เรียนรู้ Model Business จากผู้พัฒนาปาล์มสายพันธุ์ดี ที่ส่งต่อความรู้ให้เกษตรกรไทยสู่ความยั่งยืน

SME in Focus
24/10/2024
รับชมแล้วทั้งหมด 60 คน
เรียนรู้ Model Business จากผู้พัฒนาปาล์มสายพันธุ์ดี ที่ส่งต่อความรู้ให้เกษตรกรไทยสู่ความยั่งยืน
banner
หากพูดถึง พลังงานทดแทน เทรนด์ที่กำลังเป็นที่สนใจและมีความสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน การมองหาพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างมูลค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง บทความนี้ Bangkok Bank SME ชวนไปทำความรู้จักกับ คุณจักรชลัช พิบูลธรรมศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด ที่ก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน โดยมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพต้นพันธุ์และการผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้น และสร้างความยั่งยืนให้กับเกษตรกร เขามีวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจปาล์มน้ำมันในอนาคต รวมถึงบทบาทที่สำคัญในการสนับสนุนเกษตรกรไทยให้ก้าวสู่ความสำเร็จอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้


ก้าวแรกในธุรกิจปาล์มน้ำมัน

คุณจักรชลัช กล่าวว่า ธุรกิจเราเริ่มต้นจากรุ่นอากง ซึ่งท่านปลูกสวนยางและปาล์มน้ำมันในจังหวัดสตูล ตั้งแต่ปี 2530 จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในการทำสวน ทำให้เล็งเห็นว่า ปาล์ม จะเป็นพืชเศรษฐกิจด้านพลังงานทดแทนที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต ประกอบกับขณะนั้น ตลาดในประเทศยังไม่มีผู้ผลิตแปลงเพาะปาล์มที่ได้มาตรฐาน บริษัทจึงเริ่มบุกเบิกการทำธุรกิจแปลงเพาะในปี 2548 เพื่อคัดสรรเมล็ดปาล์มสายพันธุ์ดี 
 


บริษัทไม่ได้เป็นผู้พัฒนาสายพันธุ์ปาล์มน้ำมัน แต่เราเป็นผู้นำเข้าพันธุ์ปาล์มคุณภาพสูงจากประเทศคอสตาริกาและมาเลเซีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพันธุ์ปาล์มชั้นนำของโลก แม้ว่าในประเทศไทยจะมีผู้พัฒนาพันธุ์ปาล์มเพียงไม่กี่ราย แต่บริษัทฯ มีความแตกต่างที่สำคัญคือกระบวนการคัดเลือกต้นกล้าที่เข้มงวด

จากเมล็ดพันธุ์จำนวน 100 เมล็ด เมื่อนำมาเพาะปลูก เราจะคัดเลือกต้นกล้าที่แข็งแรงและมีคุณภาพสูงเท่านั้น โดยจะคัดทิ้งต้นกล้าที่เป็นโรคหรือมีลักษณะผิดปกติประมาณ 25% ทำให้ได้ต้นกล้าที่แข็งแรงสมบูรณ์นำไปปลูกในสวนเกษตรกร เมื่อเติบโตขึ้นต้นปาล์มเหล่านี้จะมีผลผลิตที่สูงและมีคุณภาพดี

จุดเด่นของบริษัท คือการมุ่งเน้นคุณภาพของต้นกล้าในทุกขั้นตอน ซึ่งแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นที่อาจไม่คัดเลือกต้นกล้าอย่างเข้มงวด ส่งผลให้เกษตรกรได้รับต้นกล้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือพบอาการผิดปกติ และอาจส่งผลต่อผลผลิตในระยะยาว ทำให้ได้ผลผลิตต่ำกว่าที่คาดหวัง เช่น ต้นปาล์มไม่ออกทะลาย, ต้นปาล์มออกแต่ช่อดอกเพศผู้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรอย่างมาก
 


ธุรกิจปาล์ม กับการต่อยอดไลน์ธุรกิจอื่น

ปัจจุบัน บริษัทมีธุรกิจแปลงเพาะกล้าและสวนปาล์มน้ำมัน ทั้งภาคใต้ คือ ชุมพร  สุราษฎร์ธานี สงขลา สตูล พัทลุง นครศรีธรรมราช และภาคกลาง คือนครนายก กับปราจีนบุรี ไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าสู่ธุรกิจจำหน่ายปุ๋ย คุณภาพสูง ราคาถูก โดยซื้อจากดีลเลอร์เพื่อจำหน่ายให้กับเกษตรกร 

นอกจากนั้น ได้ลงทุนร่วมกับบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) โดยเข้าไปถือหุ้นบางส่วน ดำเนินงานร่วมกับบริษัทในเครือ ทำโรงงานหีบน้ำมันปาล์มที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลิตไบโอดีเซล กลีเซอรีน น้ำมันพืชเพื่อบริโภค และโรงไฟฟ้าข้างในมีไบโอแก๊ส ที่มีระบบแบบครบวงจร อีกทั้งได้ตั้งบริษัทใหม่ เพื่อผลิตเมล็ดกาแฟคั่ว จัดส่งเมล็ดกาแฟให้กับร้านกาแฟพันธุ์ไทย 

 

อุปสรรคของภาคธุรกิจการเกษตรไทย

คุณจักรชลัช  สะท้อนมุมมองว่า ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันกำลังเผชิญ คือขาดแคลนแรงงาน เกษตรกรอายุมาก ลูกหลานไม่รับช่วงต่อ ขาดความรู้ในการบริหารจัดการสวน และผลผลิตที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการเกษตร บริษัทจึงได้พัฒนาระบบการดูแลสวนปาล์มแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


 
ขณะนี้บริษัทกำลัง Transforms ธุรกิจไปสู่การเป็น Service Provider ภารกิจหลักคือ การเชื่อมโยงสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน พร้อมให้คำปรึกษาจากประสบการณ์ที่เรามี เพื่อยกระดับเกษตรกรรมไทยให้ดีขึ้น

บริการของเรา ครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพดิน สำรวจพื้นที่ วางแผนการใส่ปุ๋ย การควบคุมโรคและแมลง ไปจนถึงการเก็บข้อมูลผลผลิต ค่าใช้จ่าย กำไรจากสวนปาล์ม 

เรามีแผนที่จะให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่ผลิตต้นกล้า ปลูก ดูแล เก็บเกี่ยว รับซื้อผลผลิต แก้ไขปัญหา และให้คำปรึกษาการจัดการสวน รวมถึงพัฒนาแอปพลิเคชัน “PalmMate”  ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เกษตรกรสามารถติดตามและควบคุมการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ให้ดาวน์โหลดใช้งานฟรี! อีกด้วย

 

เกษตรกรกับการ Transforms สู่เทคโนโลยี

การเปลี่ยนแปลงในภาคเกษตร โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเกษตรกร ค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากความเชื่อและวิธีการแบบดั้งเดิม อาจต้องใช้เวลานานในการปรับตัว โดยเราส่งทีมนักวิชาการ ลงพื้นที่เข้าไปช่วยเกษตรกรวางแผนเบื้องต้นและติดตามขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น เช่น ดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการตรวจดิน ซึ่งมีสองระดับในการตรวจสอบ ระดับแรก คือการวัดค่า pH ดิน (การทดสอบดิน) เพื่อจะบอกได้ว่า ดินพื้นที่นั้น เหมาะสมกับการปลูกหรือไม่ ต้องทำการปรับปรุงดินอย่างไร โดยวิเคราะห์จากชุดตรวจของกรมวิชาการเกษตร ส่วนระดับที่ 2 เหมาะสำหรับลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องส่งตัวอย่างดินไปที่ห้องแล็บเพื่อตรวจสอบ เพื่อให้ทราบธาตุอาหารในดิน NPK (ความสมบูรณ์ของดิน) เพื่อปรับสูตรปุ๋ยให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการใส่ปุ๋ยได้มาก 

“ความตั้งใจของผมคืออยากให้ผลผลิตของไทยสูงขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศมาเลเซีย ผลผลิตของไทยอยู่ที่ประมาณ 3 ตันต่อไร่ ขณะที่มาเลเซียอยู่ที่ 4-5 ตันต่อไร่ อย่างไรก็ตาม โครงสร้างเกษตรกรไทยก็แตกต่างกัน โดยไทยมี 95% เป็นเกษตรกรรายย่อย ขณะที่มาเลเซียมี 70% เป็นเกษตรกรรายใหญ่ ซึ่งแต่ละคนอาจมีที่ดินจำนวนหลายไร่ ทำให้การบริหารจัดการแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เรา เข้าพื้นที่เพื่อแนะนำและให้ความรู้สู่เกษตรกร”

 

นวัตกรรมใหม่ ในธุรกิจปาล์มน้ำมัน

การปลูกปาล์มน้ำมันแบบเดิม มักประสบปัญหาเรื่องโรคและแมลง ก่อนหน้านี้ต้องใช้แรงงานคนในการฉีดยาฆ่าแมลง โดยเฉพาะเมื่อมีการระบาดของหนอน ที่มีการระบาดรวดเร็วและการทำลายรุนแรง ซึ่งการใช้แรงงานคน ทำได้ช้า และควบคุมการระบาดได้ไม่ดี ปัจจุบัน เราเริ่มนำโดรนเข้ามาใช้ในการฉีดพ่น ทำให้การจัดการรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังนำเครื่องหว่านปุ๋ยเข้ามาใช้เพื่อให้กระบวนการใส่ปุ๋ยทำได้เร็วขึ้น 

 

เราประสบปัญหาเรื่องถนนในสวนปาล์ม ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีและนครนายก เนื่องจากพื้นที่เป็นที่นาเก่า ในฤดูฝนถนนในสวนปาล์มจะเละ ทำให้ต้องซื้อเครื่องจักรที่เป็นรถตีนตะขาบเข้ามา เพื่อไม่ให้ล้อจมในดินและรากของปาล์มไม่เสียหายนอกจากนี้ เรายังนำระบบฮุคลิฟท์มาใช้ จะนำผลผลิตเทใส่กระบะที่วางประจำแต่ละแปลง แล้วให้รถสิบล้อมาเกี่ยวกระบะ บรรทุกไปเทที่จุดรวบรวม  ทำให้ลดปัญหาแรงงาน ลดระยะเวลาการเก็บผลผลิต และความสึกหรอของเครื่องจักรขนาดเล็ก เช่น แทรกเตอร์ หรือ ตีนตะขาบที่ต้องวิ่งในระยะไกลได้มากขึ้น

 

จากประสบการณ์ที่เราอยู่ในธุรกิจนี้มา 20 ปี ผมมองว่า ความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากการเลือกสายพันธุ์แท้การลงทุนกับเรื่องคุณภาพ มีบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า

“คุณภาพสินค้า ขึ้นอยู่กับการคัดเลือกและมาตรฐานการปลูก ต้องดูแลอย่างเหมาะสม ถ้าปลูกติดกันเกินไป อาจทำให้คุณภาพไม่ดีพอ สำหรับบริการหลังการขายที่เรามีให้ลูกค้า คือหากคุณซื้อกล้าปาล์มจากเรา แล้วหากพบปัญหา เราให้คำปรึกษาฟรีตลอดอายุการปลูก หากพบอาการผิดปกติ เรารับเคลมให้ 100% มารับต้นใหม่ได้เลย”

 

Knowledge Sharing

จากมุมมองของผม ปัญหาหลักที่ทำให้การเกษตรในประเทศไทยพัฒนาช้ากว่าที่ควรจะเป็น คือการขาดความจริงจังในการวิจัยและพัฒนา โดยมุ่งเน้นที่ระยะสั้นและให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานน้อยเกินไป ในด้านการพัฒนาปาล์มน้ำมัน ผมต้องการพัฒนาด้าน R&D ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปเราจะจัดการสวนปาล์มเหมือนเดิมไม่ได้ 
 


เราจึงสร้างแปลงสาธิตเพื่อทดสอบสายพันธุ์ปาล์มน้ำมัน โดยเก็บข้อมูลผลผลิตและการตอบสนองของแต่ละสายพันธุ์ต่อสภาพพื้นที่ที่แตกต่าง รวมถึงศึกษาดูงานกับหน่วยงานราชการและกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาการเพาะพันธุ์ต้นกล้าที่มีคุณภาพ และวิธีการจัดการสวนปาล์มที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้เกษตรกรอย่างถูกต้อง เป็นการปูทางสู่การสร้างความยั่งยืนให้เกษตรกรไทย 

นอกจากไม่หยุดพัฒนา เรายังพยายามแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับเกษตรกร โดยเริ่มจากช่องทางออนไลน์ เช่น คลิปความรู้ใน YouTube และ ไลฟ์สดผ่าน Facebook ตอบคำถามเกี่ยวกับการบริหารจัดการสวนปาล์ม และช่องทาง TikTok อีกทั้งมีการลงพื้นที่ตรวจสอบและจัดคอร์สอบรมเกษตรกรระยะสั้น ทีมงานเราทุ่มเทในการสำรวจและดูแลลูกค้า ไม่เพียงแค่ขายแล้วจบ แต่เรามีการดูแลหลังการขายเป็นอย่างดี

ล่าสุดเราได้ส่งเสริมการปลูกกาแฟที่เชียงใหม่ พบเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดและกะหล่ำ ซึ่งเลือกปลูกพืชอายุสั้นเพราะต้องหาเงินใช้หนี้ ผมมองว่าเราต้องสร้างระบบการเกษตรที่ยั่งยืนมากขึ้น การแก้ปัญหาระยะสั้นไม่ตอบโจทย์การพัฒนาความเป็นอยู่และการเติบโตของเกษตรกรไทย

ติดตาม บริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด เพิ่มเติมได้ที่

FBเพจปาล์ม: https://www.facebook.com/rdkaset
FBเพจปุ๋ย: https://www.facebook.com/rdfertilizer


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

จาก YouTuber ช่องดัง สู่การสร้างแบรนด์ชานมไข่มุก BEARHOUSE และ SUNSU เจาะกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงานที่อยากใส่ใจสุขภาพ และยังรักการกินขนม

จาก YouTuber ช่องดัง สู่การสร้างแบรนด์ชานมไข่มุก BEARHOUSE และ SUNSU เจาะกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงานที่อยากใส่ใจสุขภาพ และยังรักการกินขนม

จาก YouTuber ที่เคยรีวิวของเล่นจนสร้างชื่อเสียงและมีผู้ติดตามจำนวนมาก สู่การเป็นเจ้าของร้านชานมไข่มุกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช…
pin
2 | 10/02/2025
บ่มเพาะรสสัมผัสจากประวัติศาสตร์ อัตลักษณ์แห่งนครพนม ส่วนผสมจากต้นหว้าสู่ความยั่งยืน ฟื้นคืนแลนด์มาร์คสู่การเรียนรู้

บ่มเพาะรสสัมผัสจากประวัติศาสตร์ อัตลักษณ์แห่งนครพนม ส่วนผสมจากต้นหว้าสู่ความยั่งยืน ฟื้นคืนแลนด์มาร์คสู่การเรียนรู้

จากดินแดนต้นหว้า (Jambolan Tree) กว่า 500 ปี ตั้งแต่ยุคบุกเบิกสู่ความภาคภูมิใจใหม่ในการฟื้นฟูพืชถิ่นในอดีตที่ถูกรักษาไว้ ไปจนถึงการต่อยอดและพัฒนา…
pin
8 | 06/02/2025
ขับเคลื่อนเกษตรกรไทยด้วยแนวทาง 2 Q เปิดสวิตช์ติดเครื่อง ฟื้นคืนวัฏจักร ผลักดันสู่อาเซียน

ขับเคลื่อนเกษตรกรไทยด้วยแนวทาง 2 Q เปิดสวิตช์ติดเครื่อง ฟื้นคืนวัฏจักร ผลักดันสู่อาเซียน

แม้ในปัจจุบัน มนุษย์จะมีองค์ความรู้มากขึ้นเพียงใดก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าในแทบทุกวงการ มนุษย์ก็ต้องการเครื่องทุ่นแรง เพื่อมาช่วยเหลือในเรื่องต่าง…
pin
5 | 05/02/2025
เรียนรู้ Model Business จากผู้พัฒนาปาล์มสายพันธุ์ดี ที่ส่งต่อความรู้ให้เกษตรกรไทยสู่ความยั่งยืน