ตลอดปี 2563 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลกซบเซาอย่างหนัก เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แต่ปี 2564 หลายฝ่ายคาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในเชิงท่องเที่ยวยุควิถีชีวิตแบบใหม่ (New Normal) ซึ่งยุคนี้ก็มีคำถามมากมายว่านักท่องเที่ยวทั่วโลกและไทยนั้นจะมีพฤติกรรมการท่องเที่ยวแบบไหน แนวโน้มเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างไร จุดหมายปลายทางที่เปลี่ยนแปลงไปเช่นไร ดังนั้นผู้ประกอบการที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยจากผลสำรวจของ Booking.com ผู้นำเกี่ยวกับการสำรวจธุรกิจการท่องเที่ยวด้านเทคโนโลยีดิจิทัลระดับโลก เปิด 5 สไตล์การท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มจะมาแรงในปี 2564 ดังนี้
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. ฉายเดี่ยวก็เที่ยวได้
การเดินทางตะลุยท่องเที่ยวคนเดียวจะกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงในอนาคต
เพราะในช่วงปีที่ผ่านมาการเดินทางได้ถูกตั้งกฎเกณฑ์ไว้มากมายแต่มิอาจหยุดยั้งได้
ทำให้ผู้คนเริ่มคิดถึงการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น และเป็นแรงผลักดันให้ออกไปลุยท่องเที่ยวคนเดี่ยวในปี
2564
ก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด Booking.com รายงานผลสำรวจพบว่ามีผู้เดินทางชาวไทยเพียง
17% เท่านั้นที่วางแผนเที่ยวแบบลุยเดี่ยว ซึ่งแตกต่างกับผลสำรวจล่าสุดที่ผู้เดินทางจำนวนถึง
40% วางแผนจะลุยเที่ยวคนเดียวสะดวกสบาย และผู้เดินทาง 51% ต้องการเดินทางมากขึ้นในอนาคต เพื่อชดเชยเวลาที่เสียไปในปี 2563
นี่คือแรงขับเคลื่อนหลักที่กระตุ้นให้ผู้เดินทางอยากออกไปท่องเที่ยวแบบลุยเดี่ยวแบบแบกเป้สักครั้งในชีวิต
2. ขอเพียงได้ผ่อนคลาย
หลังจากทริปต่างๆ
ได้ถูกยกเลิกจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคร้าย
ทำให้ตอนนี้ผู้คนต่างรู้สึกว่าแค่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจก็เกินพอแล้ว
โดยผู้เดินทางชาวไทย 77%
ตั้งมั่นว่าในอนาคตจะไม่มองข้ามคุณค่าของการเดินทางอีกแล้ว แม้ผลสำรวจจะแสดงให้เห็นว่าผู้เดินทางยังคงปรารถนาที่จะได้เดินทางอีกครั้ง
แต่มีเพียง 8% เท่านั้นที่วางแผนเพื่อไปท่องเที่ยวพักผ่อนสุดหรู
(เช่น การพักในวิลลาหรือโรงแรม 5 ดาว) เพื่อกำไรของชีวิตในยุคที่โรงแรมอัดแคมเปญลดแหลกแจกแถม
ส่วนอีก 48% วางแผนท่องเที่ยวเพื่อได้ใช้เวลาผ่อนคลายและหลีกหนีความวุ่นวายต่างๆ
แสดงให้เห็นว่าการได้พักผ่อน คือความปรารถนาที่แท้จริงของผู้เดินทางในปี 2564
3. ตัวอยู่ไกลแต่ใจใกล้กัน
ในช่วงปี 2563
ผู้เดินทางจำนวนมากถูกแยกอาศัยกับครอบครัวและเพื่อนฝูงเป็นเวลานาน
ทำให้หลายคนรู้สึกเหงาและจิตใจห่อเหี่ยว ทำให้ผู้เดินทางชาวไทย 78% วางแผนใช้การเดินทางในอนาคต เพื่อจะมีโอกาสได้พบปะและเชื่อมสัมพันธ์กับคนที่รักและเพื่อนฝูงอีกครั้ง
อันที่จริงแล้วในขณะที่ต้องอยู่ไกลกันนั้น ผู้เดินทาง 38% ซึ่งหนึ่งในแรงบันดาลใจหลักๆ
ที่ทำให้อยากเดินทางอีกครั้ง คือการได้พูดคุยเรื่องท่องเที่ยวกับเพื่อนๆ
และครอบครัว
4. เที่ยวสนุกสุดสัปดาห์
ผู้เดินทางจำนวนมากกังวลกับความไม่แน่นอน ที่อาจส่งผลต่อการเดินทางท่องเที่ยวของพวกเขาอีกครั้ง ทำให้ความต้องการที่จะเที่ยวในช่วงเวลาสั้นๆ เพิ่มมากขึ้น โดยผู้เดินทางชาวไทยเกินครึ่ง หรือ 62% ต้องการไปเที่ยวพักผ่อนที่มีระยะสั้นลงในปี 2564 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดี่ยวกันในปี 2562 เพื่อลดความผิดหวังที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทาง แต่อีก 44% คิดถึงการท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์มาเป็นอย่างแรกไม่ไกลมากนัก หลังมีการยกเลิกมาตรการจำกัดการเดินทางในประเทศ ทำให้เห็นว่าผู้เดินทางมีความต้องการอย่างมากที่จะหลบไปพักใจจากโลกแห่งความเป็นจริง แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่วันก็ตาม
5. เที่ยวด้วยอร่อยด้วย
ความต้องการในการออกไปสำรวจโลกกว้างของผู้เดินทางชาวไทยไม่ได้ลดน้อยลง
แต่คนส่วนใหญ่ยังหลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ 77% เนื่องด้วยมาตรการจำกัดการเดินทางสำหรับการเดินทางต่างประเทศที่ยังคงเข้มงวด
ด้วยเหตุนี้การเที่ยวในประเทศจึงกลายเป็นวิถีใหม่สำหรับผู้เดินทาง โดยการได้ไปตระเวนชิมอาหารเลิศรส
เป็นสิ่งที่คนอยากทำเป็นอันดับต้นๆ โดยผู้เดินทางชาวไทย 52%
อยากลิ้มรสและดื่มด่ำกับเมนูขึ้นชื่อในท้องถิ่นระหว่างทริปเดินทาง ส่วนอีก 36% อยากออกไปร้านอาหารบ่อยขึ้นเพราะมีเงินเก็บจากการงดไปทริปต่างประเทศ
การท่องเที่ยวภายในประเทศไทยยังคงมีแนวโน้มที่ดี
โดยประเทศไทยยังคงเป็นที่นิยมและเป็นประเทศที่ถูกค้นหามากที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย