เปิดแนวคิด ESG จุดเปลี่ยนสำคัญของ 'น้ำมันพืช' สู่อนาคตที่ยั่งยืนในตลาดโลก

SME in Focus
25/12/2024
รับชมแล้วทั้งหมด 24 คน
เปิดแนวคิด ESG จุดเปลี่ยนสำคัญของ 'น้ำมันพืช' สู่อนาคตที่ยั่งยืนในตลาดโลก
banner
อุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันในปัจจุบัน กำลังเผชิญความท้าทายในการปรับตัวสู่ความยั่งยืน (Sustainability) ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและการแข่งขันที่สูงขึ้น รวมถึงกระแสความต้องการผลิตภัณฑ์ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจึงต้องเร่งปรับตัว เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและสร้างความแตกต่าง กลยุทธ์การรีแบรนด์ เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้ใหม่อยู่เสมอ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และขยายฐานลูกค้าใหม่ 

บทความนี้ Bangkok Bank SME ขอพาไปเจาะลึกแนวคิดธุรกิจของผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความรู้ในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน เพื่อแบ่งปันมุมมอง และแนวทางในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน กับ คุณต่อพงศ์ ตริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันพืชบริโภคคุณภาพแบรนด์เกสร ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 49 ปี 

บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ก่อตั้งเมื่อ 49 ปีที่แล้ว เริ่มต้นจากโรงงานขนาดเล็กบนถนนจรัญสนิทวงศ์ ด้วยพื้นที่เพียง 275 ตารางวา โดยผลิตน้ำมันมะพร้าวเป็นผลิตภัณฑ์แรก ในยุคที่น้ำมันพืชยังไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากคนส่วนใหญ่นิยมใช้น้ำมันหมูในการประกอบอาหาร

 

จากเดิม เราเติบโตผ่านช่องทางการค้าแบบดั้งเดิม (Traditional Trade) ทั้งขายปลีกและขายส่ง โดยขยายช่องทางสู่ห้างสรรพสินค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยการเติบโตของธุรกิจ บริษัทจึงย้ายฐานการผลิตมาที่อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี บนพื้นที่ 40 ไร่ พร้อมขยายไลน์ผลิตภัณฑ์สู่น้ำมันปาล์ม จำหน่ายให้กลุ่มอุตสาหกรรม กระทั่งปี 2524 บริษัทเริ่มบรรจุขวดภายใต้แบรนด์ "เกสร" 

ในฐานะธุรกิจสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคามีความผันผวนสูง ช่วง 20 ปีแรกของการดำเนินธุรกิจ บริษัทประสบภาวะขาดทุนเนื่องจากยังไม่เข้าใจหลักการบริหารจัดการสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) อย่างลึกซึ้ง แต่ด้วยการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ปัจจุบันโรงงานขยายเป็น 130 ไร่ มีพนักงานกว่า 1,000 คน
ล่าสุด มีการรีแบรนด์ เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้ดูทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มได้อย่างแท้จริง ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างการรับรู้กับผู้บริโภครุ่นใหม่ที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับแบรนด์ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาแบรนด์ให้เติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันสูง



ผลิตภัณฑ์ และกลุ่มเป้าหมายของ บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด
คุณต่อพงศ์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ของเรา แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ
1. น้ำมันเพื่อการบริโภค ได้แก่  น้ำมันปาล์ม น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะพร้าว และเนยเทียม
2. กลุ่มไบโอดีเซล (จากผลผลิตการเกษตร) และ         
3. กลีเซอรีนบริสุทธิ์ โดยน้ำมันพืชบริโภคของเรามีจุดเด่นด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ด้วยคุณสมบัติสีอ่อนใส ใช้ได้นาน และไม่มีกลิ่นรบกวนอาหารเนื่องจากเราเป็นผู้ซื้อน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ของประเทศ ที่ดำเนินธุรกิจทั้งน้ำมันบริโภคและไบโอดีเซล บริษัทจึงสามารถคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงมาเพื่อใช้ในการผลิตได้

ลูกค้าของเรามีทั้งพ่อบ้าน แม่บ้าน ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึง พ่อครัว แม่ครัว เชฟ ใน ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม ที่ต้องการวัตถุดิบคุณภาพสูงสำหรับการปรุงอาหาร รวมถึงกลุ่มร้านค้าปลีก-ส่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต และห้างสรรพสินค้า ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภคโดยตรง และ โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร ที่ใช้ผลิตภัณฑ์เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าประเภทต่าง ๆ เช่น นม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไปจนถึงสินค้าส่งออก 

 

การรีแบรนด์ครั้งใหญ่ 
49 ปี ของธุรกิจ สู่การตัดสินใจปรับโฉมครั้งใหญ่ของบริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ที่มีเป้าหมายเพื่อยกระดับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย และเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รักการทำอาหาร มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการเข้าครัว ผ่านการออกแบบโลโก้ บรรจุภัณฑ์ และรูปแบบการสื่อสารที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายหลากหลายขึ้น ผ่านกลยุทธ์การตลาดแบบผสมผสาน ทั้งช่องทางออฟไลน์ (โทรทัศน์) และออนไลน์ (Facebook, YouTube) เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Gen Y อายุ 25-40 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนทำงานที่มีกำลังซื้อ โดยปรับปรุงทั้งโลโก้ ฉลาก และบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย สวยงาม และจับถนัดมือ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่
 

Key Success สู่ความสำเร็จ

ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์ หรือผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการต่าง ๆ อีกหนึ่งปัจจัย คือการเน้นคุณภาพของสินค้า โดยคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีก่อนถึงมือลูกค้า น้ำมันพืชบริโภคของเรามีมาตรฐานสูง สามารถทอดได้กรอบนาน ไม่มีกลิ่นน้ำมันรบกวนกลิ่นอาหาร 
ขณะเดียวกัน ด้านการจัดการบุคลากร ทีมงานของเราได้รับการปลูกฝังให้มีจิตใจรักการบริการ และให้คำแนะนำแก่ลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ราคาน้ำมันปาล์มมีความผันผวนสูง เราจะแนะนำลูกค้าว่า จังหวะไหนที่เหมาะสมในการซื้อสินค้าให้ได้ราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่งทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในการบริการ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จมาได้ถึง 49 ปี

 

แนวคิด ESG ของธุรกิจน้ำมันปาล์มที่มุ่งสู่ความยั่งยืน (Sustainability)

            บริษัทมีความมุ่งมั่นในการผลักดันอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืน โดยเฉพาะการส่งออกไปยังสหภาพยุโรปที่ให้ความสำคัญกับการผลิตบนพื้นฐานความยั่งยืน โดยเราให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่

1. โครงการโซลาร์เซลล์
การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาโรงงาน เพื่อผลิตไฟฟ้าได้ 2.9 ล้านกิโลวัตต์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 12 ล้านบาท และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 1.7 ล้าน kgCO2eq ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 1.2 แสนต้น ถือเป็นการลดต้นทุนการผลิตด้วย

2. โครงการ Biogas Generator
การผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซชีวภาพ จากการกระบวนการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 6 ล้าน kgCO2eq หรือเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 4 แสนต้น

3. การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง
การใช้เทคโนโลยีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น เครื่องปั๊มอินเวอร์เตอร์ (Inverter) ในการผลิต และใช้หลอดไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน และมีประสิทธิภาพสูง

4. การแลกเปลี่ยนความร้อนนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อลดการใช้พลังงาน
เนื่องจากบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมปาล์มซึ่งต้องใช้พลังงานความร้อนสูง เช่น กระบวนการกลั่นในหอกลั่นซึ่งต้องใช้พลังงานความร้อนสูงถึงกว่า 200 องศาเซลเซียส โดยการการนำความร้อนส่วนเกินจากกระบวนการผลิตมาใช้ในระบบใหม่อีกครั้ง เป็นการแลกเปลี่ยนความร้อนเพื่อลดการใช้พลังงานลง

5. โครงการรีไซเคิลน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่เพื่อลด Water Footprint ขององค์กร 
การบำบัดน้ำเสียจากกระบวนการผลิต เอาไปเวียนใช้ในกระบวนการผลิต

6. การใช้ขวดที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล (rPET) 
น้ำมันพืช ตราเกสร เป็นน้ำมันพืชแบรนด์แรกของเมืองไทยที่ใช้ขวดบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิล (rPET) ในการบรรจุน้ำมันพืช ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดที่ผู้บริโภคไว้วางใจได้ ถือเป็นความภูมิใจของบริษัท ซึ่งเป็นการช่วยลดการใช้พลาสติกจากการผลิตขวดใหม่ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 


มาตรฐาน RSPO และแนวทางสู่ความยั่งยืนด้วยแนวคิด ESG

บริษัทเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายแรกของไทย ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน RSPO สำหรับมาตรฐาน RSPO (Roundtable on Sustainable Palm Oil) เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดหลักเกณฑ์ในการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ หลักการพื้นฐานของ RSPO มี 3 ประการ ได้แก่

ไม่บุกรุกทำลายป่า   การผลิตน้ำมันปาล์มต้องไม่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า หรือการเปลี่ยนพื้นที่ป่าเป็นสวนปาล์ม
อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ   การดำเนินงานต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพ
เคารพสิทธิของแรงงาน   การปฏิบัติต่อแรงงาน ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น การจ่ายค่าแรงที่เป็นธรรม การทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และการเคารพสิทธิในการรวมกลุ่ม

เป้าหมาย คือ การส่งเสริมการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจในระยะยาว และเป็นการตอบรับกับข้อกำหนดเงื่อนไขของลูกค้าปลายทางโดยเฉพาะทางสหภาพยุโรป 

คุณต่อพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมทุกมิติตามหลักการดำเนินธุรกิจแนวคิด ESG  (Environmental, Social, and Governance)  ทั้งด้านบุคลากร ชุมชน  และธรรมาภิบาล โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และยั่งยืน  มีจรรยาบรรณธุรกิจ (Code of Conduct)  คือ การดูแลพนักงานอย่างดี สร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับชุมชน และส่งเสริมการปลูกปาล์มอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล โดยมีการดำเนินงานที่โปร่งใสและเป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม สร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์ รวมถึงมีส่วนร่วมในการรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และได้รับการรับรองมาตรฐานสากลในด้านต่าง ๆ เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 

 

ปัจจุบัน ตลาดโลกมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้มาตรฐานความยั่งยืนสูงขึ้น ลูกค้าหลายรายกำหนดเงื่อนไขที่เข้มงวดสำหรับซัพพลายเออร์ ซึ่งหากผู้ประกอบการ SME ไม่ปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรฐานเหล่านี้ ก็อาจสูญเสียโอกาสทางธุรกิจได้ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จึงไม่ใช่เพียงแค่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นสำหรับทุกองค์กร 

บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability)  ไม่เพียงแค่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความเติบโตในระยะยาว และสร้างความแตกต่างให้กับองค์กร ในอนาคตอันใกล้ การผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม จะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค การปรับตัวและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน จึงเป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ติดตาม บริษัท น้ำมันพืชปทุม จำกัด เพิ่มเติมได้ที่


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ขับเคลื่อนเกษตรกรไทยด้วยแนวทาง 2 Q เปิดสวิตช์ติดเครื่อง ฟื้นคืนวัฏจักร ผลักดันสู่อาเซียน

ขับเคลื่อนเกษตรกรไทยด้วยแนวทาง 2 Q เปิดสวิตช์ติดเครื่อง ฟื้นคืนวัฏจักร ผลักดันสู่อาเซียน

แม้ในปัจจุบัน มนุษย์จะมีองค์ความรู้มากขึ้นเพียงใดก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแทบทุกวงการ มนุษย์ก็ต้องการเครื่องทุ่นแรง เพื่อมาช่วยเหลือในเรื่องต่าง…
pin
2 | 05/02/2025
ราชินีแห่งดอนตูม รวมกลุ่มเกษตรกร ส่งต่อมะเขือเทศผ่านแนวคิดพอเพียง

ราชินีแห่งดอนตูม รวมกลุ่มเกษตรกร ส่งต่อมะเขือเทศผ่านแนวคิดพอเพียง

เสิร์ฟสานความสดใหม่ ร่วมมือร่วมใจเกษตรกรแข็งขัน องค์ความรู้เก่า แนวคิดใหม่ ส่ง “มะเขือเทศราชินี” สู่การแข่งขันจากแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง…
pin
5 | 04/02/2025
“น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ” จากธุรกิจครอบครัว สู่แบรนด์ระดับโลก สร้างความยั่งยืนธุรกิจเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด ESG

“น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ” จากธุรกิจครอบครัว สู่แบรนด์ระดับโลก สร้างความยั่งยืนธุรกิจเป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด ESG

เจาะกลยุทธ์ “น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ” สร้างความยั่งยืนธุรกิจ ด้วยแนวคิด ESG เติบโตเคียงคู่ดูแลสิ่งแวดล้อม สู่แบรนด์ระดับโลกช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา…
pin
8 | 21/01/2025
เปิดแนวคิด ESG จุดเปลี่ยนสำคัญของ 'น้ำมันพืช' สู่อนาคตที่ยั่งยืนในตลาดโลก