทันสมัยสำหรับการรักษาโรคต่างๆ
เป็นสิ่งจำเป็นมากในยุคนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ทุกคนอยู่บนโลกออนไลน์เป็นหลัก
เราสามารถทำทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์ได้แม้กระทั่งพบคุณหมอ หรือปรึกษาแพทย์
อย่างที่ต่างประเทศมีการรักษาแบบออนไลน์
ทั้งในเรื่องการปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพจิตใจ รวมถึงการรักษาด้วย Remote ทางไกล
และเครื่องมือทันสมัยต่างๆ ที่ถูกพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์อีกด้วย
2. วัคซีนเป็นที่จำเป็น
ตั้งแต่มีโควิด-19 เกิดขึ้น
กลุ่มธุรกิจด้าน Digital Healthcare เกี่ยวกับวัคซีนก็ได้รับความนิยมสูงขึ้นตาม
ทั้งในการผลิตยารักษาโรคต่างๆ
รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีส่วนในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย
หรือป้องกันโรคร้ายต่างๆ อีกด้วย
3. Telemedicine กำลังมา
Telemedicine
เป็นการแพทย์ทางไกล ที่ทำให้บุคลากร ผู้ป่วย และแพทย์ได้คุยตอบโต้กันแบบ
Real-Time ซึ่งทำได้มากกว่า Virtual หรือ
Remote เพราะเป็นการรักษาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเสร็จสิ้น
ทั้งวินิจฉัยโรค ให้คำปรึกษา รับส่งข้อมูลที่จำเป็น เช่น ภาพเอกซเรย์
ติดตามอาการผู้ป่วย ซึ่งมีประโยชน์สูงมาก
แต่ไม่ว่าการพัฒนาของส่วนสำคัญต่างๆ
ในวงการแพทย์มันจะถูกขับเคลื่อนไปไกลเท่าไหร่
สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญที่จะประกอบให้ทุกส่วนมันใช้งานได้จริง
ก็คือเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ ทั้งซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ที่ต้องเติบโตเคียงคู่กันไป
เช่น Telemedicine จะดีขึ้นและใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพได้
ก็ต้องมาคู่กับเครื่องมือใหม่ๆ อย่าง Handheld Examination Kit ที่จะใช้งานควบคู่กัน และทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยอาการอย่างแม่นยำมากขึ้น
แม้จะไม่ได้อยู่ต่อหน้าคนป่วยก็ตาม
ประโยชน์ของการรักษาในผ่าน
Digital Healthcare ต่างๆ
สำหรับประโยชน์ของเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นในวงการแพทย์นั้นต้องบอกว่ามีเยอะมาก
ทั้งช่วยให้การรักษาพยาบาลเป็นเรื่องง่ายขึ้น ยกระดับมาตรฐานต่างๆ
การวินิจฉัยอาการจะมีความแม่นยำ
ที่สำคัญยังทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้แบบไม่แบ่งแยก
แม้จะอยู่ตามชนบทที่ห่างไกลก็ยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้
และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
นอกจากนี้
Digital Healthcare ต่างๆ
อย่าง Telemedicine เองก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลโดยรวม
ช่วยลดระยะเวลาการนอนพักผ่อนรักษาในโรงพยาบาล
รวมถึงผู้ป่วยหรือผู้รับบริการด้านการแพทย์ก็จะมีความสะดวกสบายมากขึ้น
ไม่ต้องเดินทางไกลมารอคิวที่โรงพยาบาลอย่างเคย
มองให้รอบด้าน
อะไรบ้างที่ไทยยังขาดในส่วนของ Digital Healthcare
ทุกวันนี้
Digital Healthcare ของประเทศจีนนั้นเติบโตไปมากกว่า
30% ในช่วงเวลาแค่เพียง 5 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาพัฒนาไปได้ไกลในเวลาอันสั้นคือเรื่องของการแก้ไขกฎระเบียบด้านสาธารณสุข
การออกกฎหมายที่รองรับ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ที่จัดเต็มสอดคล้องพร้อมรับกับกระบวนการทำงานของ
Digital อย่างแท้จริง
ในประเทศไทยนั้นปัญหาใหญ่ที่สุดที่จะผลักดันให้เราก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม
Digital Healthcare ได้อย่างดีที่สุดเลยคือ
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในจุดต่างๆ ดังนี้
1. จัดสรรทรัพยากรทางการแพทย์ให้พร้อม
2. ผลิตและพัฒนาค้นคว้าเพื่อให้บริการต่างๆ มีราคาที่ถูกลง
3. เพิ่มระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพ เสถียร
และเพียงพอ
4. ออกกฎหมายรองรับและผลักดันอย่างชัดเจน
ในความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยี กระบวนการ หรือการป้องกันควบคุมโรคต่างๆ ของประเทศไทยนั้นไม่ได้ด้อยกว่าใคร และมีหลักฐานแสดงให้เห็นถึงจุดนี้แล้วอย่างเช่น จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยช่วงโควิด-19 ที่ต่ำกว่าหลายประเทศ และได้รับการยกย่องเป็น 1 ในประเทศที่มีการป้องกันโรคระบาดได้ดีมาก หากไทยจับศักยภาพตรงนี้อย่างเต็มตัว และพัฒนา Digital Healthcare ของประเทศให้สอดคล้องกับความเป็นไปของโลกมากขึ้น แน่นอนว่าสักวันเราจะกลายเป็น Medical Hub ที่ทันสมัย และใครๆ ต่างก็นึกถึงอย่างแน่นอน และก้าวสู่การเป็น Healthcare 4.0 ได้อย่างแท้จริง