“ระบบบริหารแบบคู่ขนาน” คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญต่อการสืบทอดธุรกิจครอบครัว
ธุรกิจครอบครัว (Family Business) แตกต่างจากธุรกิจทั่วไป ตรงที่มีความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวเข้ามามีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการ ซึ่งส่งผลให้การตัดสินใจมักได้รับอิทธิพลจากค่านิยมและความเชื่อของครอบครัว ทำให้มีความรู้สึกของความเป็นเจ้าของและการสืบทอดที่แน่นแฟ้น ขณะที่ธุรกิจทั่วไปมักมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ทางธุรกิจและการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบมากกว่า โดยมักจะมีผู้จัดการมืออาชีพที่สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อะไรคือปัญหาและอุปสรรคของระบบธุรกิจครอบครัว?
หลายธุรกิจครอบครัว ประสบความสำเร็จ และมีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างยาวนาน แต่ขณะเดียวกัน บางธุรกิจครอบครัว ยังคงเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคหลายประการที่เป็นความท้าทายเฉพาะตัวที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวและธุรกิจ เหตุผลที่ทำให้ธุรกิจครอบครัวเป็นรูปแบบธุรกิจที่ยากต่อการบริหารจัดการนั้น มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกัน ปัญหาที่พบบ่อย ได้แก่ ความขัดแย้งภายในครอบครัวที่อาจเกิดจากความเห็นไม่ตรงกันเรื่องการบริหารธุรกิจ การสืบทอดธุรกิจข้ามรุ่นที่ต้องเผชิญกับความแตกต่างของค่านิยมและความสามารถ การแบ่งปันอำนาจที่ไม่เท่าเทียม ขาดความเป็นมืออาชีพในการตัดสินใจ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธุรกิจ

นอกจากนี้ ธุรกิจครอบครัวยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตของธุรกิจและการรักษาความสัมพันธ์ภายในครอบครัว เช่นขาดการวางแผนสืบทอดที่ชัดเจน ไม่มีรูปแบบการบริหารจัดการที่เป็นระบบ และขาดการเตรียมความพร้อมของทายาทที่จะเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัวได้ทั้งสิ้น

ธุรกิจครอบครัวที่เผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อน จำเป็นต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ การสื่อสารที่เปิดเผย และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง เพื่อให้ธุรกิจครอบครัวสามารถเติบโตและยั่งยืนได้ในระยะยาว
เครื่องมือการกำกับดูแลครอบครัว เพื่อลดความขัดแย้ง
ธุรกิจครอบครัว (Family Business) สามารถใช้เครื่องมือการกำกับดูแลครอบครัวที่แตกต่างกันได้ เช่น การใช้ระบบบริหารแบบคู่ขนานในธุรกิจครอบครัว (Parallel Planning Process: PPP) แนวคิดที่นำมาใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัวเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความสัมพันธ์ภายในครอบครัวและเป้าหมายทางธุรกิจ โดยเน้นการวางแผนทั้งในด้านธุรกิจและด้านครอบครัวควบคู่กันไป
หลักการทำงานของระบบบริหารแบบคู่ขนาน หากเป็นด้านธุรกิจ จะมีการวางแผนกลยุทธ์ ตั้งเป้าหมายทางการเงิน และการบริหารจัดการทรัพยากร ส่วนด้านครอบครัว จะเป็นการสร้างความเข้าใจร่วมกันในค่านิยมของครอบครัว การสื่อสารที่เปิดเผย และการวางแผนการสืบทอดธุรกิจ

ประโยชน์ของระบบบริหารแบบคู่ขนาน คือลดความขัดแย้ง เนื่องจากมีการวางแผนร่วมกันทำให้ทุกคนในครอบครัว เข้าใจตรงกันในเป้าหมายและทิศทางของธุรกิจ และยังเพิ่มความโปร่งใส เพราะกระบวนการวางแผนที่ชัดเจนช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม ธุรกิจจึงสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับธุรกิจครอบครัว ที่ต้องการความมั่นคง อย่างไรก็ตาม การนำระบบนี้ไปใช้ต้องอาศัยความร่วมมือจากสมาชิกทุกคนในครอบครัว และต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละธุรกิจ
ธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จในการใช้การวางแผนแบบคู่ขนาน
อ้างอิงข้อมูลของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยพายัพ ที่ได้ระบุถึงตัวอย่างธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จในการใช้การวางแผนแบบคู่ขนานว่า บริษัท Cargill ในสหรัฐอเมริกา เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของธุรกิจครอบครัวที่ใช้การวางแผนแบบคู่ขนานอย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทนี้ดำเนินธุรกิจการเกษตรมายาวนานกว่า 100 ปี แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากความขัดแย้งภายในครอบครัวและการฟ้องร้องระหว่างสมาชิกครอบครัว Cargill และ MacMillan ที่เกิดขึ้นเมื่อครอบครัว MacMillan เข้ามารับบทบาทสำคัญในบริษัท ในฐานะซีอีโอและผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ครอบครัว Cargill-MacMillan ได้ให้ความสำคัญกับการวางแผนธุรกิจควบคู่กับการวางแผนครอบครัว โดยร่วมกันสร้างวิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้นการเป็นผู้ประกอบการอย่างยุติธรรม

นอกจากนี้ยังมีการวางแผนเพื่อลดความขัดแย้งภายในครอบครัว และทำให้ธุรกิจมีการป้องกันจากความไม่แน่นอนต่าง ๆ ปัจจุบัน Cargill เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตอาหารและสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีครอบครัวถือหุ้นมากกว่า 90% และมีพนักงานกว่า 142,000 คน รายได้ต่อปีประมาณ 136.65 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จที่เกิดจากการจัดการและการวางแผนที่เป็นระบบ.
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากกรณีศึกษาของบริษัท Cargill คือ การวางแผนคู่ขนานเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจครอบครัว การวางแผนทั้งในด้านธุรกิจและครอบครัวควบคู่กันไป ช่วยให้เกิดความสมดุลและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันและการยึดมั่นในค่านิยมร่วมกันเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งในการสร้างความสามัคคีและนำพาทุกคนไปสู่เป้าหมายเดียวกัน นอกจากนี้ การสื่อสารที่เปิดเผยและตรงไปตรงมา ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเข้าใจร่วมกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

ทั้งนี้ การวางแผนคู่ขนานเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยวางแผนการบริหารจัดการให้มีความชัดเจนและเป็นระบบ ลดความขัดแย้งระหว่างสมาชิกครอบครัว และทำให้ทุกคนมีความเข้าใจในบทบาทและเป้าหมายร่วมกัน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยสร้างความมั่นคงและความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงการเปลี่ยนผ่าน (Transition) ระหว่างรุ่น ทำให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
เริ่มต้นการวางแผนคู่ขนานสำหรับธุรกิจครอบครัว
การวางแผนคู่ขนาน โดยการผสมผสานการวางแผนธุรกิจเข้ากับการวางแผนครอบครัว ทำให้สามารถจัดการทั้งด้านธุรกิจและความสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อดีของการวางแผนคู่ขนาน คือช่วยให้ธุรกิจครอบครัวมีความชัดเจนในเป้าหมาย ลดความขัดแย้งภายในครอบครัว เพิ่มความมั่นคงให้กับธุรกิจ และส่งเสริมความสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การเริ่มต้นการวางแผนคู่ขนานสรุปได้เป็นขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
1. สำรวจคุณค่าครอบครัว ระบุและกำหนดค่านิยมที่สำคัญของครอบครัว เช่น ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ และความสามัคคี เพื่อสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการทำงานร่วมกัน
2.กำหนดวิสัยทัศน์ สร้างวิสัยทัศน์ร่วมสำหรับทั้งครอบครัวและธุรกิจ เพื่อให้สมาชิกทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันในอนาคต โดยเชื่อมโยงค่านิยมของครอบครัวกับภารกิจทางธุรกิจ

3.พัฒนากลยุทธ์ ร่วมกันสร้างกลยุทธ์สำหรับทั้งครอบครัวและธุรกิจ เพื่อให้สามารถสนับสนุนกันและกัน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของสมาชิกในกระบวนการตัดสินใจ
4.ลงทุนในทุนมนุษย์และการเงิน มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะของสมาชิกในครอบครัวและจัดการเรื่องการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจมีความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน

5.สร้างความร่วมมือและสื่อสาร ส่งเสริมการสื่อสารที่เปิดเผยและการทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
การวางแผนคู่ขนาน ช่วยให้ธุรกิจครอบครัวสามารถเผชิญกับความท้าทายและเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบูรณาการระหว่างครอบครัวและธุรกิจอย่างมีระเบียบ ถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า เพราะจะช่วยให้ธุรกิจครอบครัวมีความมั่นคงและยั่งยืน ช่วยให้ธุรกิจครอบครัวสามารถรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ติดตามสาระเรื่องธุรกิจครอบครัวได้ใหม่ในตอนหน้า
อ้างอิง :
ข้อมูลจาก
อัญชลี รักอริยะธรรม, สุวรรณา พลอยศรี, พิชาภพ พันธ์แพ (ปี 2563). การจัดการธุรกิจครอบครัว ด้วย 5 ขั้นตอนของการวางแผนคู่ขนาน. วารสารวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ