หลายปีที่ผ่านมา
ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ช่วยกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วเอเชียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)
เช่นเดียวกับประเทศไทย แต่หลังจากเกิดวิกฤติการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนลุกลามใหญ่โตฉุดเศรษฐกิจของจีนซบเซาและค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง
ส่งผลทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนชะลอเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ
โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงไปบ้าง ชาติอาเซียนต้องมองหาตลาดนักท่องเที่ยวเกิดใหม่มาทดแทนกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนหดหายไป
ขณะที่ประเทศไทย
โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวตลอดปลายปี 2561
ต่อเนื่องปี 2562 จึงนำหน่วยงานภาครัฐและเอกชนออกตระเวนไปโรดโชว์ทั่วโลกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวตลาดเกิดใหม่มาท่องเที่ยวประเทศไทยแบบมอบเงื่อนไขพิเศษมากมายซึ่งกระแสตอบรับเป็นอย่างดี
โดยหนึ่งในนั้น คือนักท่องเที่ยวจากอินเดีย โดยปี 2561 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ระบุว่า มียอดนักท่องเที่ยวชาวอินเดียมาเที่ยวไทยเกือบ
1.6 ล้านคน เติบโตเกือบ 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน สามารถสร้างรายได้ท่องเที่ยวกว่า
7.15 หมื่นล้านบาท หรือขยายตัวมากถึง 30% เลยทีเดียว
โดยในช่วงไฮซีซั่นปีนี้จะคึกคักมากยิ่งขึ้น
หากรัฐบาลประกาศใช้มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival (VoA) จำนวน
2,000
บาท ตามคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณาประเทศอินเดียเป็น
1 ใน 20 ประเทศ ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียม VOA โดยจะขยายระยะเวลาออกไปอีก
1 ปี สิ้นสุดเดือน ต.ค.2563 จากเดิมครบกำหนดวันที่ 31 ต.ค. 2562 แต่ขณะนี้รัฐบาลก็ยังไม่พิจารณาการยกเว้นฟรีวีซ่าตามที่ครม.เศรษฐกิจเสนอไปแล้วเมื่อวันที่
16 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme

เร่งเจาะกลุ่มวัยรุ่นอินเดีย
อย่างไรก็ตาม อนาคตนักท่องเที่ยวอินเดียอาจจะมาทดแทนนักท่องเที่ยวจีน
ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 (ม.ค.-มิ.ย.) มีจำนวนท่องเที่ยวจีนมาไทย จำนวน
5.65 ล้านคน ปรับตัวลดลง 4.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียมีทิศทางการเติบโตสูงขึ้นมากเป็นลำดับ
มีจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 978,000 คน มีอัตราการเติบโต 24 %
ยุทธศักดิ์ สุภสร
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ยืนยันว่า
จากแนวโน้มตลาดอินเดียเที่ยวไทยขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง
จึงได้กำหนดเป้าหมายเชิงจำนวนไว้ที่ปีละไม่ต่ำกว่า 20% และคาดว่าจะทะลุ 5
ล้านคนได้ภายในปี 2567 เพื่อมาช่วยสร้างสมดุลแก่ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเยือนไทยในภาพรวม
ไม่ให้กระจุกตัวอยู่เพียงไม่กี่ตลาด
หวังสร้างความยั่งยืนแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
“ท่องเที่ยวไทยแข็งแรงอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มคู่แต่งงานและฮันนีมูน
แต่กลุ่มที่ต้องเร่งส่งเสริมไปพร้อม ๆ กัน คือนักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่ของอินเดีย
เพราะนอกจากจะเป็นประเทศที่มีขนาดประชากรทั้งหมดมากกว่า 1,300
ล้านคนแล้ว ยังมีฐานประชากรวัยหนุ่มสาวมากที่สุดในโลกด้วย
ต้องเร่งโปรโมทการตลาดให้นักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่เกิดความสนใจและเชื่อมั่นในภาคท่องเที่ยวไทย”
ฮิตเยือนไทย คุ้นค่าเงิน แหล่งเที่ยวหลากหลาย
ในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมาจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอินเดีย
พบว่า ชาวอินเดียนิยมไปเที่ยวเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) อันดับที่
1 ประมาณ 2 ล้านคน อันดับที่ 2 ประเทศไทย
ประมาณ 1.6 ล้านคน และอันดับที่3 ประเทศมาเลเซีย 1.2 ล้านคน
ซึ่งไม่เพียงแต่ไทยเท่านั้นที่มุ่งดึงดูดชาวอินเดียมาท่องเที่ยวไทย
ยังมีประเทศเพื่อนบ้านต่างดึงดูดชาวอินเดียไปท่องเที่ยวเช่นกันต่างเปิดเที่ยวบินโดยตรงจากประเทศอินเดียมาลงที่ประเทศนั้นๆ
การที่ชาวอินเดียหลั่งไหลออกไปเที่ยวต่างประเทศเป็นจำนวนมากแต่ละปี
ผลพวงจากอินเดียเป็นประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดต่อเนื่อง
โดยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)เติบโตเฉลี่ยปีละ 7%
ปัจจุบันแม้ทิศทางการแข่งขันชิงแบ่งเค้กส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียจะรุนแรง
แต่ประเทศไทยก็ยังมีปัจจัยบวกหนุนหลังการท่องเที่ยวไทยอยู่หลายประการด้วยกัน ทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม
คุ้มค่าเงิน และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามหลากหลาย ขณะเดียวกันสายการบินไทยได้เปิดเส้นทางบินใหม่และเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางยอดนิยมเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะจากเมืองรองของอินเดีย
ขณะที่สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ได้ประเมินเมื่อต้นปีที่ผ่านมาระบุว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดอินเดียมาเที่ยวไทยน่าจะพุ่งทะลุ
5 ล้านคนได้ในอีก 5 ปีนับจากนี้ และยังมีโอกาสขยายตัวเติบโตสูงถึงจำนวน 10
ล้านคนในอีก 10 ปีข้างหน้าเพราะประเทศไทยมีเสน่ห์หลายอย่างดึงดูดนักท่องเที่ยวจากอินเดียซึ่งเมื่อเปรียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีขีดจำกัด
โดยศักยภาพของนักท่องเที่ยวอินเดียโดยภาพรวมการเติบโตของนักท่องเที่ยวขาออก (เอาต์บาวด์) ไปต่างประเทศโดยเฉลี่ยอยู่ที่ปีละ 10% และในปี 2563 นี้ คาดการณ์ว่าจะมีชาวอินเดียเดินทางไปทั่วโลกราว 50 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัวจากปี 2560 ซึ่งมีฐานอยู่ที่ราว 23 ล้านคน นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มไต่อันดับขึ้นเป็นตลาดที่มีการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากนักท่องเที่ยวจีนในปี 2573 อีกด้วย จึงกล่าวได้กลุ่มนักท่องเที่ยวจากอินเดีย ถือเป็นประเทศดาวรุ่งพุ่งแรงดวงใหม่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย