Goldman Sachs วาณิชธนกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เผยรายงานภาพรวมของอุตสาหกรรมเพลง โดยคาดการณ์ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด
19 จะทำให้รายได้ของอุตสาหกรรมเพลงทั่วโลกลดลง 25% ส่วนรายได้ของการแสดงดนตรีสดลดลงมากถึง 75%
จากตัวเลขรายได้ของอุตสาหกรรมเพลง
และรายได้จากการแสดงดนตรีสดทั่วโลกที่ลดลงอย่างมาก จึงส่งผลต่ออุตสาหกรรมดนตรี เนื่องจากมีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อาศัยการแสดงดนตรีสดเป็นช่องทางในการหารายได้หลัก
หากยังมีการแพร่ระบาดของโควิด 19 อยู่ ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักทำให้ต้องมองช่องทางเพิ่มเติมที่จะทำให้ธุรกิจดนตรีเดินหน้าต่อไปได้
นั่นคือการนำ Live Streaming เข้ามาใช้ในการจัดคอนเสิร์ต แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ก็ยังไม่เคยถูกนำมาใช้อย่างจริงจัง ดังนั้นถือเป็นเรื่องท้าทายที่คนดนตรีต้องปรับตัวให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
Live Streaming ขณะนี้มีการไลฟ์สดเพื่อให้ผู้ชมสามารถร่วมสนุกไปกับคอนเสิร์ตได้
แต่คอนเสิร์ตออนไลน์นั้นต่างกันคือจะไม่มีผู้ชมในห้องจัดแสดง แต่จะเป็นผู้ชมที่รับชมผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ
เช่น V
Live, Zoom เป็นต้น ก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่าแอปพลิเคชัน V
Live แอปฯ สัญชาติเกาหลีใต้ที่ได้มีการจัดการแสดงคอนเสิร์ตผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ
ของตัวเอง ที่จะมีทั้ง Effect แสง สี เสียง เพื่อสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ
โดยผู้ชมสามารถเข้าร่วมกับกิจกรรมต้องจ่ายเงินคล้ายกับการซื้อบัตรคอนเสิร์ตแล้วจะได้รับรหัสเพื่อเข้าร่วม
ซึ่งราคาของบัตรนั้นจะแตกต่างกันไปอยู่ที่ค่ายเพลงกำหนด
Live Streaming ธุรกิจดนตรีที่สร้างรายได้มหาศาล
ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของวงการเพลง
ที่ใครจะคาดคิดว่าการจัดคอนเสิร์ตออนไลน์แบบนี้จะสามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล ซึ่งยืนยันได้จากบอยแบรนด์ชื่อดังของเกาหลีใต้อย่างวง
BTS ที่มีแฟนคลับกว่า
7.5 แสนคนทั่วโลก ยอมจ่ายเงินจำนวน 26-35 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับสิทธิ์เข้าชมคอนเสิร์ตแบบ Live Streaming ที่มีชื่อว่า ‘Bang Bang Con The Live’ ส่งผลให้กลายเป็นวงบอยแบรนด์ที่สามารถทำเงินจากคอนเสิร์ตออนไลน์ได้มากที่สุดในเกาหลีใต้ราว
26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ Live Streaming Concert ที่มีชื่อว่า ‘THE SHOW- Live
Streaming Concert’ ครั้งล่าสุดของวง Black Pink ก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน โดยทำเงินได้มากถึง 316 ล้านบาท และนี่ยังไม่นับรวมของที่ระลึกจากคอนเสิร์ตซึ่งสร้างรายได้มากถึง
403 ล้านบาท
ในด้านศิลปินจากตะวันตกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
ก็มีการจัดคอนเสิร์ตแบบออนไลน์เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Katy Perry, Melissa
Etheridge, Josh Groban, The Black Crowes และ Tim McGraw เจ้าพ่อแห่งแนวเพลง Country ที่กำลังจะมีการจัดคอนเสิร์ตออนไลน์ในวันที่
21 สิงหาคม นี้ ซึ่งมีการคาดหมายว่าจะสามารถทำเงินได้อย่างน้อย
2 แสนดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
สำหรับประเทศไทยนักแสดงชื่อดังของช่อง
3 อย่าง กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ก็ได้มีการจัด Live
Streaming Concert ทั้งร้อง เล่น เต้น โชว์
ในรูปแบบ Live Streaming กับประสบการณ์ความบันเทิงที่ส่งความสุขผ่านหน้าจอในยุคโควิด
19 บน CH3Plus Premium ที่จะพาแฟนคลับชาวไทยและต่างประเทศได้ไปสนุกกับทุกโมเมนต์ของ
‘GULF The Next Stage’ เรียกว่าเป็นหนึ่งตัวอย่างคอนเสิร์ตออนไลน์ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเช่นเดียวกัน
ทำอย่าไรให้
Live
Streaming ดึงดูดผู้ชม
การจะทำให้คอนเสิร์ตแบบไร้ข้อจำกัดเรื่องสถานที่และเวลานี้เป็นที่สนใจของผู้ชม
นอกจากชื่อเสียงแบรนด์ดนตรีแล้ว คุณภาพการผลิตก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็น
แสง สี เสียง เทคโนโลยีที่ทันสมัย ความหลากหลายของแพลตฟอร์มในการรับชม
รวมไปถึงโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดใจแฟนเพลงให้ได้มากที่สุด
ที่สำคัญยังเป็นการเปิดทางให้ธุรกิจดนตรีให้สามารถเข้าไปโลดแล่นอยู่ในสื่อออนไลน์ได้อย่างเต็มตัว
สร้างช่องทางใหม่ๆ ในการสื่อสารเพื่อขยายฐานแฟนคลับให้กว้างขึ้น สามารถนำมาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าได้อีกหลายทาง
เช่น การทำ Music
Marketing ร่วมกับสินค้าต่างๆ ในอนาคต
การจัด Live Streaming อาจไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มหรือช่องทางเสริมเพื่อให้ธุรกิจดนตรียังคงมีรายได้ประคองตัวไปจนกว่าสถานการณ์โควิด
19 จะกลับมาเป็นปกติ แต่อาจกลายเป็นช่องทางหลักสำหรับการหารายได้ในอนาคต
เนื่องจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นทำให้เห็นแล้วว่า การจัดคอนเสิร์ตแบบออนไลน์
ก็สามารถสร้างประสบการณ์ ความประทับใจ และส่งตรงความสนุกผ่านหน้าจอให้กับผู้ชมได้ไม่แพ้กับการร่วมงานคอนเสิร์ตจริง
แหล่งอ้างอิง
: https://marketeeronline.co/