ปัจจุบันคนกลุ่มมิลเลนเนียลเป็นผู้บริโภคที่นักการตลาดให้ความสำคัญ
มีอิทธิพลต่อวงการอาหารและเครื่องดื่มอย่างมาก
เนื่องจากคนกลุ่มนี้ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
และเลือกบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
นำไปสู่การมีข้อมูลที่ชัดเจนบนฉลากของผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากขึ้น
แต่นั่นเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
เหตุผลที่คุณต้องสนใจ คือ
คนกลุ่มนี้มีพลังในการใช้จ่ายมากที่สุดในปัจจุบัน
ในยุคที่มีเดิมพันสูงจากนวัตกรรมเปลี่ยนโลกจะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงรูปแบบของอุตสาหกรรม
ตามการคาดการณ์ของ U.S. Food Market Outlook 2019 การมีเทคโนลยีที่พร้อมรองรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
ความคล่องตัวในการตอบสนองต่อข้อมูลที่คาดการณ์ไว้ และการที่ลูกค้ามีความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จะกลายเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme
เจาะลึกตัวตนของผู้มีอิทธิพลแห่งยุคดิจิทัล
มิลเลนเนียลคือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปีพ.ศ. 2523 - 2539 โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ
45% ของประชากรทั้งหมดในทวีปเอเชียแปซิฟิกในปี
2561 และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 60% ภายในปี 2564 สำหรับประเทศไทยจำนวนประชากรกลุ่มมิลเลนเนียลมีมากถึง
1 ใน 3 ของประชากรในประเทศหรือมากกว่า
20 ล้านคน
พวกเขามีลักษณะที่แปลกและโดดเด่น การมีจุดยืนทางสังคมที่มุ่งมั่น
และการไม่ยึดติดกับแบบแผนหรือประเพณีเดิมๆ
จากผลการวิจัยของ 'มินเทล' บริษัทวิจัยการตลาดจากประเทศสิงคโปร์
ระบุว่า ในปี 2561 คนไทยที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง 79% ต้องการมีโภชนาการที่ดีขึ้น
ในขณะที่ 76% ระบุว่าต้องการจัดสรรสมดุลของชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวมากขึ้น
และ 73% ต้องการหันมาออกกำลังกายให้มากขึ้น
เกือบครึ่งหนึ่ง (48%) ของคนไทยที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองต้องการเริ่มปฏิวัติวิถีการบริโภคในอีก
12 เดือนข้างหน้าเพื่อสุขภาพและการดูแลตนเอง
ในกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้ 90% วางแผนว่าจะรับประทานผักและผลไม้ต่างๆ
ให้มากขึ้น ในขณะที่ 53% ตั้งเป้าที่จะลดการบริโภคเนื้อสัตว์
และ 45% จะเน้นการทานพืชและผักเป็นหลักตามแบบชีวจิตและมังสวิรัต
เฮเลน มาสเตอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์
เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า การจะเข้าใจคนกลุ่มนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
แค่การสังเกตพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้ออย่างเดียวคงไม่พอที่จะทำให้ธุรกิจดำรงความสามารถในการแข่งขันไว้ได้
ธุรกิจอาจจำเป็นต้องปิดตัวลงหากประเมินความต้องการของกลุ่มมิลเลนเนียลผิดพลาด
มีกรณีศึกษาของผู้บริหารกิจการทางอาหารท่านหนึ่งที่เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์
The Wall Street Journal โดยอ้างว่าประชากรกลุ่มมิลเลนเนียลคือผู้ที่มาทำลายธุรกิจปลาทูน่ากระป๋อง
เพียงเพราะพวกเขาเหล่านี้ไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้เปิดกระป๋อง ผู้บริโภคที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวหลายพันคนยืนหยัดและแสดงความคิดผ่านโซเชียลมีเดีย
พวกเขาตอบโต้ด้วยข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับผลกระทบจากก๊าซเรือนกระจก (carbon
footprint) ที่เกิดจากกระบวนการผลิตปลาทูน่ากระป๋อง ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
และอันตรายจากการทำประมงมากเกินไป
ที่สำคัญ อย่าไปมีเรื่องกับคนกลุ่มนี้ในโลกออนไลน์ เพราะคนกลุ่มมิลเลนเนียลเป็นนักเคลื่อนไหวทางสังคมอย่างจริงจัง
มีความสามารถในการขุดค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเพื่อนำมาพิสูจน์ข้อมูลต่างๆ
ได้อย่างแท้จริง
จากรายงานจาก U.S. Food
Market Outlook 2019 ระบุแนวโน้มสำคัญที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มหลายประการที่น่าจับตามองในปี
2562 ดังนี้
-นำเสนอสิ่งที่อยู่ในท้องถิ่น
คนกลุ่มมิลเลนเนียลให้คุณค่ากับอาหารที่ผลิตในท้องถิ่น เช่น
ผักสลัดสดใหม่ที่เป็นผลผลิตในท้องถิ่นและบรรจุกันสดๆ
จึงจำเป็นต้องมีแหล่งเพาะปลูกกระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ มากขึ้น
เพื่อให้สามารถปลูกพืชอาหารได้ทั่วประเทศและมีผลผลิตตลอดทั้งปี
-ยกระดับความเป็นต้นฉบับของแท้ กระแสความนิยมของรายการทีวีเรียลลิตี้โชว์ด้านอาหาร
ซึ่งคนกลุ่มมิลเลนเนียลได้รับชมการประกอบอาหารจากเหล่าพ่อครัวแม่ครัวภายในห้องครัว
มิใช่จากโรงงานแปรรูป ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงเกิดแรงบันดาลใจในการปรุงอาหารในครัวของตัวเอง
ส่งผลให้เกิดผลิตภัณฑ์อาหารแบบเป็นชุดและแบบพร้อมปรุงมากขึ้น
-ผู้เล่นหน้าใหม่กำลังท้าทายผู้ครองตลาดเดิม
ปรกติผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอาหารที่ทำธุรกิจมานานคือผู้ผลักดันนวัตกรรมในอุตสาหกรรม
จนกระทั่งไม่นานมานี้ที่ผู้เล่นหน้าใหม่เริ่มเข้ามาเป็นผู้เปลี่ยนแปลง
การทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ปรากฎขึ้นในผลิตภัณฑ์ประเภท ธัญพืชอัดแท่ง (Energy Bar) ไอศกรีม
โพรไบโอติกส์ และอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของวิตามินหรือเอนไซม์ต่างๆ
-ผู้บริโภคที่ยึดมั่นมโนธรรม ในขณะที่คนกลุ่มเบบี้บูมเมอรส์ชอบอ่านฉลากเพื่อหาข้อมูลด้านแคลอรี่และปริมาณไขมัน คนในกลุ่มมิลเลนเนียลกลับต้องการจะรู้ว่าอาหารนั้นมาจากไหน ปริมาณของก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการผลิต (Carbon Footprint) และการดูแลด้านปศุสัตว์เป็นไปอย่างมีมนุษยธรรมหรือไม่ การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
วิธีมัดใจกลุ่มมิลเลนเนียล
ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมีเครื่องมือทางเทคโนโลยีมากมายที่สามารถช่วยให้เข้าใจและตอบสนองความคาดหวังของคนกลุ่มมิลเลนเนียลได้
คนรุ่นนี้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและคุ้นเคยกับการได้รับการตอบสนองและความพึงพอใจทันทีเพียงคลิกเมาส์
ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงผู้บริโภคเหล่านี้ได้ ณ จุดที่พวกเขาสะดวกที่สุด
นั่นคือผ่านโทรศัพท์มือถือระหว่างที่เขาเดินอยู่ตามทางเดินของร้าน
ผ่านแท็บเล็ตหรือแล็ปท็อปที่บ้าน
นอกจากนี้ อีคอมเมิร์ซ ออนไลน์พอร์ทัล เว็บไซต์ การสำรวจ
จดหมายข่าว พอดแคสต์ และโซเชียลมีเดีย คือเครื่องมือที่ผู้ผลิตไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่สามารถใช้ประโยชน์ได้
รวมทั้งการให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิด
หมายถึงการรับฟังสิ่งที่ลูกค้าต้องการอย่างตั้งใจ และตอบสนองในเวลาที่เหมาะสม
โชคดีที่คนกลุ่มมิลเลนเนียลเป็นคนที่ยินดีที่จะบอกว่าเขาต้องการอะไร
พวกเขาเป็นคนที่กล้าพูด กล้าแสดงออกถึงความคาดหวังของตนอย่างชัดเจน
แต่ผู้ผลิตพร้อมหรือยังที่จะรับฟังและลงมือทำ
ผู้บริโภคที่ช่างเลือกในปัจจุบันจะตัดสินใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ คุณค่า
และความยั่งยืนอย่างชาญฉลาด
ดังนั้นผู้ผลิตจำเป็นต้องทำตัวให้ทันสมัยอยู่เสมอ สร้างความสัมพันธ์ที่ดี มุ่งเป้ากับนวัตกรรม และสร้างความพึงพอใจให้ผู้บริโภควัยหนุ่มสาวเหล่านี้ พวกเขายังคงมีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มต่อไปอีกหลายสิบปี