เมื่อพูดถึงสินค้ามือ 2 หลายคนอาจจะนึกถึงภาพเชิงลบว่า เป็นของใช้แล้ว-ของเหลือใช้ ต้องเป็นสินค้าประเภท Luxury ที่สินค้ามือหนึ่งมีราคาสูงเกินเอื้อมถึงเท่านั้น ถึงควรจะซื้อ-ขายมือสองได้ แต่หลายปีที่ผ่านมาเกิดปัญหาเกี่ยวกับสินค้ามือสองที่กลายเป็นขยะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จนมาถึงพิษเศรษฐกิจและปัญหาโควิด 19 แพร่ระบาดส่งผลกระทบต่อเงินในกระเป๋าลดลงอย่างต่อเนื่อง ตลาดสินค้ามือสองจึงกลับมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลายคนอีกครั้ง
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
2 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ตลาดสินค้ามือสองได้รับความนิยมอีกครั้ง
กำลังในการซื้อน้อยลง : ผลสืบเนื่องตั้งแต่
2-3 ปี ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ได้เติบโตสูงขึ้นมากเท่าไหร่นัก เหมือนกับดักระเบิดที่ถูกวางทิ้งไว้
พอมาเจอปัญหาโควิด 19 แพร่ระบาดปัญหานั้นก็เลยระเบิดออกมา แม้ว่าจะมีนโยบายจากทางภาครัฐมากระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยบ้าง
แต่ผลกระทบจากที่ธุรกิจขาดสภาพคล่อง-ต้องปิดกิจการ
ทำให้ผู้บริโภครายย่อยได้รับผลกระทบตามไปด้วย ผลค้าปลีกล่าสุดจนถึงช่วงต้นปี 2563
นี้มีความหดตัวลงกว่า 6-9% ส่วนอัตราเงินเฟ้อ
กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ทั้งปี 2563 อาจติดลบ 1.5 ถึง 0.7 (ค่ากลางอยู่ที่ -1.1)
เทรนด์รักษ์โลก : ตั้งแต่ผู้คนเริ่มหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและรักษ์โลกเป็นวงกว้าง
ทำให้เริ่มมีการหันกลับมามองสิ่งของรอบตัวที่เราช้อปในแต่ละวันกันมากขึ้น
หนึ่งในนั้นได้แก่สินค้าประเภท Fast Fashion ส่งผลถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 3.3 พันล้านตันต่อปี คิดเป็นร้อยละ
8 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก อีกหนึ่งทางออกสำหรับการแก้ปัญหานี้ คือหลีกเลี่ยงสินค้ากลุ่ม
Fast Fashion โดยอาจใช้สินค้ามือสองแทน
สถานการณ์ตลาดสินค้ามือสองทั่วโลกและในไทย
ความจริงแล้วตลาดสินค้ามือสองทั่วโลกได้รับความนิยมสูงต่อเนื่องมาตั้งแต่ประมาณปี
2014 จนถึงปัจจุบัน มีการเติบโตและขยายฐานผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งปี
2020 นี้ได้มีการคาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดดสูงถึง 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 7 หมื่นล้านบาท โดยที่ในอนาคต 3
ปีถัดไปอาจเติบโตขึ้นไปแตะที่ 15-20% ได้เลยทีเดียว
โดยที่กลุ่มประเทศที่นิยมตลาดสินค้ามือสองมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มชาวเอเชีย เช่น
จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, เวียดนาม ฯลฯ และเพศที่นิยมซื้อสินค้ามือสองคือ
เพศหญิงมากกว่าเพศชาย ประมาณ 10%
สำหรับสถานการณ์ตลาดสินค้ามือสองเฉพาะภายในประเทศไทยนั้น
ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความสนใจตลาดนี้มาก
มีอัตราการขยายฐานผู้บริโภคสูงขึ้นนับได้เป็น 2-3 หลักต่อปี
โดยสินค้ามือสองที่นิยมนำมาจำหน่ายและซื้อ เป็นสินค้าภายในประเทศและต่างประเทศ
โดยเฉพาะสินค้ามือสองจากประเทศญี่ปุ่นจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษ รองลงมาเป็นสินค้าจากทางฝั่งยุโรป
ระบบตลาดขายสินค้ามือสองในไทย
ภายในตลาดขายสินค้ามือสองภายในประเทศไทย
สามารถแบ่งระบบภายในได้คร่าวๆ ประมาณ 2 รูปแบบ ได้แก่
1) ผู้บริโภค
ซื้อสินค้าใหม่มือหนึ่งจากผู้ประกอบการแบรนด์นั้นมาใช้
แล้วนำมาจำหน่ายต่อให้บุคคลอื่นเมื่อไม่ต้องการ
2) ประกอบธุรกิจ
แบบมีผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศขนส่งเข้ามาเปิดโกดังจำหน่ายในไทย ให้ผู้บริโภค
หรือพ่อค้า/แม่ค้ารายย่อยซื้อไปใช้ หรือจำหน่ายต่อผ่านตลาดออฟไลน์ และ Online Market
โดยในปัจจุบันรูปแบบที่ 2)
ค่อนข้างได้รับความสนใจสูงมาก เนื่องจากสินค้ามือสองจากต่างประเทศ
เป็นสินค้าที่มีสภาพดี ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์คุ้นหูที่หลายคนรู้จัก
และราคาถูกกว่าราคามือหนึ่งหลายเท่า สามารถนำไปจำหน่ายต่อได้กำไรสูง
นอกจากนี้ ยังมีประเภทอื่นๆ
ที่ผู้คนให้ความสนใจไม่แพ้กัน ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
ของใช้ส่วนตัวอย่างเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับ ของแบรนด์เนม ฯลฯ
ตลาดสินค้ามือสอง ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ยังคงน่าสนใจ โดยเฉพาะในปัจจุบันและอนาคตต่อไป เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของการค้ากำไรที่เติบโตขึ้นสวนทางกับเศรษฐกิจโดยรวมเพียงอย่างเดียว แต่ยังถือเป็นอีกธุรกิจที่ช่วยแก้ไขปัญหาขยะครัวเรือน และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมไปจนถึงโลกร้อนได้อีกด้วย