ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตผู้คนและสังคมไทยเป็นอย่างมาก
แต่การเข้ามาของเทคโนโลยียุคที่ 5 หรือ 5 G ในปี 2020 (2563) จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของพฤติกรรมผู้บริโภคครั้งใหญ่ซึ่งไม่ใช่เพียงเรื่องความเร็วของการรับและส่งข้อมูลเท่านั้น
แต่ยังรวมไปถึงความหน่วงที่ลดลง
นวัตกรรมใหม่ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแพร่หลาย
ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงผู้บริโภคจากอดีตอย่างสิ้นเชิง เพราะสามารถเข้าถึงเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็น
AI, Machine learning และ IoT ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าว มี 3 เรื่องที่มีผลต่อผู้บริโภคนั้นก็คือ
1. การเติบโตของโทรศัพท์มือถือ
2. การเติบโตของ Social Media และ
3. การเติบโตของ Online Commerce
ที่ผ่านมาแม้ว่าโลกจะพัฒนา “นวัตกรรม”
ไปมากก็ตาม แต่กลุ่มชาติเอเชีย รวมทั้งไทย ยังอยู่ในแค่จุดเริ่มต้นของการตลาด โดยปี
2014 ประชากรของเอเชีย 57% เมื่อเทียบกับประชากรโลก ที่มีใช้มือถือ 58% ของโลก
และใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 53% ของคนใช้อินเทอร์เนตทั่วโลกทั้งหมด
แต่ในเชิงการบริโภคส่วนตัวนั้นคนเอเชียยังมีอัตราการบริโภคส่วนบุคคลที่
26% และเป็น 31% ในปี 2019
ทำให้อัตราการขยายตัวด้านการจับจ่ายนั้นจะเติบโตสูงกว่า 4.6% ใน 5 ปีข้างหน้า
เหนือกว่ามาตรฐานของโลก 3% เพราะได้รับอิทธิพลของอินเตอร์เน็ต
บ่งบอกว่าอนาคตตลาดเอเชียสดใส สอดคล้องกับนักพัฒนาแอพพลิเคชันมากกว่า 1 ใน 3
ของโลกอยู่ที่เอเชีย เพราะเชื่อมั่นเทคโนโลยีล้ำสมัยจะเข้ามาเปลี่ยนการดำเนินชีวิตชาวเอเชีย
และการเข้ามามีอิทธิพลต่อผู้บริโภคนับตั้งแต่ ปี 2020 เป็นต้นไป
เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตชาวไทยทุกหย่อมหญ้า
ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์ของผู้คนเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากอดีตสู่สังคมยุคสมัยใหม่ จากก่อนหน้านี้สมาร์ทโฟนได้เข้ามาเปลี่ยนชีวิตมนุษย์ดำเนินชีวิตสะดวกสบาย
แต่ศตวรรษที่ 21 นี้จะกลายเป็นปรากฎการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์จาก 10 เทคโนโลยีสุดอัจฉริยะ ดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. 5 G เปลี่ยนโฉมพฤติกรรมคนและเศรษฐกิจ
ปี 2563 ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะนำเทคโนโลยี
5G มาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาสินค้าและบริการจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคและสังคมอย่างสิ้นเชิง
โดยนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นรวมไปถึง "นวัตกรรมหลังบ้าน" ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญ
ในการก่อให้เกิดสินค้าและบริการที่พัฒนาจาก 5G ซึ่งนวัตกรรมที่ว่านี้
คือ Network Slicing นับว่าเป็นการเปลี่ยนโครงสร้างเชิงสถาปัตย์ของเน็ตเวิร์คให้เป็นระบบเสมือน
ซึ่งจะทำให้ความหน่วง (Latency) ของการรับส่งข้อมูลลดลง
มีความมั่นยำในการควบคุมจากระยะไกล ทำให้เกิดการใช้ประโยชน์จาก loT ได้เต็มศักยภาพ สามารถนำมาประยุต์ใช้อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ เช่น สาธารณสุข
การขนส่ง และความมั่นคง ซึ่งปี 2563 เป็นปีแห่งแห่งการเริ่มต้น "ถนนนวัตกรรม"
อย่างแท้จริง
2. eSIM จะมีการใช้อย่างแพร่หลาย
เทคโนโลยี eSIM จะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กันอยู่ทุกวัน
ไม่จำกัดแค่เพียงโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งเทคโนโลยี loT และ 5G
ทำให้ eSIM จะมีการใช้อย่างแพร่หลายในปี 2563
ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคแบบไม่เคยเป็นมาก่อนทำให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายและสามารถจัดเก็บข้อมูลการใช้งานจริง
3. นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันกระแสความตื่นตัวด้านสิ่งแวดล้อมจะเป็นมากกว่าการสร้างความตระหนักรู้
เพราะนวัตกรรมจะเขามามีบทบาทในการจัดการสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์เข้าด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็น IoT Big data และ
AI เพื่อลดการใช้ปริมาณการใช้ทรัพยากรอันเป็นส่วนหนึ่งของการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ร่วมกันขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค
ผ่านเครื่องมือทางดิจิทัลอย่างโมบายแอปพลิเคชันแบบสมบูรณ์แบบ
4. พัฒนาเทคโนโลยีต่อยอดด้วยเทคโนโลยี
ด้วยความต้องการที่สูงขึ้นของ AI แต่บุคลากรผู้พัฒนา AI ไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ดังนั้นในปี 2563 จะได้เห็นบุคลากรชาวไทยเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์ม Machine
learning ที่สามารถสร้าง AI ได้ตามความต้องการ
ทำให้องค์กรธุรกิจ หรือบุคคลทั่วไปสามารถพัฒนา AI ใช้งานได้เอง
เรียกได้ว่าเป็นการนำเทคโนโลยีสร้างเทคโนโลยีอีกทอดหนึ่ง
5. ร่างกายจะคอนเน็คกับอินเตอร์เน็ตกว่าเดิม
ปี 2563
ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะได้สัมผัสเทคโนโลยี IoT ผนวกเข้าไปอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้สามารถจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับร่างกายได้อย่างแบบเรียลไทม์
เช่น ความดันเลือด ปริมาณออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ หรือแม้แต่การนอนกรน
เช่น การแก้ปัญหาระดับอินซูลินในเลือด ซึ่งอุปกรณ์ IoT จะได้รับการพัฒนาลดเวลาระหว่างการอ่านค่าอินซูลินและการฉีดยาเข้าร่างกาย
ซึ่งกรณีนี้ผู้ป่วยรอไม่ได้ต้องเร่งช่วยให้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นบทบาทของ IoT
ที่ผู้บริโภคสามารถสัมผัสได้ในปี 2563
6. "Dirty Data"รูปแบบใหม่ของข่าวปลอม
ข้อมูลบนโลกออนไลน์เกิดขึ้นอย่างมหาศาลในทุกวินาที
เต็มไปด้วยข่าวจริงและปลอม ปัญญาประดิษฐ์ คือพระเอกเข้ามามีบทบาทในการคัดกรองข้อมูล
เพื่อการตัดสินใจว่าสิ่งไหนแท้ ซึ่งเทคโนโลยีล้ำสมัยจะช่วยประมวลผลให้ถูกต้องและมีคุณภาพ
7. ความน่าเชื่อถือ
ถูกยกระดับความสำคัญ
"ความเชื่อถือ" เป็นตัวกลางของการใช้บริการทางออนไลน์
แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
มีข่าวคราวที่บริษัทผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียนำข้อมูลของผู้ใช้บริการออกสู่ระบบไปยัง
Third Party เช่น บริษัทโฆษณา ทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจของผู้ใช้บริการต่อผู้ให้บริการ"ลดลง”
ดังนั้นในปี 2563
จะเห็นแนวโน้มที่ว่า ผู้บริโภคจะตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น และนั่นทำให้ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียต้องปรับปรุงและเสริมความแข็งแกร่งเพื่อ
"ความน่าเชื่อถือ"
8. ปีแห่งสนามรบของ Streaming TV
หลังจากที่ Netflix ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบความบันเทิงของผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง
ผ่านรูปแบบ"สตรีมมิ่ง" ทำให้คอนเทนท์และเจ้าของแพลตฟอร์มรายอื่นอย่าง Apple
TV+และ Disney+เข้ามาขอแชร์สวนแบ่งตลาด
ซึ่งในปี 2563 จะได้เห็นสนามรบดุเดือด ทั้งคอนเทนท์ที่หลากหลายและราคาจากผู้เล่นเหล่านี้ลดลงอย่างแน่นอน
9. เกณฑ์ใหม่คุม “บิ๊กเทค”
ปี 2563 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ "บิ๊กเทค"
ที่จะถูกควบคุมด้วยกฎเกณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการจัดเก็บภาษี
ข้อมูลส่วนบุคคล ความมั่นคง ตลอดจนข้อห้ามที่เกี่ยวกับการโฆษณา เพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง
หลังจากเหตุการณ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ผู้คนในสังคมตั้งคำถามถึงประเด็นปัญหาต่างๆที่เกิดจากบริการของบิ๊กเทคเหล่านี้
10. ป้องกัน Phone scam ด้วย Machine learning
Phone scam หรือภัยที่เกิดจากการหลอกลวงผ่านโทรศัพท์ มีจำนวนเพิ่มขึ้นทั่วโลกเช่นเดียวกับประเทศไทย ซึ่งมาในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งมิสคอล การโทรออกผ่านหุ่นยนต์ ซึ่งวิธีการเหล่านี้ต่างมีเล่ห์กลในการหลอกล่อเอาเงินจากเหยื่อ แต่เพื่อลดและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ในปี 2563 Machine learning จะเข้ามามีบทบาทสำคัญและเป็นเครื่องมือในการป้องกันตลอดทั้งสกัด Phone scam ที่จะเข้ามาหลอกลวงเหยื่อให้อยู่หมัด
ความเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคปี 2020 มีผลจากปัจจัยเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามามีอิทธิพลต่อมนุษย์ ทำให้สังคมยุคใหม่เกิดการเปลี่ยนแปลงจากสังคมแบบเดิมๆ ผลพวงจากอินเตอร์เน็ตที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบใหม่ๆ อย่างมหาศาลที่มีทั้งผลดีและผลลบต่อมนุษย์