พลันที่”เฟซบุ๊ก”ประกาศจะครองโลกการเงินกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยสกุลดิจิทัล “ลิบรา” (Libra )โดยมีวัตถุประสงค์ให้เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถใช้ได้ทั่วโลก และนำใช้จ่ายได้จริง หรือโอนเงินโดยมีต้นทุนต่ำมาก หรือจะซื้อหรือขาย “ลิบรา” เพื่อเอาเงินสดออกได้ทั้งในระบบออนไลน์และจุดรับแลกเงิน เช่น ร้านของชำ ใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงิน หรือ wallet ที่ใช้ง่าย และคล่อง ช่วยลดต้นทุนด้านการเงิน และไม่มีค่าธรรมเนียม ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่จะเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจเข้ามาอีกมหาศาล ปรากฏการที่กำลังเกิดขึ้น เท่ากับว่าการเงินโลกและธุรกิจกำลังจะถูกท้าทายอย่างหนัก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะทำให้ลิบราประสบความสำเร็จได้ประกอบไปด้วย
3 ปัจจัยสำคัญ
1.ลิบรา ถูกสร้างอยู่บน”บล็อกเชน” ที่มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย
และสามารถรองรับผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากระดับพันล้านคนได้
2.ลิบรา จะต้องถูกค้ำโดยเงินสำรอง ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีอยู่จริง โดยไม่ได้อิงจากเพียงสกุลเงินเดียว
แต่เป็นตะกร้าของสกุลเงินประเทศต่างๆทั่วโลก เช่น เงินฝากธนาคาร และ พันธบัตรรัฐบาล
เพื่อทำให้เกิดมูลค่าในตัวมันเอง
3.ลิบรา ถูกกำกับดูแลโดย หน่วยงานอิสระชื่อ “สมาคมลิบรา” ( Libra Association) ผ่าน สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง หลายๆกลุ่มธุรกิจ
ในการประกาศตัวครั้งนี้เฟชบุ๊ก ได้ออก “สมุดปกขาว”(White Paper) เพื่ออรรถาธิบายถึงเรื่องราวของ
“ลิบรา” ว่า “โลกต้องการสกุลเงินดิจิทัล ที่เชื่อถือได้ จากปัญหาของโลกในปัจจุบัน
ในตอนนี้ ผู้คนทั่วโลก 1.7 พันล้านคน ยังเข้าไม่ถึงธนาคารในระบบการเงินแบบดั้งเดิม
ในขณะที่ผู้คนเข้าถึงสมาร์ทโฟนมีจำนวนมากกว่า ที่สำคัญคือ
คนที่มีเงินน้อยกลับมีต้นทุนสูงในการเข้าถึงบริการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น
ค่าธรรมเนียม ค่าโอน ค่าบัตร ATM”
การเปิดตัวโครงการเงินดิจิทัล ลิบรา ของเฟซบุ๊ก
หากมองในมิติของ ธุรกิจ อาจเป็นไปได้ว่า เฟซบุ๊กกำลังรุกคืบเข้าสู่ธุรกิจการเงิน
โดยต่อยอดแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอมากถึงเดือนละ 2 หมื่นล้านคน
ให้เป็นตลาดบริการชำระเงิน
ที่สำคัญเฟซบุ๊กมีเป้าหมายจะทำให้ ลิบรา
เป็นสกุลเงินตราของโลก เช่นเดียวกับ ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร ปอนด์สเตอร์ลิงก์ เยน และเงินหยวน
ซึ่งลิบรา จะมีทรัพย์สินจริงอันได้แก่ เงินสกุลหลักๆ ของโลก ที่กล่าวมาข้างต้น
และเงินลงทุนในกิจการต่างๆ เป็นทรัพย์สินกำหนดค่าเงิน
ค่าของ ลิบรา จะอิงกับค่าของเงินสกุลหลักของโลก โดยมีองค์กรกลางชื่อ “สมาคมลิบรา ตั้งขึ้นที่เจนีวา
ทำหน้าที่เสมือนธนาคารกลาง กำกับดูแล และเป็นผู้ผลิต ลิบรา ออกมา
คนที่ต้องการใช้เงินลิบรา ต้องเอาเงินไปซื้อหรือแลก ลิบรา ผ่านช่องทางต่างๆ ที่ “สมาคมลิบรา”กำหนดขึ้น
และต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์จากบริษัท คาลิบรา(Calibra) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเฟซบุ๊ก
เป็นที่เก็บเงินหรือบัญชีเงินฝากสำหรับซื้อสินค้า บริการ
หรือโอนเงินไปให้บุคคลที่สาม ผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กอ้างว่า ลิบรา จะให้เสรีภาพในการโอนเงินได้อย่างง่ายดายข้ามแดนไปยังประชากรผู้ใหญ่ที่มี 1.7 พันล้านคนทั่วโลก โดยไม่ต้องผ่านระบบธนาคารแบบเดิม
สำหรับ “สมาคมลิบรา” ประกอบด้วยพันธมิตรที่เฟซบุ๊กทาบทามมาร่วมพัฒนาและลงทุนสร้างระบบเงินลิบรา
ที่ได้เปิดตัวไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย เช่น วีซ่ามาสเตอร์, เพย์พัล ,เพย์ยู, อีเบย์
,ซึ่งเป็นบริษัทธุรกรรมการเงิน
นอกจากนี้มี โวดาโฟน, สไตรพ์,
เฟ็ชบุ๊ก/คาลิบรา, แรบบิท แค็ปปิตอล, อูเบอร์ให้บริการเรียกรถรับส่งผ่านแอพและ
สปอติไฟน์ธุรกิจสตรีมเพลง ฯลฯ รวมถึงกลุ่มองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร
และสถาบันการศึกษาอีกหลายแหล่ง โดยคาดว่าจะมี 100
สมาชิกเข้าร่วมภายในครึ่งปีแรกของ ค.ศ. 2020 การรวมตัวของบิ๊กเนมเหล่านี้จะช่วยการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ
ลิบรา ได้เป็นอย่าดี
เหนือสิ่งอื่นใด กลุ่มพันธมิตรเหล่านี้จะช่วยเฟซบุ๊กระดมทุน
สร้างระบบการทำธุรกรรมและงานด้านบริหารจัดการ
ขณะที่เฟซบุ๊กจะเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีหลักสำหรับเงินสกุลดิจิทัลใหม่นี้โดยเฟซบุ๊กหวังว่าโครงการนี้จะสามารถระดมทุนได้
1,000 ล้านดอลลาร์
และต้องการดึงบริษัทอื่นๆมาเป็นพันธมิตรเพิ่มในขณะเดียวกันเฟซบุ๊กยังได้สร้างบริการพื้นฐานที่เรียกว่า
'คาลิบรา' (Calibra) ซึ่งเป็นบริการรับและจ่ายเงิน ผ่านระบบส่งข้อความ Messenger และ Whatsapp ของเฟซบุ๊ก
ลิบราจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการซื้อขายสินค้า
รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน
แต่ไม่มีบัญชีธนาคารสามารถเข้าถึงบริการการเงินได้ ในสมุดปกขาวของเฟซบุ๊กระบุว่า กำหนดให้
ผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ขายลิบราหรือที่เรียกว่า” Authorized resellers” ในการขายทุกครั้งจะมีการประกันมูลค่ากับ “สินทรัพย์” ที่แลกเปลี่ยนอยู่เสมอเพื่อให้ลิบรา
เก็บมูลค่าเท่ากับจำนวน/มูลค่าของ สินทรัพย์ ที่ทำการแลกเปลี่ยน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเฟซบุ๊ก ยังไม่ได้ประกาศว่าใครจะเป็น
ผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตขาย ลิบรา ดังกล่าวบ้าง
แต่การให้มีผู้จัดจำหน่ายได้นั้นก็ไม่ต่างจากหลักการสร้างสาขาของธนาคาร
ที่เป็นการกระจายการให้บริการไปยังที่ต่าง ๆนั่นเอง
เรืองราวของลิบรายังมีเรื่องที่ต้องพูดถึงอีกหลากหลายแง่มุมมอง
ทั้งในเชิงผลกระทบและในแง่กฎหมาย รวมถึงการเปรียบเทียบความแตกต่างกับค่าเงินดิจิทัล
สกุลอื่นๆจะนำมาเล่าในโอกาสต่อไป