กล้าคิด แล้วลงมือทำ เปลี่ยนชีวิตเพราะเห็ดหลินจือแดง

หนึ่งในพืชสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในต่างประเทศ และสามารถนำมาปลูกในไทยได้ผลดีเกินคาด นั่นก็คือ ‘เห็ดหลินจือแดง’(Ganoderma lucidum) มีต้นกำเนิดในประเทศจีน ซึ่งตามตำราสมุนไพรโบราณของจีน ยกย่องให้ เห็ดหลินจือแดงเป็น ‘เห็ดอมตะ’ หรือ ‘เทพเจ้าแห่งชีวิต’ เนื่องจากมีสรรพคุณเหนือเห็ดสายพันธุ์อื่นๆ อีกทั้งยังถูกใช้เป็นยาอายุวัฒนะ สำหรับบำรุงกำลัง และ รักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้สารพัด

ปัจจุบัน ‘เห็ดหลินจือแดง’ กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตลาดรับซื้อไม่อั้นแต่ค่อนข้างใช้ต้นทุนสูงพอสมควร แต่เพาะเห็ดดังกล่าวหาใช่ว่าคนมีเงินน้อยจะเริ่มต้นไม่ได้ หากตั้งใจจริงคอยทำคอยไปเก็บเงินเล็กผสมน้อยไว้เป็นต้นทุนลงทุนก็สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจดังฝันได้

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

เช่นเดียวกับ คุณอรทัย แก้วสุวรรณ สาวโรงงานวัย 39 ปี ชาว ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา คือ หนึ่งในเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่เก็บเงินจากน้ำพักน้ำแรงอยากเติมเต็มความฝัน จึงนำงบที่เก็บหอมรอมริบทดลองเพาะเห็ดหลินจือแดงในพื้นที่บ้านของตัวเอง โดยใช้เวลาว่างจากเลิกงานโรงงาน ทำการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับการเพาะเห็ดหลินจือแดงอย่างจริงจัง เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนจึงเริ่มสร้างโรงเรือนขนาดเล็กไว้หลังบ้าน แล้วเริ่มเพาะเห็ดหลินจือแดงชุดแรกเมื่อช่วงต้นปี 2561

ปรากฏว่าผลผลิตออกมาได้คุณภาพมาตรฐานระดับประเทศต้นตำรับ จึงเก็บผลผลิตดอกเห็ดหลินจือแดง ส่งจำหน่ายในพื้นที่จ.นครราชสีมา กระแสตอบรับดีเกินคาดจนสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวอย่างเป็นกอบเป็นกำมีรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน

ช่องทางธุรกิจสดใสลงทุนขยายโรงเพาะอีก 1 โรง

เมื่อมองเห็นช่องทางธุรกิจที่สดใส จึงตัดสินใจลงทุนขยายโรงเพาะเห็ดเพิ่มขึ้นอีก 1 โรง และสร้างโรงอบเห็ดที่ได้มาตรฐานสากลขึ้นมา เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์จากเห็ดหลินจือแดงต่อยอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อย่างเต็มรูปแบบ  ช่วยเติมความฝันให้กับ คุณอรทัย ควบคู่กับทำงานเป็นสาวโรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์แห่งหนึ่งที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีรอยต่อกับ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

คุณอรทัย เล่าว่า ครอบครัวมีอาชีพเกษตรกรรม แต่ทำไปทำมายังยืนอยู่กับที่เดิม คิดไปคิดมาทำอย่างไรไม่เดินรอยตามครอบครัว เมื่อมีโอกาสท่องโลกอินเตอร์เน็ต ค้นหาข้อมูล ว่าอาชีพอะไรทำแล้วไปได้ดี มาสะดุดตรงที่การเพาะเห็ดหลินจือแดง และข้อมูลแนะนำว่าสามารถนำมาปลูกในไทย โดยเฉพาะพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว ซึ่งมีสภาพอากาศเย็นตลอดปี จึงได้หารือกับสามีเพื่อที่จะใช้เวลาว่างทำการเพาะเห็ดหลินจือแดงที่บ้าน ด้วยการสร้างโรงเพาะเห็ดหลินจือแดง

ชุดแรก ซื้อก้อนเห็ดมาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ จำนวน 2,000 ก้อน ในราคาก้อนละ 10 บาท มาจัดเรียงไว้ในโรงเรือน ควบคุมระบบน้ำด้วยปริงเกอร์ รดน้ำวันละ 2 รอบ เช้า-เย็น รอบละ 2 นาที ทำเช่นนี้เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ เห็ดก็เริ่มออกดอก ผ่านไปประมาณ 50 วัน เห็ดก็จะเริ่มโตและมีสปอร์ออกมา ซึ่งสปอร์นี้จะมีสารออกฤทธิ์ทางยาสูงมาก ก็เริ่มเอาพู่กันมาปัดเอาสปอร์เห็ดเก็บไว้ขายได้ โดยสปอร์เห็ดหลินจือแดง จะมีราคาสูงถึงกรัมละ 33,000 บาทเลยทีเดียว

"เมื่อเห็ดหลินจือแดงอายุได้ประมาณ 75 วัน ดอกเห็ดจะมีสีแดงมันวาว แสดงว่าโตเต็มที่พร้อมเก็บได้แล้ว ก็เริ่มทำการเก็บดอกเห็ด โดยในโรงเรือนแรกที่เริ่มเพาะ 2,000 ก้อน จะได้เห็นหลินจือสดประมาณ 70 กิโลกรัม หลังจากนั้นจะนำไปผ่านกระบวนการ ล้าง นึ่ง และอบแห้ง เพื่อให้สามารถเก็บไว้ได้นาน ซึ่งเมื่ออบแห้งแล้วจะได้เห็ดแห้งประมาณ 23 กิโลกรัม ก่อนนำมาบรรจุใส่ห่อจำหน่ายได้"

ต่อยอดธุรกิจสู่แบรนด์ “บ้านไร่แก้วสุวรรณ”

ปัจจุบันเห็ดหลินจืออบแห้งของคุณอรทัย ได้ใช้ชื่อแบรนด์ว่า “บ้านไร่แก้วสุวรรณ” ซึ่งจะจำหน่ายเป็น 2 ขนาด ได้แก่ ขนาดห่อละ 1 ขีด ราคา 350 บาท และขนาดห่อละ 2.4 ขีด ราคาห่อละ 900 บาท ซึ่งดอกเห็ดหลินจืออบแห้งนี้ สามารถนำไปต้มรับประทานเหมือนน้ำชาได้ จะเป็นยาสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ ได้มากมายตามสรรพคุณที่แพทย์แผนปัจจุบันพิสูจน์มาแล้วทั่วโลก ส่วนสปอร์เห็ดนั้นจะทำเป็นแคปซูลขาย เฉลี่ยแคปซูลละ 100 บาท แต่ตอนนี้ยังมีไม่มาก จึงไม่ได้รับออเดอร์ทั่วไป เพราะมีเพื่อนฝูงสั่งจองไว้หมดแล้ว แต่อนาคตจะมุ่งพัฒนาสู่ความเป็นเชิงพาณิชย์มากขึ้น

หลังจากเก็บเห็ดหลินจือแดงรุ่นแรก จำหน่ายไปหมดในเวลาอันรวดเร็ว ตอนนี้ก็เริ่มมีเห็ดรุ่นแล้วรุ่นเล่าออกดอกส่งขายตลาดตามออร์เดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงมองเห็นอนาคตของธุรกิจที่สดใจ จึงได้ตัดสินใจลงทุนสร้างโรงเรือนขนาดใหญ่กว่าเดิมเป็นแห่งที่ 2 สามารถเพาะเห็ดได้ถึง 4,000 ก้อน ใช้เงินกว่า 40,000 บาท ถ้ารวมกับ โรงเรือนเดิมเพาะเห็ดได้ครั้งละ 2,000 ก้อน ทำให้สามารถมีเห็ดหลินจือแดงจำนวน 6,000 ก้อน พร้อมกันนี้ก็ได้ทุ่มเงินอีกกว่า 100,000 บาท สร้างโรงผลิตภัณฑ์ขึ้นมา 1 โรง

โดยวางแผนไว้ว่าอนาคตจะทำเป็นจุดท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม ในรูปแบบธุรกิจครอบครัว โดยมีพ่อ แม่ และสามี เป็นคนช่วยกันทำ เนื่องจากบ้านอยู่ติดกับถนนทางหลวงชนบท 3052 ที่เป็นเส้นทางหลักการท่องเที่ยวเขาแผงม้าของ อ.วังน้ำเขียว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแวะมาชมวิธีเพาะเห็ดหลินจือแดง มีกาแฟสดให้ดื่ม และมีผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือแดงที่ผลิตเอง มาวางจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวด้วย

ความสำเร็จของ “คุณอรทัย”ถือว่าเป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่ที่คิดนอกกรอบออกจากวิถีชีวิตเกษตรแบบดังเดิมเพาะเห็ดหลินจือแดง เติมเต็มความฝันให้กับชีวิตควบคู่กับการทำงาน แต่กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตเพราะเห็ดหลินจือแดงสร้างรายได้จนยกฐานะความเป็นอยู่ดีกว่าเดิมจนทุกวันนี้ 

เปลี่ยนเกษตรดั้งเดิมเป็น ‘เกษตรแม่นยำ’ ด้วย AI

เทคโนโลยี Blockchain เพื่อการเกษตร