ความคาดหวังและปัจจัยที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวช่วงโควิด 19

SME Update
31/08/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 2555 คน
ความคาดหวังและปัจจัยที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวช่วงโควิด 19
banner

หากไม่เกิดสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงจากการระบาดของโควิด 19 ในเดือนตุลาคมนี้ ประเทศไทยจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้สามารถเดินทางมาเที่ยวในประเทศได้ภายใต้มาตรการกักตัว 14 วัน และการคัดกรองและควบคุมโรคอย่างเข้มข้น โดยจังหวัดแรกที่เปิดให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวได้คือ ภูเก็ต หรือที่ทราบกันในชื่อ ภูเก็ตโมเดล

นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่า รัฐบาลได้เตรียมผลักดันที่เที่ยวในจังหวัดอื่นๆ ให้ได้เหมือนภูเก็ตโมเดลด้วยเช่นกัน โดยมีทั้ง 6 ภูมิภาค หรือ 6 จังหวัดเมืองหลัก เช่น ภาคเหนืออาจเป็นเชียงใหม่ เชียงราย, ภาคอีสาน จังหวัดอุบลราชธานี หรืออุดรธานี, ภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี ระยอง, ภาคตะวันตก จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี, ภาคใต้ มีภูเก็ตโมเดลแล้ว อาจเป็นกระบี่ หรือสุราษฎร์ธานี และภาคกลางที่ กรุงเทพฯ

มาตรการดังกล่าวนับเป็นการส่งสัญญาณว่า ภาคการท่องเที่ยวไม่สามารถทนแบกรับรายได้ที่หายไปได้อีกต่อไป และการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยครั้งนี้แม้จะเป็นความเสี่ยงต่อการะบาดของโควิด 19 ระลอก 2 และอาจซ้ำเติมเศรษฐกิจให้แย่ไปกว่าเดิม แต่การที่เศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 11% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ดังนั้นการเปิดประตูรับนักท่องเที่ยวครั้งนี้ จึงนับเป็นการยอมรับความเสี่ยงที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและการฟื้นฟูธุรกิจภายในประเทศ

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

รายงานชี้คนไทยเห็นด้วยในการรีบฟื้นท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามจากรายงานของ 3 บริษัทชั้นนำระดับโลก ซึ่งประกอบด้วย Blackbox Research ผู้ให้บริการด้านการวิจัยทางสังคม Dynata ผู้ให้บริการด้านข้อมูล และ Language Connect พันธมิตรด้านภาษา ได้ร่วมทำการสำรวจเพื่อนำเสนอรายงานในหัวข้อ Unravel Travel : Fear & Possibilities in a Post Coronavirus (COVID-19) World ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ความคิดเห็น ความพึงพอใจ และความคาดหวังของกลุ่มตัวอย่าง 10,195 คน จาก 17 ประเทศเกี่ยวกับการเดินทางหลังสถานการณ์โควิด 19

ผลจากการสำรวจชี้ให้เห็นว่าคนไทย 4 ใน 5 (82%) เชื่อมั่นว่าประเทศไทยพร้อมเปิดรับกิจกรรมเพื่อการพักผ่อนและท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยความมั่นใจของคนไทยมีคะแนนสูงสุดเมื่อเทียบจากทุกประเทศที่ร่วมการสำรวจ ผลการศึกษายังระบุว่านักท่องเที่ยวจากฮ่องกง สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และอินเดีย ต่างยกให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรก เมื่อประเทศของตนเปิดพรมแดนอีกครั้ง

ทั้งนี้ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่ (93%) ตระหนักถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้คนไทย 22% เห็นด้วยว่าหน่วยงานการท่องเที่ยวในประเทศต่างๆ รวมถึงในประเทศไทย มีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน โดยการเห็นด้วยของคนไทยมีคะแนนสูงสุดเมื่อเทียบจากทุกประเทศที่ร่วมการสำรวจ

 

ส่องปัจจัยส่งผลต่อกาท่องเที่ยวท่ามกลางการระบาดของโควิด 19

นาย Saurabh Sardana ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) ของ Blackbox Research กล่าวว่าความตื่นตัวแต่ละภาคของประเทศและทัศนคติของคนไทยที่มีต่อการเปิดการท่องเที่ยวในประเทศอีกครั้งนับเป็นปัจจัยบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ประเทศไทยทยอยเปิดประเทศ โดยเริ่มจากการเปิดรับการเดินทางสำหรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการทางการแพทย์

การสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวด้วยมาตรการด้านสาธารณสุขและความปลอดภัยเป็นกุญแจสำคัญ และประเทศไทยต้องใช้ประโยชน์จากความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 และการที่ประเทศไทยมีอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในระดับต่ำ มีระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งในการรับมือกับโรคระบาด ประเทศไทย จึงได้รับการได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาคและระดับโลกให้เป็นจุดหมายปลายทางที่วางใจได้

สำหรับกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยมีแรงดึงดูดใจคนในประเทศมากที่สุด โดย 91% ของคนไทยพร้อมส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งนับเป็นสัญญาณเชิงบวก และผลสำรวจในภาพรวมพบว่า หากมีการเดินทางท่องเที่ยวครั้งต่อไป ราคาอาจไม่ใช่ปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรก

โดยปัจจัยที่มีความสำคัญรองลงมา ได้แก่ พาหนะที่ใช้ในการเดินทาง (18%) ที่พัก (15%) และแหล่งท่องเที่ยว (10%) แต่สำหรับนักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่ มาตรการความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวกลับเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรก (พาหนะที่ใช้ในการเดินทาง–43% ที่พัก–46% แหล่งท่องเที่ยว–53%)”

ประเด็นสำคัญในรายงานระบุอีกว่า ในช่วงเวลานี้คนอยากท่องเที่ยวน้อยลง

- ในภาพรวมคนส่วนใหญ่ไม่มีการวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศในเร็วๆ นี้ โดย 44% ของผู้ตอบแบบสำรวจหลีกเลี่ยงการไปเที่ยวต่างประเทศ

- ชาวญี่ปุ่น (32%) ชาวฟิลิปปินส์ (42%) ชาวนิวซีแลนด์ (43%) และชาวออสเตรเลีย (52%) เป็นชนชาติที่อยากไปท่องเที่ยวระยะไกลน้อยที่สุด

- ออสเตรเลียและญี่ปุ่นเป็นที่รู้จักในฐานะจุดหมายปลายทางที่เป็นที่นิยมที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย ในขณะที่สเปนเป็นจุดหมายปลายทางอันดับหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 ของสเปนมีแนวโน้มลดลงในเดือนมิถุนายน

- ประเทศที่แหล่งท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมากที่สุดระหว่างการระบาด ได้แก่ จีน อิตาลี และสหรัฐอเมริกา

 

การท่องเที่ยวที่เน้นความปลอดภัยและประสบการณ์ไร้สัมผัส

- 80% ของผู้ตอบแบบสำรวจรวมจากทุกประเทศ เต็มใจที่จะจ่ายเพิ่มเพื่อที่พักที่ปลอดภัยขึ้น และ 74% ยอมจ่ายเบี้ยสำหรับประกันภัยการเดินทางสูงขึ้นเพื่อความคุ้มครองโรคระบาด

- 76% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า จุดหมายปลายทางที่ต้องการจะไปเยือนคือประเทศที่ให้ความใส่ใจในการมอบประสบการณ์ไร้สัมผัส

- ผู้ตอบแบบสำรวจ 66% ต้องการเดินทางโดยยานพาหนะของตนเอง เมื่อขับรถเที่ยวระหว่างเมืองหรือประเทศ เมื่อเทียบกับเดินทางโดยเครื่องบิน (18%) รถยนต์หรือแท็กซี่เช่าหรือจ้างเหมา (9%) และรถประจำทางหรือรถไฟ (7%)

 

การท่องเที่ยวในวิถีชีวิตใหม่

- สำหรับรูปแบบการท่องเที่ยวในอนาคต จากการสำรวจพบว่า บัตรผ่านขึ้นเครื่องแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-boarding Pass 44%) ห้องน้ำไร้สัมผัส (43%) การเดินทางไร้สัมผัสจากสนามบินถึงโรงแรม (40%) การไม่มีที่นั่งตรงกลางในการคมนาคม (36%) และหนังสือเดินทางสุขภาพ (Digital Health Passport 35%) นับเป็นส่วนหนึ่งของแนวคิดใหม่ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกคาดหวังว่าจะมีการนำมาใช้ในอนาคตอันใกล้นี้

 

อ้างอิงเกี่ยวกับการสำรวจ :
Blackbox Research และ Dynata ได้ทำการสำรวจแบบออนไลน์ โดยมีจำนวนผู้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ 10,195 คน จาก 17 ประเทศ อายุระหว่าง 25 ถึง 65 ปี นอกจากนี้ยังมีการประยุกต์ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งประเภทในทุกตัวแปร ประชากรศาสตร์ และภูมิศาสตร์หลัก เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่าง การสำรวจนี้มีขึ้นในเดือนมิถุนายน 2563



สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


ท่องเที่ยวโลกติดลบ เที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างไร?

3 เรื่องรู้แล้วรอดได้ในทุกวิกฤติเศรษฐกิจ


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

‘TikTok For All’ Update เทรนด์ใหม่ปี 2024 พร้อมกลยุทธ์เพิ่มโอกาส SME ไทยสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน

TikTok ตอกย้ำการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือสำหรับทุกคน ทั้งครีเอเตอร์ คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน และธุรกิจทุกขนาดในไทย ด้วยการเปิดตัว…
pin
1236 | 14/02/2024
ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ทอดไม่ทิ้ง! เปลี่ยน ‘น้ำมันเหลือทิ้ง’ เป็น ‘น้ำมันเครื่องบิน’ โอกาสใหม่ SME ไทย เติบโตอย่างยั่งยืน

ขณะที่ยานพาหนะต่าง ๆ ทั้ง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถไฟ และเรือ ต่างมุ่งสู่การใช้เชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ที่เป็นพลังงานสะอาดกันแล้ว แต่สำหรับการเดินทางโดยอากาศยาน…
pin
1595 | 26/01/2024
จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

จับกระแส 'เทรนด์ธุรกิจ' ปี 2024 ใครได้ไปต่อ ใครมาแรง SME ไทยต้องรู้

ปี 2024 นี้ ธุรกิจไหนมาแรง ธุรกิจไหนน่าจับตา เทรนด์ธุรกิจใดกำลังมาแรง Bangkok Bank SME สรุปมาไว้ในบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางแก่ SME และผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มต้นทำธุรกิจทุกท่าน…
pin
1879 | 25/01/2024
ความคาดหวังและปัจจัยที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวช่วงโควิด 19