‘เอราวัณ ดีไซน์’ เปลี่ยนวัสดุไร้ค่า สู่งานศิลปะหนึ่งเดียวในโลก โดนใจลูกค้าต่างแดน สร้างยอดขายเดือนหลักล้าน

จากผลงานการออกแบบเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุธรรมชาติ ภายใต้ชื่อ ERAWAN DESIGN ที่มี คุณวรรณวดี เอราวรรณ์ กรรมผู้จัดการ หจก.เอราวัณ ดีไซน์ มาสานต่อธุรกิจครอบครัว (Family Business) ที่นำวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติอย่าง เศษไม้ ใบยาง และลูกไม้ประดู่ที่อยู่รอบบ้านมาสร้างผลงานเป็นเฟอน์นิเจอร์สวยๆได้อย่างลงตัว จนเป็นที่ถูกใจในตลาดต่างประเทศ ถึงกับต้องยอมควักกระเป๋าจ่าย เพื่อมีไว้ครอบครอง

คุณวรรณวดี เอราวรรณ์ กรรมผู้จัดการ หจก.เอราวัณ ดีไซน์ เล่าให้ฟังว่า แรกเริ่มเดิมทีเกิดจากความที่คุณพ่อกับคุณแม่ชอบลวดลายของไม้ธรรมชาติที่มีความสวยงามไม่เหมือนใคร จึงชอบนำเศษไม้ - ใบไม้มาประดิษฐ์เป็นของตกแต่งบ้านเป็นงานอดิเรก อาทิ โคมไฟ ม้านั่ง รากไม้ตกแต่งตู้ปลา เมื่อทำแล้วใช้งานได้จริงจึงเกิดความคิดว่าน่าลองประดิษฐ์ขายปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด จึงเป็นจุดเริ่มของการทำธุรกิจผลิตเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติ 100% ภายใต้ชื่อ หจก. เอราวัณ ดีไซน์ (ERAWAN DESIGN) โดยทำเป็นธุรกิจครอบครัว (Family Business) มาตั้งแต่ปี 2548 โดย คุณวรรณวดี เป็นทายาทรุ่นที่ 2 ที่เข้ามาบริหารงานดูแลด้าน Sourcing and Marketing  

ด้วยประสบการณ์กว่า 17 ปี ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์งานโดยเพิ่มคุณค่าจากเศษไม้ ใบไม้ที่เป็นวัสดุเหลือใช้จากธรรมชาติมาเป็นงานศิลปะด้วยใจรักผนวกเข้ากับความชำนาญ ที่มีการพัฒนาดีไซน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งความสวยงาม คุ้มค่า คงทน ที่สำคัญมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้าในหลายประเทศทั่วโลก

คุณวรรณวดี เผยถึงที่มาของแนวคิดในการดีไซน์ว่า ส่วนใหญ่ศึกษาจากตลาดทั่วโลก เข้าไปดูเทรนด์ใหม่ๆ เทรนด์ส่วนใหญ่จะมาจากต่างประเทศ ว่าปีนี้เน้นดีไซน์แบบไหน เราก็จะออกแบบไปตามเทรนด์ของแต่ละปี ว่าเขาชอบแนวไหน เราก็ออกแบบให้ตอบโจทย์ลูกค้า และอีกแบบหนึ่งคือ การออกแบบงานใหม่ๆ ให้มีความแปลกไปเลย เขาก็จะสนใจในความแปลกเราก็จะได้ลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง

ขณะที่ส่วนของการดีไซน์งาน คุณวรรณวดี บอกว่า เรามีคนที่ทำงานดีไซน์ประมาณ 3 - 4 คน ในการคิดดีไซน์จึงถือเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง โดยคนไม่กี่คนในการมองงาน ซึ่งเราต้องปูพื้นฐานให้เขา เหมือนส่งต่อความรู้ คือคนที่มาศึกษาคนที่มาทำต่อเขาก็ต้องมาเห็นเป็นแพทเทิร์นเดียวกัน เป็นการ On the Job Training Only ไม่มีแบบภาพถ่ายแล้วออกแบบตาม ต้องใช้จินตนาการและความชำนาญของตนเองในการสร้างสรรค์งานแต่ละชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นจะใช้เวลาไม่เท่ากัน อย่างชิ้นงานที่แพงที่สุดเป็นม้าตัวขนาด 2 เมตร จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการประกอบจะใช้สกรูน็อตยึดให้เชื่อมต่อกัน 

คุณวรรณวดี อธิบายถึงแนวคิดการทำงานว่า ‘เอราวัณ ดีไซน์’ ยึดคอนเซปต์นำวัสดุที่เหลือใช้ตามธรรมชาติมาสร้างสรรค์ผลงานเท่านั้น ที่เลือกใช้ใบยาง และลูกประดู่ เพราะตกอยู่หน้าบ้านเป็นจำนวนมาก ต้องกวาดทิ้งทุกวัน แต่พอนำมาทำเป็นของใช้ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้แทนที่จะเป็นขยะเผาทิ้ง ซึ่งในขั้นตอนของการทำใบยางและลูกประดู่ เริ่มจากการหาใบยางและลูกประดู่ที่หล่นอยู่หน้าบ้านเก็บใบและลูกสวยๆ มาแช่น้ำยา เพื่อให้เห็นเส้นใย ก่อนจะนำมาประกอบเป็นโคมไฟ ในรูปแบบต่างๆ 

นอกจากโคมไฟที่ประดิษฐ์จากใบยางและลูกประดู่แล้ว ยังมีผลงานที่ทำจากใช้เส้นใยบวบ และเส้นใยจากหญ้าลิเภา ที่นำมาทำเป็นกระเป๋าด้วย โดยเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในการออกงานแสดงสินค้าของขวัญของแต่งบ้าน BIG&BIH โคมไฟหญ้าลิเภาได้รับการตอบรับดีมาก เพราะเหมือนรังนก ลูกค้าชาวต่างชาติจะชอบมากเพราะดูเป็นธรรมชาติ ส่วนโคมไฟใบยาง และลูกประดู่ก็ได้รับการตอบรับดีเช่นกัน 

คุณวรรณวดี เผยถึงเส้นทางการทำตลาด เริ่มจากการลองนำผลิตภัณฑ์ไปเสนอขายผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ซึ่งสินค้าจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งคือเป็นงานเศษไม้ที่นำตกแต่งเล็กน้อยขนาดเล็กแล้วนำไปใช้งานได้เลย ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มที่เอาเศษไม้มาประกอบกันแล้วดีไซน์เป็นเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ 

โดย เอราวัณ ดีไซน์ ขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ทั้งเว็บไซต์, เฟซบุ๊กของตนเอง และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ รวมถึงแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ทำให้ลูกค้าต่างชาติรู้จักผลงานของเอราวัณ ดีไซน์ เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ B2B ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้นำเข้า (Importer) สั่งผลิตเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ มากกว่าผู้ใช้งานจริง (End User) ที่ซื้อไปใช้โดยตรง จึงทำให้มีออเดอร์สั่งซื้อครั้งละจำนวนมาก

คุณวรรณวดี บอกด้วยว่า อีกช่องทางหนึ่งที่สำคัญ คือการติดต่อหน่วยงานภาครัฐที่สนับสนุนผู้ประกอบการ SME เพื่อไปออกงานแสดงสินค้าต่างๆ จะทำให้มีโอกาสขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้ อย่างเช่น งาน BIG&BIH ชาวต่างชาติมาเห็นก็สนใจเข้ามาดู เข้ามาสอบถาม โดยตั้งแต่ได้เริ่มออกงานเมื่อปี 2007-2008 ก็ประสบความสำเร็จเรื่อยมา มีออร์เดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นโคมไฟมากถึง 8 ตู้คอนเทรนเนอร์ โดยมีลูกค้าโซนยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก 

คุณวรรณวดี อธิบายว่า งาน ‘เอราวัณ ดีไซน์’ เราเน้นคุณภาพเป็นสำคัญ โดยงานที่ดีไซน์ออกมาแต่ละชิ้นต้องมีจุดเด่นเน้นความละเอียดกว่าที่อื่น เพราะมีความพิถีพิถันในการเลือกไม้แต่ละชิ้นให้ได้ขนาดและรูปทรงที่เข้าล็อกกันพอดีเหมือนต่อจิ๊กซอว์ เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงามตามสัดส่วนของสัตว์มากที่สุด จึงเป็นความยาก แต่เป็นจุดขายที่ลูกค้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก การันตีได้จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากหลักหมื่นบาทสู่ยอดขายทะลุหลักล้านบาทต่อเดือนได้ ด้วยดีไซน์ที่มีความโดดเด่นและไม่ละเลยที่จะใส่ใจในเรื่องคุณภาพ เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการ SME ด้านนี้จะเติบโตได้อย่างมั่นคง

สุดท้ายต้องบอกว่าความสำเร็จของ ‘เอราวัณ ดีไซน์’ มาจากความเข้าใจในตัวสินค้า และเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน จึงสามารถออกแบบสินค้าได้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด โดยอาศัยความมีใจรักและประสบการณ์กว่า 17 ปี ในการรังสรรค์งานศิลปะจากเศษไม้ - ใบหญ้าที่ไร้ราคาให้กลับมาสร้างมูลค่า 

ในอนาคตเชื่อว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุเหลือใช้ตามธรรมชาติจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเทรนด์รักษ์โลกกำลังมาแรง หากผู้ประกอบการ SME ไทย สามารถสร้างสรรค์งานดีไซน์ที่มีลักษณะพิเศษหนึ่งเดียวในโลกแบบนี้ แล้วนำมาสร้างแบรนด์ของตนเองได้ จะสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงานตนเองได้อีกไม่น้อยเลยทีเดียว