เขตเศรษฐกิจพิเศษ ‘รัฐมอญ’ ประตูลงทุนบานที่ 3 ของเมียนมา
โค้งสุดท้ายก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ของเมียนมาในเดือนพฤศจิกายน
2563 นี้ ถือว่ามีสถานการณ์ท้าทายต่อการทำงานของรัฐบาลหลายด้าน โดยเฉพาะผลพวงจากการระบาดของโควิด
19 ที่มียอดสะสมสูงขึ้น 2
เท่าตัวจากเดิม 340 คน เป็น 1,111 คน
ในเวลาเพียง 10 กว่าวัน ทำให้รัฐบาลต้องประกาศคำสั่งปิดเมืองเนปิดอร์
มาตรการดังกล่าวกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าไปยังกรุงเนปิดอร์
จะต้องเข้ารับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลจัดให้เป็นเวลาอย่างน้อย 7 วัน ส่วนบุคคลที่กลับจากพื้นที่อื่นจะได้รับการปล่อยก่อนครบ 7 วัน หากผ่านกาตรวจสอบเชื้อแล้ว
ผลพวงจากการระบาดถือเป็นความท้าทายของรัฐบาลที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่การเลือกตั้งไม่น้อย โดยรัฐบาลปัจจุบันซึ่งดำเนินงานมาจนครบวาระ 5 ปี ได้ประกาศถึงนโยบายการส่งเสริมการค้า การลงทุน เพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาลงทุน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
โดยหนึ่งในนโยบายเศรษฐกิจสำคัญนั้น ก็คือการเตรียมพร้อมที่จะพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ขึ้นใน
‘รัฐมอญ’ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันตกของประเทศ
นางอองซาน ซูจี
ที่ปรึกษาแห่งรัฐ ระบุว่า
กระบวนการประกวดราคาเพื่อพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ทางภาคตะวันตกจะมีการดำเนินการในเร็วๆ
นี้ โดยคาดว่าครั้งนี้จะมีนักลงทุนจากจีนเข้าร่วมประกวดราคาด้วย แต่อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะเชิญบริษัทจากญี่ปุ่นเข้ามาร่วมในโครงการดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้หากการลงทุนสำเร็จ
เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้จะถือเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งที่ 3 จากเดิมที่เมียนมามีเขตเศรษฐกิจพิเศษ Thilawa ซึ่งร่วมพัฒนากับประเทศญี่ปุ่น และเขตเศรษฐกิจพิเศษ Kyaukpyu
ซึ่งเป็นการพัฒนร่วมกับประเทศจีนไปแล้ว
เป้าหมายสำคัญของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้
ไม่เพียงจะเป็นพื้นที่รองรับการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเท่านั้น
แต่ยังมีแผนที่จะพัฒนาท่าเรือในบริเวณพื้นที่แนวชายฝั่งของรัฐมอญ
ซึ่งติดกับมหาสมุทรอินเดีย
นาย Thaung Tun รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุนและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศ
กล่าวว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า
และเชื่อมโยงได้ดีกว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษอื่นๆ ในเมียนมา
โดยความหวังของการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ รัฐบาลมุ่งจะดึงดูดการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่น
ซึ่งกำลังมีนโยบายกระจายการลงทุนเพื่อสร้างฐานผลิตในประเทศอื่นๆ นอกจากจีน
หลังจากที่ประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในจีน
ในส่วนของไทยได้มีการขยายการลงทุนเข้าไปยังเมียนมาอย่างต่อเนื่อง
โดยมีมูลค่าการลงทุนอยู่ในอันดับท็อป 5 โดยธุรกิจส่วนใหญ่ที่เข้าไปลงทุนในเมียนามจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่
เช่น กลุ่มแม็คโคร เป็นต้น
เนื่องจากผู้ประกอบการไทยเริ่มมองเห็นถึงโอกาสการลงทุนในตลาดที่กำลังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงมากถึง
6.3%
ในปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลดีต่อกำลังซื้อของชาวเมียนมา
ประกอบกับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนรัฐบาลเมียนมาเริ่มเปิดกว้าง
โดยเฉพาะบางประเภทธุรกิจ เช่น ค้าปลีก
เปิดให้นักลงทุนต่างชาติสามารถถือครองหุ้นได้ถึง 100% จึงเป็นแรงจูงใจสำคัญไม่น้อย
ดังนั้นเชื่อมั่นว่าในอนาคตหากเขตเศรษฐกิจพิเศษรัฐมอญก่อสร้างสำเร็จ น่าจะเป็นประตูบานใหม่ที่เปิดรับการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติรวมถึงนักลงทุนไทยเช่นกัน
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<