Digital Marketing เป็นเครื่องมือสำคัญ
ที่จะขาดไม่ได้ในการทำตลาดยุคนี้
แต่จะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ และจะเลือกใช้แพลตฟอร์มใดในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง
ไปจนสามารถปิดการขาย กระตุ้นยอดซื้อสินค้า สร้างรายได้ดีๆ เข้าสู่ธุรกิจได้ โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดำเนินการมากมาย
เพราะ Digital Marketing เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องและมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจ
สังคม เทคโนโลยี สภาพการณ์ของบ้านเมืองและสถานการณ์ของโลกตลอดเวลา
การวางแผน Digital Marketing
ซึ่งจะดีกว่ามากหากผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ที่ไม่ได้มาทางสายการตลาดขนานแท้จะเดินเกมตลาดดิจิทัลได้ด้วยตัวเอง จนประสบความสำเร็จได้เทียบเท่าการจ้างวานมืออาชีพ แบบมีหลักการที่ช่วยทำพาไปสู่เป้าหมายได้ไม่ยาก ด้วยหลัก 5S ของ ‘Dave Chaffey and PR Smith’ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการวางแผน Digital Marketing ที่จะง่ายดายยิ่งขึ้นถ้าปฏิบัติได้ตามกรอบการทำงานที่สามารถตรวจสอบและกำหนดเป้าหมายได้อย่างชัดเจน ตามกฎเหล็กสำคัญที่จะทำให้เลือกใช้สื่อหรือแนวทางในการทำตลาดดิจิทัลให้ประสบความสำเร็จ ดังนี้
หลัก 5S ของ Dave Chaffey and PR Smith
1. SELL (เพิ่มยอดขาย) : ใช้สื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook,
Instagram, Twitter, Line, TiKToK ซึ่งเป็นเครื่องมือในการช่วยสร้างความน่าสนใจให้ลูกค้าได้รู้จักและจดจําแบรนด์เราได้
แล้วจะนำไปสู่การซื้อ-ขายเพิ่มขึ้น จากการที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการที่มีได้ง่ายขึ้นและกว้างขวางขึ้น
โดยการนำเสนอสินค้า โปรโมชั่น ส่วนลดหรือนำเสนอ Storytelling ในสื่อออนไลน์
2. Serve (เพิ่มมูลค่า)
: ใช้ช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียในการเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าหรือบริการ
บนการสร้างความพึงพอใจและประโยชน์เพิ่มเติมจากการให้บริการตามปกติให้แก่ลูกค้า
เช่น การยื่นข้อเสนอสุดพิเศษให้ประโยชน์แก่ลูกค้า ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่างการให้คำปรึกษา
การให้บริการตอบคำถามที่รวดเร็ว ใส่ใจในการช่วยแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้า
ผ่านช่องทางต่างๆ ที่มี แม้แต่บทความดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อลูกค้า ก็สามารถช่วยเพิ่มมูลค้าให้แก่สินค้าและบริการที่เรามีได้
3. Speak (สร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า)
: ผ่านช่องทางที่มีบนออนไลน์
โดยโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยมในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
และยังทำให้เกิดความใกล้ชิดแก่ลูกค้าได้ดีด้วย ซึ่งการได้สนทนากับลูกค้าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนั้น
จะทำให้ล่วงรู้ถึงความต้องการของลูกค้าและความสนใจ ที่สามารถชักนำไปสู่การขายได้
4. Save (ลดค่าใช้จ่าย)
: เป็นเรื่องที่สำคัญที่การดำเนินธุรกิจทุกธุรกิจต้องมีเพื่อนำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายต่างๆ
ที่เกิดขึ้น การทำ Digital Marketing บนออนไลน์และโซเชียมีเดีย
จึงเป็นช่องทางที่ทำให้ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลงได้
และยังมีโอกาสได้รับข้อมูลจากลูกค้าโดยตรง ทำให้เกิดการเข้าถึง เข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรได้มากขึ้น
ข้อมูลลูกค้าที่ได้มาจึงแม่นยำ ตรงความต้องการ ไม่ต้องเสียงบประมาณในการจ้างคนทำการสำรวจหรือทำแบบสอบถาม
การทำตลาดออนไลน์จึงเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการทำตลาด Offline
ในแบบเดิม
5. Sizzle
(ขยายแบรนด์ผ่านโซเชียลมีเดีย) : การขยายแบรนด์เป็นการสร้างความรู้สึกอันดีให้เกิดขึ้นในใจของลูกค้า
จนทำให้เกิดความประทับใจและอยากกลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าซ้ำ
ไปจนถึงเกิดการรีวิว บอกต่อประโยชน์อันดีที่ได้ผ่านประสบการณ์การใช้สินค้าหรือบริการที่เกิดขึ้นแก่ตัวเอง
ซึ่งเป็นการตลาดที่เห็นผลดีด้านการกระตุ้นยอดขายและเกิดการซื้อที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตามการทำ Digital Marketing ทีดี
คือการทำได้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ เช่น การสร้างการรับรู้ในแบรนด์
การสร้างยอดขาย การกระตุ้นในเกิดการบอกต่อ
หรือแม้แต่การสร้างมูลค่าเพิ่มของสินค้าหรือบริการ
ซึ่งทั้งหมดอาจจะต้องทำทีละเรื่องหรือทีละขั้นตอน
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
และสำคัญที่สุดคือการจัดการงบประมาณในการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม รวมทั้งการบริหารช่องทางจำหน่ายอย่างชาญฉลาด
ซึ่งครั้งหน้าเราจะมาต่อกันเรื่องนี้อย่างจริงจักกว่านี้
