สืบเนื่องจากกรณีที่สมาคมการประมงแห่งประเทศไทยกล่าวถึงปัญหาการบังคับใช้กฎหมายประมง (IUU) ที่ทำให้ชาวประมงไทยได้รับผลกระทบจากขั้นตอนการติดต่อขอใบอนุญาตที่มีขั้นตอนยุ่งยาก รวมถึงการเรียกร้องให้ ‘จำกัดจำนวนโควตาสินค้าอาหารทะเล’ ที่เข้ามาจำหน่ายในไทย อีกทั้ง ยังมีการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำจากประเทศเพื่อนบ้านที่ยังติดใบเหลืองใบแดงจากปัญหาการทำประมง IUU ทำให้เกิดการแย่งส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศ
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
โดยก่อนหน้านี้ทางกรมการค้าต่างประเทศ
ได้ชี้แจงแก่ผู้ประกอบการประมงใน 2 ประเด็น คือ
- เรื่องนี้ กรมประมงเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขผลกระทบต่างๆ
ที่อาจเกิดขึ้นจากการบังคับใช้กฎหมายประมง (ด้าน IUU Fishing)
- เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้ผูกพันสินค้าประมงภายใต้องค์การการค้าโลก
(WTO) จึงไม่สามารถจำกัดปริมาณการนำเข้าได้
อย่างไรก็ตาม การห้ามหรือกำหนดมาตรการนำเข้าของกระทรวงพาณิชย์ตาม
พ.ร.บ.การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522
จะต้องมีเหตุผลความจำเป็น เช่น เพื่อความมั่นคงของประเทศ
เพื่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
หรือเพื่อการสาธารณสุขและต้องพิจารณาผลกระทบต่างๆ อย่างรอบคอบรอบด้าน
ซึ่งหากประเทศไทยห้ามนำเข้าสินค้าประมงเฉพาะจากบางประเทศ เช่น ประเทศเพื่อนบ้านจะถือเป็นการเลือกปฏิบัติได้
ทางด้านกรมประมง โดยนายอดิศร
พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง ชี้แจงถึงกรณีนี้ว่า การออกพระราชกำหนด การประมง พ.ศ.
2558 และแก้ไข ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปฏิรูปการประมงเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับภาคการประมงของไทย
โดยทุกกระบวนการที่เกี่ยวข้องต้องมีความโปร่งใส และเป็นธรรม
สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดสายการผลิต ซึ่งในบางเรื่องเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
เช่น การที่ชาวประมงและผู้ประกอบการต้องมีการจัดทำเอกสารเพื่อให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของสินค้าตั้งแต่จับสัตว์น้ำจนถึงส่งออก
เพื่อให้ผู้ซื้อปลายทางมั่นใจได้ว่าสินค้าเหล่านั้นมีแหล่งที่มาที่ถูกต้อง
ง่ายๆ แค่ระบุเลขหนังสือกำกับการซื้อขายสัตว์น้ำ
ที่ผ่านมากรมประมงได้มีการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกการส่งออกสินค้าประมง
(FSW) ซึ่งผู้ส่งออกเพียงแค่ระบุเฉพาะเลขที่หนังสือกำกับการซื้อขายสัตว์น้ำ
(Marines Catch Purchasing Document :
MCPD) หรือใบรับรองการจับสัตว์น้ำของวัตถุดิบที่มีการซื้อและนำมาผลิต
โดยหมายเลขดังกล่าวจะทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าสินค้ารุ่นนี้ผลิตมาจากวัตถุดิบที่ได้มาจากการจับของเรือประมงลำไหน
จับที่ไหน /เมื่อไหร่ /มีแรงงานกี่คน /ชื่ออะไร
เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคปลายทางว่าสินค้าสัตว์น้ำนั้นไม่มาจากการทำประมงที่ผิดกฎหมายหรือเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์
ภายใต้นโยบายที่มุ่งไปสู่ความยั่งยืน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นจุดแข็งของสินค้าประมงไทยที่ผู้ซื้อปลายทางมั่นใจและยังคงซื้อสินค้าไทย
นำเข้าสัตว์น้ำ 9 พันตันต่อปี
ทั้งนี้ ในประเด็นปริมาณสินค้าสัตว์น้ำเพื่อการบริโภคในประเทศที่ได้จากการทำการประมงทะเลจากประเทศเพื่อนบ้านที่ยังติดปัญหา
IUU อยู่นั้น จากข้อมูลการนำเข้าของด่านตรวจสัตว์น้ำกรมประมง
พบว่ามีปริมาณการนำเข้าเพียง 9,000 ตัน/ปี
เมื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตภายในประเทศถือได้ว่าเป็นปริมาณที่น้อยมาก เพียงร้อยละ0.6 แต่
โดยผู้นำเข้าจะต้องแสดงเอกสารที่รัฐบาลประเทศที่นำสินค้าเข้าออกให้เพื่อแสดงว่าสัตว์น้ำที่นำเข้ามานั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำประมงที่ผิดกฎหมาย
โดยต้องแสดงรายชื่อของเรือประมงที่ทำการจับสัตว์น้ำ เลขที่ใบอนุญาต
วันที่ทำการประมง ตลอดจนน้ำหนักสัตว์น้ำที่จับได้ของสินค้าที่นำเข้าทั้งหมด
รวมทั้งการกำหนดมาตรการด้านสุขอนามัย โดยดำเนินการเฝ้าระวังสุ่มตรวจตัวอย่างสัตว์น้ำที่นำเข้า ณ ด่านตรวจสัตว์น้ำ เพื่อตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง
จะเห็นว่าทั้งหน่วยงานรัฐและผู้ประกอบการมองกันต่างมุม ผู้ประกอบการมองว่ากฎใหม่ของ IUU ยิ่งเพิ่มความยุ่งยากของผู้ประกอบการประมง และให้จำกัดโควตานำเข้าสัตว์น้ำประมงต่างชาติ ขณะที่ฝั่งรัฐ นอกจากทำไม่ได้แล้วยังถือเป็นการเลือกปฏิบัติ แถมทำไม่ได้ด้วย เพราะประมงไม่ได้ผูกพันสินค้าประมงภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) และกฎใหม่ดำเนินการด้วยความโปร่งใส น่าติดตามว่าเรื่องนี้จะมีข้อสรุปอย่างไร