แตกต่างด้วย Identity ‘วีวา มอนทาเน่’ แลนด์มาร์คพักผ่อนแห่งใหม่ เอาใจสายรักสงบซบธรรมชาติด้วยบรรยากาศสุด Privacy

หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ชิลล์ๆ ที่ ‘วีวา มอนทาเน่’ โรงแรมแสนสงบ บรรยากาศสบายๆ ใกล้ชิดธรรมชาติดื่มด่ำกับบรรยากาศที่ร่มรื่นไม่ไกลจากกรุงเทพ จากแนวคิดสร้างธุรกิจให้แตกต่างแต่เป็นที่น่าจดจำ สร้าง Identity เน้นบรรยากาศ Privacy สไตล์ คุณกมลาสน์ บุณยตุลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีวา มอนทาเน่ จำกัด

คุณกมลาสน์ เล่าถึงที่มาของ ‘วีวา มอนทาเน่’ ว่า เดิมทีครอบครัวทำธุรกิจด้านโรงแรมอยู่แล้ว จึงเกิดความคิดที่จะต่อยอดธุรกิจของครอบครัวที่เป็นแนวคิดอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง (Identity) ด้วยการเปลี่ยนวิกฤตเป็นความคิดสร้างสรรค์ (Turn crisis to inspiration) คือการสร้างสรรค์บรรยากาศและบริการที่มีความเป็นส่วนตัว แต่แฝงด้วยเสน่ห์ความงดงามของธรรมชาติผสมผสานกับกิจกรรมที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย สร้างแลนด์มาร์คใหม่เพื่อนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ โดยมีเชื่อว่าการที่ได้มาพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ สูดอากาศที่บริสุทธิ์ ได้หลุดพ้นจากความวุ่นวายภายนอกสู่ความเงียบสงบ แล้วจะมีอายุยืน ถือเป็นการชาร์จพลังชีวิตให้ตัวเอง 

สำหรับที่มาของคำว่า ‘วีว่า’ (Viva) มาจากภาษาอิตาเลียน ที่แปลว่า การขอพรให้มีอายุยืน ส่วน ‘มอนทาเน่’ (Montane) แปลว่า อยู่บนภูเขา และด้วยความที่เป็นคนชอบเลี้ยงเต่าใหญ่ ซึ่งเลี้ยงนานกว่า 10 ปีแล้ว จึงมองว่าเต่ายักษ์สามารถนำไปเลี้ยงเพื่อสร้างความสุขให้กับผู้ที่มาพักได้ด้วย 

ซึ่งเต่าเป็นสัญลักษณ์ของความมีอายุยืน จึงเป็นที่มาของโลโก้รูปเต่าที่ต้องการสื่อถึงการได้มาพักผ่อนที่ วีวา มอนทาเน่ ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติและอากาศที่สดชื่นจะทำให้อายุยืน 

 

คุณกมลาสน์ ฉายมุมมองว่า ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ต้องการมอบความเป็นส่วนตัว (Privacy) ให้กับลูกค้า เราจึงมองหาโลเคชันที่ใกล้ชิดธรรมชาติ และผสมผสานเข้ากับบริการ กิจกรรมใหม่ๆ รวมถึงฟังก์ชันที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รูปแบบของโรงแรมที่พัก จึงเน้นความโปร่งโล่ง เงียบสงบ เป็นส่วนตัว เพื่อให้ผู้มาพักผ่อนได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติสูดอากาศที่บริสุทธิ์เพื่อที่จะได้มีอายุยืน ดั่งคอนเซ็ปต์ที่ได้วางไว้ จึงทำห้องพักเพียง 24 ห้อง และ Pool Villa จำนวน 4 หลัง

ซึ่งในอนาคตตั้งใจจะเพิ่มเติมในส่วน Safari Tent ที่ให้บรรยากาศแบบแคมปิ้ง แต่มีความเป็นส่วนตัว ซึ่งนอกจากธรรมชาติที่สวยงามและความเงียบสงบแล้ว ยังมีกิจกรรมกลางแจ้ง (Activity)ให้ได้สนุกตื่นเต้น เร้าใจไม่ว่าจะเป็นสนาม Pump Track หรือว่าจะเป็น Surf Skate กิจกรรมสุดฮิตที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ และในอนาคตก็มีแนวคิดที่จะเพิ่ม กิจกรรมที่สนุกๆ ให้มากขึ้นเพื่อให้ลูกค้าที่มาพักได้เพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับกิจกรรมกลางแจ้งสนุกๆ ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอย่างลงตัว

 

โดยกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้คือ กลุ่มที่ชอบเที่ยวแบบใกล้ชิดธรรมชาติ (Travel & Closer to Nature)  รักความสงบ อยากลองใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ซึ่งก็จะเข้ากับสถานการณ์ช่วงนี้ที่ไม่ต้องการท่องเที่ยวในที่ๆ ไม่หนาแน่น แออัดมากนัก เพื่อสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้ลูกค้าที่มาพักผ่อนได้อย่างอุ่นใจ

คุณกมลาสน์ ขยายความว่า หลายคนมองว่าจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ครึกครื้นและไม่เคยหลับใหล แต่ ‘วีวา มอนทาเน่’ กลับเน้นความเงียบสงบ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ต้องใช้กลยุทธ์อย่างไรที่จะดึงดูดใจลูกค้าให้มาสัมผัสความเงียบสงบได้ ต้องบอกว่ากลยุทธ์ที่ใช้คือ ‘สร้างความแตกต่าง สร้างเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัว’ (Different & Create Identity) และใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ที่มีผู้ติดตามมากพอที่จะช่วยรีวิวถึงความมีชีวิตชีวา ในการส่งมอบความสุขที่แสนสงบให้ลูกค้า ได้มาสัมผัสธรรมชาติและความเป็นส่วนตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของ ‘วีวา มอนทาเน่’ เป็นความท้าทายในความไม่เหมือนใคร ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง  (Identity)

 

คุณกมลาสน์ เล่าถึงการรับมือกับสถานการณ์การโควิด 19 ว่าเป็น 3 ปีที่ยาวนานและยังคงอยู่ต่อไปอีก สถานการณ์โควิด 19 ส่งผลให้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป นักท่องเที่ยวเริ่มให้ความสำคัญกับคุณค่าและมองหาความปลอดภัย กลับมานิยมในความเรียบง่าย และความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ที่ผ่านมา ‘วีวา มอนทาเน่’ ปฏิบัติตามมาตรการภาครัฐอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ทั้งด้านความสะอาด ความปลอดภัยด้านสุขอนามัย ไปจนถึงเรื่องอาหารที่มีบริการจัดส่งให้ถึงห้องทั้งหมด เพื่อเน้นความปลอดภัยในการรักษาระยะห่าง ส่วนกิจกรรมกลางแจ้งก็มีการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้ลูกค้า

คุณกมลาสน์ สะท้อนภาพว่า จากสถานการณ์โควิด 19 นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มที่จะเบนเข็มมานิยมพักผ่อนในรูปแบบ Pool Villa และ Safari Tent มากขึ้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีกำลังซื้อสูงและเชื่อว่าจะเป็นตลาดที่มาแรง เพราะจากสถานการณ์โควิด 19 รูปแบบการท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป เน้นการท่องเที่ยวที่ไม่แออัด ปลอดภัย และเงียบสงบเป็นส่วนตัว เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่มาใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์มากขึ้น

  

“ฝากถึง SME ที่ทำธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ในยุคนี้ต้องหาแนวทาง จุดขาย ธีม รวมถึงเอกลักษณ์ (Identity) ของตัวเองให้เจอ เพื่อทำให้ธุรกิจตัวเองมีความโดดเด่น เป็นการสร้างแตกต่างเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ชื่นชอบในแนวคิดของเรา สิ่งนี้ถือเป็น Key Success ในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน” คุณกมลาสน์ ให้แง่คิดในท้ายสุด