เมื่อถามว่า ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก กับผลิตภัณฑ์ทั่วไปต่างกันที่ตรงไหนบ้าง หนึ่งในคำตอบที่มีคนตอบบ่อยที่สุดก็คือ ‘มูลค่า’ เพราะเห็นได้ชัดเจนว่า ระหว่างผลิตภัณฑ์รักษ์โลกกับผลิตภัณฑ์ทั่วไป กลุ่มผลิตภัณฑ์รักษ์โลกจะมีราคาสูงกว่า แต่มูลค่าจะสูงจากราคาอย่างเดียวไม่ได้ คุณค่าต้องเคียงคู่มูลค่าด้วย บทความนี้จึงขอหยิบวิธีสร้างคุณค่าผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมาบอกต่อกัน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. ออกแบบให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แน่นอนว่าคุณค่าสำคัญของผลิตภัณฑ์รักษ์โลก
คือการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เริ่มตั้งแต่การออกแบบ
โดยอาจเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นวัสดุจากธรรมชาติที่มีการย่อยสลายได้ง่ายเมื่อหมดอายุการใช้งานแล้วต้องกลายเป็นขยะ,
ลดการใช้วัตถุดิบไปจนถึงลดการใช้พลังงานในการผลิต หรือออกแบบให้มีลักษณะและอายุการใช้งานที่สามารถใช้ได้ยาวนานมากขึ้น
เพื่อลดการผลิตและลดขยะในอนาคต ถึงแม้ว่าของเหล่านั้นจะเป็นของเดิมที่เคยมีอยู่แล้ว
และราคาสูงขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ผู้คนก็เลือกที่จะยินดีจ่ายมากกว่า
2. Story ของวัสดุ หรือกระบวนการผลิต
หากคุณเคยฟังเรื่องราวจาก BA ในเคาน์เตอร์แบรนด์เครื่องสำอาง เชื่อหรือไม่ว่า
คุณจะต้องหลงในเรื่องราวของคอนเซ็ปต์และการสกัดของ Ingredients จนซื้อติดไม้ติดมือจากแบรนด์นั้นมาอย่างน้อย 1-2 ชิ้น
เพราะถึงราคาจะสูงแค่ไหนก็มีสตอรี่เรื่องราวที่น่าดึงดูดใจ แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์รักษ์โลกย่อมมีสตอรี่ที่น่าดึงดูดใจเหล่านั้นมาบอกต่อให้ผู้บริโภคได้ฟังเรื่องราวไม่แพ้กัน
เช่น กว่าจะได้วัตถุดิบที่นำมาทำผลิตภัณฑ์มาจากอะไร เลือกใช้สิ่งนั้นเพราะอะไร
และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ไปจนถึงกระบวนการผลิตแต่ละขั้นตอน สะท้อนเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง
ฯลฯ ต่างจากสินค้าทั่วไปที่จะพูดถึงเรื่องตอบโจทย์ผู้บริโภคในเชิงพาณิชย์เป็นหลัก
กระบวนการเป็นไปตามขั้นตอนอุตสาหกรรมธรรมดาทั่วไป
3. ใช้งานได้คุ้มค่าและยาวนานกว่า
ถึงผู้บริโภคจะเริ่มใส่ใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนยังไม่ค่อยมีเสถียรภาพด้านการเงิน
ปัจจัยหลักในการเลือกซื้อสินค้าหนึ่งชิ้นย่อมมีมากกว่าหนึ่งปัจจัย เพราะฉะนั้นแค่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และตอบโจทย์การใช้งานเฉยๆ คงไม่พอ
แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นควรถูกนำมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เช่นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
อย่างหลอดพกพาที่นำไปทำความสะอาดและใช้ซ้ำได้หลายครั้งต่างจากหลอดพลาสติกทั่วไป
หรือเป็นสิ่งที่ใช้งานได้หลากหลายในหนึ่งเดียว ฯลฯ
4. ผู้บริโภคไม่ใช่แค่เป็นผู้ได้ แต่ได้ร่วมเป็นผู้ให้
ผู้บริโภคในยุคนี้ให้ความสนใจกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนมากขึ้น
ทำให้ผู้บริโภคเลือกในสิ่งที่ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์เพื่อตัวเอง
แต่ยังต้องตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมรอบข้างด้วย เป็นการสะท้อนว่าปัจจุบันผู้บริโภคไม่ได้นึกถึงเพียงแต่ตัวเอง
เพราะฉะนั้นบางแบรนด์จึงเลือกที่จะชูจุดตรงนี้สร้างคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก
ด้วยการไม่ใช่เป็นแค่ผู้ได้ แต่ในเวลาเดียวกันสามารถเป็นผู้ให้ด้วย เช่น
บางแบรนด์ที่เลือกกระจายรายได้ให้แก่บุคคลภายในประเทศ
แม้ว่าค่าแรงจะมีราคาสูงกว่าอย่าง Freitag เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งวัสดุและผลิตภัณฑ์ข้ามไปมาระหว่างประเทศ
ซึ่งต้องใช้พลังงานและทุนสูง ฯลฯ หากเป็นแบรนด์ในประเทศไทยนับว่าได้เปรียบ
เพราะวัตถุดิบจากธรรมชาติมีหลากหลาย, เริ่มมีการจัดการแยกขยะเป็นระบบมากขึ้น,
ค่าแรงไม่สูง และได้กระจายรายได้ให้แก่ชาวชนบทและผู้คนที่ตกงานมากขึ้น
5. แพ็กเกจก็สำคัญ
คงจะไม่ดีแน่
หากคุณเลือกวางคอนเซ็ปต์และสร้างผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมาอย่างดี
แต่แพ็กเกจทำร้ายโลก ซึ่งปกติแล้วหนึ่งในขยะที่มีจำนวนมากติดอันดับมาจากแพ็กเกจ จึงจำเป็นที่คุณควรจะใส่ใจในเรื่องของแพ็กเกจด้วย
ซึ่งบางบริการก็เลือกที่จะจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคโดยไม่มีแพ็กเกจ
เหมือนบริการเติมรีฟิล
หรือบางแบรนด์ก็เลือกที่จะทำแพคเกจแบบย่อยสลายง่าย/นำไปใช้ประโยชน์อื่นเพิ่มเติมได้
ฯลฯ นอกจากนี้การห่อเพื่อส่งไปถึงมือของผู้บริโภค
ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคมักจะเลือกซื้อผ่านทางออนไลน์และต้องใช้การขนส่งพัสดุ
จำเป็นที่จะต้องเลือกวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น
กล่องกระดาษที่ไม่มีการพิมพ์สีลวดลายไว้บนกล่องผู้รับสามารถหยิบไปรียูสได้,
ใช้ก้านผักตบชวาตากแห้งเป็นตัวกันกระแทกแทนเม็ดโฟมหรือบับเบิ้ลกันกระแทก ฯลฯ
ถึงแม้ว่าปกติแล้วผลิตภัณฑ์รักษ์โลกของคุณจะมีคุณค่าและจุดเด่นที่แตกต่างกว่าผลิตภัณฑ์ทั่วไป ก็อย่าลืมที่จะใส่ใจพัฒนาและเติมเต็มคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์ของคุณอยู่เสมอ ด้วยวิธีสร้างคุณค่าผลิตภัณฑ์รักษ์โลกและติดตามข่าวสารในแวดวงเดียวกันอยู่เสมอ เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้เทียบเท่าหรือมากกว่าผลิตภัณฑ์รักษ์โลกอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน การสื่อสารหรือบอกเล่าตัวตนที่ชัดเจนว่าทำไมต้องเลือกสินค้าเรา สินค้าเราดีต่อโลกอย่างไร นี่คือจุดแข็งและจุดขายที่ต้องเน้นย้ำเสมอๆ
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อ Bualuang Green<<
วิธีจัดการทรัพยากรแบบหมุนเวียน (Renewable)
แนวโน้ม ‘อาชีพ’ เติบโตสวนทางโควิด-ร่วงตามเศรษฐกิจ