เครื่องมือยุคดิจิทัล ทำให้เป็นโรคอ้วน?!

โรคอ้วนนี่เป็นโรคที่นำพาปัญหาสุขภาพต่างๆ มาเยอะมาก และมั่นใจเลยว่าไม่ว่าใครก็ไม่อยากจะมีหุ่นที่เกินงามแน่นอน เพราะไม่เพียงแค่ปัญหาด้านสุขภาพ แม้แต่ปัญหาด้านจิตใจเองก็รับมือยากไม่แพ้กันแล้ว เพราะไหนจะต้องมาลำบากกับการเลือกชุด ไหนจะต้องมาหมดความมั่นใจเวลาจะทำอะไร กลัวจะดูไม่ดี ซึ่งคนในโลกยุคปัจจุบันมีแนวโน้มจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนสูงมาก ด้วยเหตุผลที่ว่าโลกใบนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากจนเกินไปนั่นเอง! นี่อาจเป็นเพียงข้อสมมุติฐานแต่เรามาดูกันว่ามันมีมูลเหตุหรือไม่

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme 

เทคโนโลยียุคใหม่ ทำให้คนขยับตัวน้อยลง

สิ่งอำนวยความสะดวกบนโลกเราถูกผลิตคิดค้นขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวัน ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยอย่างพวกโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต ตลอดจนเครื่องมออำนวยความสะดวกต่างๆ สิ่งเหล่านี้มักจะดูดเวลาในการใช้ชีวิตของเราอย่างมาก ในวันหนึ่งเราแทบจะไม่ต้องทำอะไร สามารถนั่งอยู่กับที่และจัดการทุกสิ่งอย่างผ่านเจ้า 3 ชิ้นนี้ได้เลย

ตรงนี้มันทำให้เกิดปัญหาใหญ่ เพราะมีการศึกษาจากรัฐเท็กซัสออกมาบอกเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ขนาดรอบเอวของคนเราจะเชื่อมโยงกับการใช้งานสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เมื่อมีอุปกรณ์ดิจิทัลมากขึ้น ขนาดตัวของคนเรา น้ำหนักตัวของคนเราก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

เรื่องนี้เป็นเรื่องซีเรียสมากๆ ขนาดที่องค์การอนามัยโลกเองยังให้ความสนใจและได้จัดทำสถิติชุดตัวเลขเกี่ยวกับโรคอ้วนขึ้นมาเลยนะ ซึ่งในปัจจุบันมีประชากรชาวโลกที่เกิดโรคอ้วนเพิ่มมากขึ้นกว่าในปี 2518 ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว! 

ปัจจัยอะไรที่ทำให้คนยุคปัจจุบันมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น

เป็นเรื่องน่าสนใจมากว่าทำไมคนในโลกยุคปัจจุบันที่มีการศึกษาในเรื่องสรีระร่างกาย และเข้าถึงแหล่งความรู้ในการดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพ และในการควบคุมน้ำหนักได้ดีกว่าในอดีต ถึงมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอย่างน่าตกใจ ซึ่ง Richard Lopez นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Rice ได้ศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นมา กับพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลของมนุษย์เราหลายๆ อย่างพร้อมกัน

ซึ่งพบว่าคนที่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลหลายๆ อย่างพร้อมกันมีความเสี่ยงสูงมากที่จะกลายเป็นโรคอ้วน เพราะพวกเค้าเหล่านั้นสมองจะมีการสั่งการที่แตกต่างจากคนทั่วไป ซึ่งจะทำให้สมองส่วนหน้าซึ่งเป็นส่วนควบคุมตัวเองนั้นทำงานได้น้อยลง เมื่อเห็นอาหารจึงเกิดความรู้สึกอยากกิน และขาดซึ่งความยับยั้งชั่งใจในทันที

แตกต่างจากคนที่ห่างไกลเทคโนโลยีที่สมองส่วนที่ควบคุมตัวเองยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยเหตุนี้นักวิจัยจึงมองว่าคนที่ทำงานโดยใช้อุปกรณ์หลายๆ อย่างพร้อมกันนั้น เป็นคนที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เพราะส่งผลโดยตรงเกี่ยวกับการพัฒนาสมองของคนเหล่านี้นั่นเอง 

เทคโนโลยีทำให้มนุษย์เรานั่งติดที่

สิ่งที่น่ากลัวคือ ไม่เพียงแต่ผู้คนในต่างประเทศเท่านั้นที่กำลังประสบปัญหาโรคอ้วน แต่คนไทยเองก็เช่นกันครับ ซึ่งรายงานสุขภาพคนไทยในปี 2557 บอกว่า คนไทยมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 2 เท่าในรอบ 20 ปี ซึ่งถือว่าสูงมาก และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสาเหตุที่เค้าวิเคราะห์กันเพราะเทคโนโลยีในโลกที่พัฒนามากขึ้น ทำให้คนเป็นโรคติดเก้าอี้มากขึ้นตามไปด้วย

มนุษย์เราจะถูกตรึงอยู่กับที่ด้วยการใช้เทคโนโลยีมากกว่าเดิม จากเด็กๆ ที่เคยวิ่งเล่นในสนาม หรือออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ก็เปลี่ยนนิสัยมาเล่นโทรศัพท์ ดูไอแพด ดูยูทูป นั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์มากขึ้น ทำให้การออกกำลังกายน้อยลง ที่สำคัญกิจกรรมเหล่านี้มักจะมาพร้อมกับน้ำ และขนมในมือซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มขีดความอ้วนให้สูงขึ้นอีกด้วย

รบกวนการนอนหลับ

สุดท้ายแล้ว ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีจะทำให้มนุษย์เรามีความสะดวกสบาย และความดูดวิญญาณให้นั่งติดที่เท่านั้นนะ แต่มันยังรบกวนการนอนหลับพักผ่อน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาสมดุลร่างกายให้เผาผลาญพลังงานทิ้งไป และไม่ให้เกิดโรคอ้วนตามมา ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ทีวี แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งสามารถนำไปไว้ในห้องนอนได้ ก็จะเพิ่มโอกาสในการเกิดผลเสียทั้งต่อตัวเด็กและผู้ใหญ่ได้พร้อมๆ กัน

เพราะในช่วงกลางคืนถ้าได้รับแสงจากหน้าจอมากเกินไป ก็จะส่งผลให้ร่างกายเกิดการนอนหลับยาก นอนหลับไม่เต็มอิ่ม เมื่อร่างกายนอนไม่พอก็จะทำให้ฮอร์โมนที่ชื่อว่า Ghrelin ที่ควบคุมความหิวของเราเพิ่มมากขึ้น และในทางกลับกันการนอนไม่พอก็จะไปลดฮอร์โมนควบคุมความอิ่มที่ชื่อว่า Leptin ลงเท่ากับว่าร่างกายของเราจะหิวอาหารอยู่ตลอดเวลา เป็นผลกระทบจากเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดโรคอ้วนและเป็นปัญหาระดับชาติในทุกวันนี้นี่เอง ดังนั้น ใช้เท่าที่จำเป็นจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและหมั่นหากิจกรรมอย่างอื่นทำนอกเหนือจากการนั่งไถจอสมาร์ทโฟนทั้งวัน ...ด้วยความปรารถนาดี 

อาหารที่มีผลต่อการ 'นอนหลับ' รู้แล้วจะหลับสนิทเลย

“Functional Foods” ตลาดนี้ โตได้อีกถ้ารู้ ‘เทรนด์’