E-Commerce ในประเทศไทยที่เติบโตอย่างมากในปัจจุบัน
แต่ใครจะคาดคิดว่าภายใต้การเติบโตของตลาด
จะนำมาซึ่งขยะบรรจุภัณฑ์จำนวนมหาศาลเพิ่มขึ้นตามมา
ด้วยเหตุนี่เรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเจ้าของแบรนด์ต่างๆ ที่คุ้นเคยกับการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์สำหรับการขายปลีกในร้านค้า
และต้องเจอกับการเปลี่ยนไปของความต้องการที่ฉับพลัน ดังนั้นจึงมีหลายปัจจัยที่เจ้าของแบรนด์ต้องพิจารณาในการทำบรรจุภัณฑ์สำหรับ
E-Commerce ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย
ซึ่งมีแนวคิดและวิธีที่น่าสนใจ อาทิเช่น
การใช้บรรจุภัณฑ์ชนิดยืดหยุ่น หรือ Flexible Packaging ที่มีเอกลักษณ์ความพิเศษเฉพาะตัว คือการขึ้นรูปจากฟิล์มพลาสติกหลายชั้น ยกตัวอย่างเช่น ถุงแบบตั้งได้ (Stand-Up Pouches) ถุงซิป (Re-Closable Packs) ฯลฯ จึงมั่นใจได้ในความแข็งแรงและประโยชน์มากมาย ได้แก่ ทนความร้อน เก็บกลิ่นไว้ได้นาน ห่อหุ้มสินค้าสบาย ไม่แตกหักง่าย น้ำหนักหีบห่อเบาลง และประหยัดพื้นที่และค่าขนส่ง ซึ่งปัจจุบันบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
อย่างไรก็ตาม การออกแบบบรรจุภัณฑ์ในปัจจุบันสำหรับการจัดส่งสำหรับ E-Commerce อาจควรพิจารณาประเด็นเหล่านี้ด้วย
1. ความสะดวกสบายและความยั่งยืน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้บริโภค ในปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญในเรื่องของความสะดวกและความยั่งยืนของสินค้าและบริการเป็นหลัก
ส่งผลให้ผู้ค้าปลีกและผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ มีการลงทุนและวิจัยเพิ่มเติม เพื่อทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนมีความยั่งยืนมากขึ้น
2. รูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่เล็กลง นอกจากจะช่วยลดต้นทุนและลดปริมาณขยะแล้ว
ยังช่วยลดการบริโภคเกินความจำเป็นได้อีกด้วย แถมยังประหยัดพื้นที่จัดเก็บและขนส่ง
3. บรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อสินค้า หลักในการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ต้องปลอดภัยต่อการกระแทก ช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการรักษาความปลอดภัยในการขนส่ง
หรือป้องกันการฉีกขาดที่ไม่ได้ตั้งใจ
ซึ่งความปลอดภัยของสินค้านับเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับ E-Commerce
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ระบุถึง อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับคำสั่งผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงโควิด
19 รัฐมีมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ตัวเลขเดือนมีนาคมยอดผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อบรรจุอาหารเพิ่มขึ้นถึง
200-300% เพื่อใส่อาหารส่งให้ลูกค้าที่สั่งอาหารทางออนไลน์ ทั้งมีการคาดการณ์ว่าปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น
3.2-3.3 แสนล้านบาท
ขณะที่บรรจุภัณฑ์สำหรับใส่เจลล้างมือและแอลกอฮอล์เป็นสินค้าจำเป็นในการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน
ได้รับคำสั่งผลิตเพิ่มเมื่อเดือนมีนาคม 300% แม้ว่าโรงงานจะผลิต 24 ชั่วโมงแล้ว
แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ บางส่วนจึงจำเป็นต้องนำเข้าจากประเทศจีน
ตลาดนี้นับว่ามีสีสันต์ขึ้นมากทีเดียว ซึ่งจากเดิมที่จะดูเหมือนไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรนัก แต่เมื่อมีกระแสอีคอมเมิร์ซบวกกับการระบาดของโควิด 19 ทำให้อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์กลับเป็นอีกกลุ่มที่มีการเติบโตได้ดีสวนกระแสเศรษฐกิจในขณะนี้ แต่ผู้ประกอบการและนักออกแบบต้องไม่ลืมเรื่อง ‘เทรนด์’ รักษ์โลกด้วย เพราะบรรจุภัณฑ์ที่ดียุคนี้ยังต้องให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน
สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อ Bualuang
Green<<