ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจครอบครัว เผยเทคนิคส่งต่อธุรกิจ จากโซเชียลมีเดียสู่ยุค AI

Family Business
24/06/2024
รับชมแล้วทั้งหมด 1576 คน
ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจครอบครัว เผยเทคนิคส่งต่อธุรกิจ จากโซเชียลมีเดียสู่ยุค AI
banner

ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ธุรกิจครอบครัว (Family Business) ต้องเผชิญความท้าทายหลากหลายประการ ทั้งจากปัจจัยภายใน และภายนอก ดังนั้น การส่งต่อธุรกิจให้ยั่งยืน จึงเป็นสิ่งสำคัญ และจำเป็นต้องมีกลยุทธ์และเทคนิคที่เหมาะสม


เทคนิคสำคัญในการเปลี่ยนผ่านธุรกิจครอบครัว ทำอย่างไร?


สิ่งสำคัญ คือการเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อกำหนดทิศทางและเป้าหมายของธุรกิจในอนาคต โดยวิเคราะห์โอกาส อุปสรรค และความเสี่ยง ติดตามเทรนด์ธุรกิจอย่างใกล้ชิด ศึกษาข้อมูล ความรู้ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาปรับใช้สร้างกลยุทธ์ สินค้า บริการ และกระบวนการทำงานให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง



ธุรกิจครอบครัวเผชิญความท้าทายอะไรบ้าง ในยุค AI?


ธุรกิจครอบครัวเผชิญความท้าทายหลายประการในปี 2024 สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจครอบครัว ที่ต้องก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงให้ได้

ทั้งนี้ ปัญหาที่หลาย ๆ ครอบครัวต้องเผชิญ คือช่องว่างระหว่างเจนเนอเรชัน (Generation Gap) จากทัศนคติ มุมมอง และวิธีการทำงานที่แตกต่างกันระหว่างรุ่นเก่าและรุ่นใหม่


เนื่องจากคนรุ่นเก่า อาจจะไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขณะที่คนรุ่นใหม่ มีความคิดริเริ่ม กล้าที่จะลอง ความท้าทายคือ ทำอย่างไร จะหาจุดกึ่งกลางที่ทำให้คนทั้งสองรุ่น สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ


นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยท้าทาย เรื่องการวางแผนสืบทอดกิจการจากรุ่นสู่รุ่น เพราะในยุค AI ทายาทธุรกิจจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจด้านเทคโนโลยี ทักษะการบริหารจัดการ และวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ดังนั้น ผู้บริหารรุ่นเก่าควรเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อหลีกเลี่ยงกำแพงดิจิทัล จากความไม่คุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยี



กลยุทธ์ที่อาจช่วยให้ ‘ธุรกิจครอบครัว’ สามารถปรับตัวให้ก้าวตามเทรนด์ธุรกิจ


รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สะท้อนมุมมองในประเด็นดังกล่าวว่า ผู้ประกอบการที่ดี ไม่ควรหยุดนิ่งอยู่กับที่ เพราะการพัฒนาอยู่เสมอ จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง


สำหรับกลยุทธ์ที่อาจช่วยให้ธุรกิจครอบครัว สามารถปรับตัวเพื่อให้สามารถก้าวตามเทรนด์ธุรกิจได้ทันท่วงที คือการประเมินว่า คุณต้องการนำพาธุรกิจครอบครัวไปในทิศทางใด เทรนด์ใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กร สามารถปรับพฤติกรรมและการปฏิบัติอะไรบ้างที่อาจสร้างความแตกต่างได้ และในระยะสั้นจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจได้อย่างไร ซึ่งอาจทำได้โดยใช้วิธีการเหล่านี้



1. การย้ายสู่ระบบคลาวด์ (Cloud Migration) ธุรกิจครอบครัวจำนวนมาก เริ่มต้นปรับตัวด้วยวิธีการแบบไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud) ซึ่งข้อมูลบางส่วน จะถูกเก็บไว้บนเซิร์ฟเวอร์จริง ขณะที่ข้อมูลส่วนอื่น ๆ ถูกจัดเก็บในระบบคลาวด์ โดยการจัดเก็บบนคลาวด์ มีความน่าสนใจด้วยเหตุผลหลายประการ โดยสิ่งแรกที่สำคัญที่สุด คือความคุ้มค่า จนอาจกล่าวได้ว่า หากไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์จริง ซึ่งต้องอาศัยทั้งเวลาและเงินในการบำรุงรักษา คุณจะมีงบประมาณในการทำสิ่งอื่นมากขึ้น


2. เพิ่มตัวตนบนดิจิทัล (Increase Your Digital Presence) หากคุณไม่ได้ใช้ช่องทางดิจิทัลในการโปรโมตทำการตลาดและขายสินค้า ถือว่ามีความเสี่ยง หากคู่แข่งใช้ เนื่องจากทุกปี จะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ เป็นคนกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ที่ทำการค้นหาและซื้อสินค้าออนไลน์ ทั้งนี้ หากคุณไม่มีตัวตนบนดิจิทัลใด ๆ จุดเริ่มต้นที่ดีคือการสร้างเว็บไซต์และแอปพลิชันมือถือสำหรับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้ ควรให้โอกาสลูกค้าในการโต้ตอบกับสินค้าหรือบริการของคุณอย่างรวดเร็วด้วย



3. ให้ความสนใจกับปัญญาประดิษฐ์ (Join the AI Revolution) หากธุรกิจของคุณมีตัวตนบนดิจิทัลอยู่แล้วขั้นตอนต่อไป คือ การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ซึ่งอาจหมายถึงการใช้งานแชตบอต (Chatbots) เพื่อปรับปรุงการบริการลูกค้า หรือระบบอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงการขนส่ง เพราะแน่นอนว่า เจ้าของธุรกิจย่อมไม่ต้องการถูกทิ้งเบื้องหลัง

ภายในปี 2025 นักวิเคราะห์คาดว่ามูลค่ารวมสำหรับตลาด AI เชิงพาณิชย์ จะมีมูลค่าถึง 190 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น ธุรกิจครอบครัว ควรหาวิธีการนำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ในธุรกิจ เช่น มองหาเทคโนโลยี AI ที่สามารถลดงานที่ต้องทำซํ้า ๆ เพื่อให้การดำเนินงานสั้นลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น



4. มีความเท่าเทียมกันทางเพศ (Gender Equality) Janice DiPietro ผู้สนับสนุนชื่อดังในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและผู้ก่อตั้ง Exceptional Leaders International (ELI) กล่าวว่า ธุรกิจครอบครัวมีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำในเรื่องนี้ ด้วยเหตุว่า “ผู้หญิง มีแนวโน้มที่จะนำคุณลักษณะที่มีคุณค่าบางอย่างซึ่งมักจะสอดคล้องกับโครงสร้างของการดำเนินธุรกิจครอบครัว อีกทั้งธุรกิจครอบครัว มีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นผู้คนและเป็นมิตร ภักดีต่อลูกค้า ต่อพนักงาน และมีแนวโน้มที่จะเปิดกว้างและดูแลสภาพแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นสภาพแวดล้อมที่ผู้หญิงสามารถเติบโตในอาชีพได้”



5. เรียนรู้ที่จะมอบหมายงาน (Learn to Delegate) โดยทั่วไป ธุรกิจครอบครัวที่ประสบความสำเร็จนั้น เป็นผลมาจากวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของผู้ก่อตั้ง ผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก อยู่รอดได้ด้วยการดูแลทุกเรื่องในธุรกิจด้วยตนเอง ซึ่งในระยะยาวอาจเป็นอันตรายต่อธุรกิจครอบครัวได้


เพราะความจริงก็คือ ไม่มีใครสามารถทำได้ดีในทุกเรื่อง แม้ฟังดูอาจขัดกับความรู้สึก แต่การมอบหมายงานที่คุณต้องดิ้นรน หรือพบเจอมากเกินออกไปให้คนอื่นบ้าง จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ และช่วยให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปในเรื่องที่คุณเป็นเลิศได้มากขึ้น


6. ใช้ประโยชน์จาก Big Data (Tap Into Big Data) ในการดำเนินธุรกิจแต่ละวัน เรามักรวบรวมข้อมูลจำนวนมากที่สามารถช่วยให้บริษัทเติบโตเอาไว้ แต่บ่อยครั้งที่เจ้าของธุรกิจครอบครัว ไม่รู้จัก หรือไม่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ตนสร้างขึ้นทุกวันได้



จากการสำรวจโดย McKinsey & Company พบว่า “ในภาคการค้าปลีกเพียงอย่างเดียว บริษัทที่สนับสนุนให้ใช้การวิเคราะห์ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะรักษาลูกค้าได้มากกว่าถึง 6.5 เท่า และมีแนวโน้มในการทำยอดขายกับลูกค้าปัจจุบัน (ด้วยกลยุทธ์ Upsell และ Cross-sell) สูงกว่าคู่แข่ง 7.4 เท่า และมีแนวโน้มที่จะมีผลกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยเกือบ 19 เท่า”

ซึ่งหากธุรกิจครอบครัวของคุณ ไม่มีกลยุทธ์การโอนย้ายระบบคลาวด์ที่ดีตามคำแนะนำในข้อแรก การได้รับประโยชน์สูงสุดจากข้อมูลย่อมจะเป็นเรื่องยาก


7. กำกับดูแลบ้านให้เป็นระบบ (Get Your Governance House in Order) การจัดการปัญหาในเรื่องของการกำกับดูแลที่คั่งค้างเป็นเวลานานของธุรกิจครอบครัว เป็นงานที่ดูใหญ่มากจนถูกเลื่อนออกเรื่อย ๆ ให้นานที่สุด โชคดีที่มีวิธีแก้ไขปัญหาด้วยขั้นตอนเล็ก ๆ และสามารถจัดการได้



โดยคุณอาจเริ่มต้นด้วยการจัดตั้ง เจ้าหน้าที่กำกับดูแลครอบครัว (Family governance officer) เพื่อจัดการและกำกับดูแลในเรื่องต่าง ๆ ให้เหมาะสม และต้องทำให้การกำกับดูแลนั้น เป็นระบบระเบียบ มีกระบวนการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ดี



อย่างไรก็ตาม แม้โลกแห่งเทคโนโลยี จะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ธุรกิจครอบครัว ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในยุค AI เช่นกัน โดยการปรับตัว เรียนรู้ และนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ พัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับบุคลากรในองค์กร สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมนวัตกรรม สิ่งสำคัญคือ ทายาทและผู้บริหารรุ่นเก่าต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนธุรกิจครอบครัว ให้ก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน


ขอบคุณข้อมูลโดย GURU รับเชิญ : รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดี คณะวิทยพัฒน์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ ผู้ก่อตั้งบริษัท แฟมซ์ จำกัด (FAMZ)

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.famz.co.th



Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ธุรกิจครอบครัวที่ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นของตระกูล "Mars" และพลังแห่งการสืบทอดยาวนานกว่า 113 ปี

ธุรกิจครอบครัวที่ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นของตระกูล "Mars" และพลังแห่งการสืบทอดยาวนานกว่า 113 ปี

ในโลกของธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดำรงอยู่ของธุรกิจครอบครัวที่สามารถสืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน นับเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจยิ่ง…
pin
33 | 24/12/2024
ปูทางสู่ความยั่งยืน เจาะลึกระบบหลังบ้านธุรกิจครอบครัว ให้เติบโตแบบบริษัทมหาชน

ปูทางสู่ความยั่งยืน เจาะลึกระบบหลังบ้านธุรกิจครอบครัว ให้เติบโตแบบบริษัทมหาชน

11ธุรกิจครอบครัว (Family Business) มักเผชิญความท้าทายที่ซับซ้อนในการจัดการระบบหลังบ้าน โดยเริ่มจากวัฒนธรรมองค์กรแบบดั้งเดิมที่ยังยึดติดกับวิธีการทำงานแบบเก่า…
pin
35 | 19/12/2024
5 คำถามสำคัญ ก่อนการ  Transition ธุรกิจครอบครัว

5 คำถามสำคัญ ก่อนการ Transition ธุรกิจครอบครัว

แม้ผู้นำธุรกิจครอบครัว (Family Business) จะต้องการส่งต่อธุรกิจของตนเองจากรุ่นสู่รุ่นให้ยาวนานและยั่งยืน ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ต้องยอมรับว่า…
pin
42 | 14/12/2024
ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจครอบครัว เผยเทคนิคส่งต่อธุรกิจ จากโซเชียลมีเดียสู่ยุค AI