ช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมสภายุโรปลงมติเห็นชอบมาตรการด้านกฎหมายที่คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอเพื่อรับมือกับปัญหาปริมาณขยะทะเลที่มาจาก ขยะพลาสติก ประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง 10 ประเภทที่พบมากตามชายหาดในยุโรป รวมถึงเครื่องมือประมงต่างๆที่ถูกทิ้งร้างและถุงพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้จำพวก Oxo-degradable plastics
โดยร่างข้อบังคับฉบับนี้จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปเสียก่อนจึงจะมีผลบังคับใช้ พร้อมให้เวลาประเทศสมาชิกในการปรับปรุงกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับหลักการของข้อบังคับฉบับนี้อีก 2 ปีหลังจากวันที่ลงประกาศใน EU Official Journal
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
ร่างข้อบังคับ (Directive) ฉบับใหม่ดังกล่าวนี้แสดงถึงความเป็นผู้นำระดับโลกของอียูทางด้านการจัดการกับปัญหาขยะในทะเล และนับเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ด้านพลาสติกของอียู (EU Plastics Strategy) ซึ่งเป็นกรอบและทิศทางการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติกที่พิจารณาครอบคลุมตลอดวัฏจักรชีวิตของวัสดุที่ใช้ภายใต้หลักการสำคัญคือ เพื่อผลักดันให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดในตลาดอียูสามารถนำกลับใช้ได้ใหม่หรือสามารถรีไซเคิลได้ภายในปี พ. ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) ร่างข้อบังคับฉบับนี้ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแผนการขับเคลื่อนไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในอนาคตต่อไปของคณะกรรมาธิการยุโรป อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆเพื่อแก้ปัญหาขยะพลาสติกในทะเลอย่างยั่งยืน
Frans Timmermans รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ผู้รับผิดชอบงานด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน กล่าวในเรื่องนี้ว่า นี่นับเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญของอียูในการลดปัญหาขยะพลาสติกในมหาสมุทรและทะเลอย่างเป็นรูปธรรม เราเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและเราเชื่อมั่นว่าเราแก้ไขปัญหานี้ได้ อียูกำลังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับโลกซึ่งเราคาดหวังว่าจะเป็นตัวอย่างให้แก่ชาติอื่นๆ ดำเนินรอยตาม
นอกจากนั้น รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป นาย Jyrki Katainen ผู้รับผิดชอบงานด้านการจ้างงาน การลงทุน และขีดความสามารถในการแข่งขัน กล่าวเสริมด้วยว่า การใช้บังคับร่างกฏระเบียบใหม่ฉบับนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้อียูสามารถจัดการกับปัญหามลพิษจากขยะพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยให้อียูก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของโลกทางด้านนโยบายการจัดการขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ สภายุโรปมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการนำการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกมาสู่ภูมิภาค อีกทั้งยังสร้างโอกาสให้ภาคอุตสาหกรรมคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆที่จะขับเคลื่อนไปสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในอนาคตต่อไป
ในขณะที่กรรมาธิการด้านสิ่งแวดล้อม กิจการนาวี และการประมงของสหภาพยุโรป นาย Karmenu Vella ได้กล่าวสรุปว่า ทุกคนควรมีส่วนภูมิใจกับร่างกฏหมายใหม่ฉบับนี้เพราะไม่เพียงแต่เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกทางทะเลที่ต้นตอ แต่ยังสะท้อนเจตจำนงที่แท้จริงของประชากรยุโรปที่สนับสนุนให้มีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ภายหลังการลงมติของสภายุโรปในวันนี้คณะกรรมาธิการยุโรปจะทำหน้าที่ติดตามดูแลให้มีการปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ ผู้ผลิตและผู้บริโภคซึ่งจะเข้ามามีส่วนร่วมในการบังคับตามกฎหมายด้วย
โดย ร่างข้อบังคับยกเลิกการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plastics Directive) ที่ได้รับการรับรองจากสภายุโรป มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
ทั้งนี้ ร่างข้อบังคับฉบับนี้สานต่อแนวทางของข้อบังคับเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์และของเสียที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ของอียู (Directive (EU) 2015/720 on Packaging and Packaging Waste) ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2558 ซึ่งข้อบังคับดังกล่าวทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อมีผลบังคับใช้จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมและทางเศรษฐกิจ อันได้แก่
ร่างกฎหมายฉบับนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นของอียูที่ต้องการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลกด้วยการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้เกิดการใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าที่สุดตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ขณะที่ภาคประชาชนก็ตื่นตัวและเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างจริงจัง เช่นเดียวกัน อุตสาหกรรมพลาสติกของไทยจึงควรมุ่งมั่นเดินหน้าต่อไปในการเร่งปรับตัวและพัฒนาต่อยอดสินค้าและบรรจุภัณฑ์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มการบริโภคที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยผสานกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ โดยสินค้าและบรรจุภัณฑ์ต้องมีคุณสมบัติที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หรือรีไซเคิลได้ หรือเลือกใช้วัตถุดิบทางเลือกจากธรรมชาติอย่างพลาสติกชีวภาพมากยิ่งขึ้น
อ้างอิง : https://bit.ly/2UUCNAB
Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพ คลิก www.bangkokbanksme.com หรือ โทร call center 1333