การมีบุคลิกภาพที่ดี เดินนั่งหลังตรง
ศีรษะตั้งตรง ไม่ใช่แค่ทำให้ดูดี แต่ยังหมายถึงผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย
ฉะนั้นการให้ความสำคัญกับการจัดวางร่างกายให้อยู่ในอิริยาบถที่เหมาะสม
ทั้งระหว่างการเคลื่อนไหว หรืออยู่นิ่งๆ จึงมีความจำเป็น เพราะจะช่วยลดอาการบาดเจ็บและปัญหาสุขภาพอื่นได้ด้วย
“วางท่า”
ใช่ว่าฟอร์มจัด
การวางท่วงท่า คือการควบคุมส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ
ได้แก่
-ท่วงท่าขณะเคลื่อนไหว คือการควบคุมร่างกายในขณะที่คุณกำลังเคลื่อนไหวร่างกาย
ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง หรือการก้ม เอื้อมหยิบข้าวของ
-ท่วงท่าขณะอยู่นิ่งๆ คือการควบคุมร่างกายให้อยู่ในท่วงท่าที่เหมาะสมในขณะที่เรานั่ง ยืน
และนอน
คุณมั่นใจหรือเปล่าว่าท่วงท่าการเคลื่อนไหวและการวางท่าทางขณะหยุดนิ่งของคุณ
มีความถูกต้องเหมาะสม และไม่เป็นการทำลายสุขภาพของตัวเอง
กุญแจดอกใหญ่ของเรื่องนี้อยู่ที่แนวกระดูกสันหลัง ซึ่งถือเป็นแกนกลางที่สำคัญของร่างกาย ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วนหลังและมีส่วนโค้งตามธรรมชาติ ประกอบด้วยกระดูกสันหลังบริเวณคอ กระดูกสันหลังบริเวณกลางหลัง และกระดูกสันหลังส่วนล่าง ท่วงท่าที่ดีคือการรักษากระดูกสันหลังให้อยู่ในแนวธรรมชาติ ศีรษะและหัวไหล่ตั้งตรง
“บุคลิกภาพ” และ “สุขภาพ”
การวางท่วงท่าร่างกายที่ไม่เหมาะสมส่งผลเสียต่อสุขภาพ
อย่างไร?
-ท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของกระดูกและกล้ามเนื้อ
-ท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้กระดูกสันหลังบาดเจ็บ
หรือผิดรูปร่าง ในช่องโพรงกระดูกสันหลังมีเส้นประสาทไขสันหลังทำหน้าที่รับความรู้สึก
และสั่งงานไปยังอวัยวะต่างๆ หากกระดูกสันหลังมีปัญหาจะกระทบกับการทำงานของร่างกายโดยรวม
-ท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นสาเหตุของอาการปวดคอ
ไหล่ และหลัง
-ท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลกระทบต่อข้อต่างๆ
ซึ่งมีความสำคัญต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย
-ท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ความยืดหยุ่นคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวลดลง
-ท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เสียการทรงตัว
เกิดความเสี่ยงในการพลัดตกหกล้มทำให้ได้รับบาดเจ็บ
-ท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมทำให้ระบบการย่อยอาหารลดประสิทธิภาพลง
-ท่วงท่าที่ไม่เหมาะสมส่งผลต่อการหายใจ
ปรับปรุงตัวอย่างไรดี?
-มีสติอยู่เสมอ ไม่ว่าในการเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่างๆ หรือการอยู่นิ่งๆ
โดยเฉพาะในระยะแรก มีความจำเป็นที่จะต้องฝึกตัวเองให้เกิดความเคยชินจนเป็นนิสัย
-ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายทุกประเภทจะช่วยปรับปรุงบุคลิกภาพและการวางท่วงท่าให้ดีขึ้น
โดยเฉพาะโยคะ ไทชี่ รวมทั้งกิจกรรมประเภทที่ต้องมีการฝึกในการควบคุมส่วนต่างๆ
ของร่างกาย
-เลือกรองเท้า หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูง
ซึ่งจะทำให้ต้องเกร็งกล้ามเนื้อและส่งผลต่อท่วงท่าการยืนและเดิน ควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่สบาย
ช่วยให้ร่างกายอยู่ในท่วงท่าที่สมดุล
-นั่งอย่างเหมาะสม การนั่งหลังงอเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง
ควรสังเกตว่าหากรู้สึกเมื่อยหลังแม้เพียงเล็กน้อย
นั่นเป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายว่าเรากำลังอยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสม
-อย่ายืนพักขา ท่ายืนที่ดีคือการลงน้ำหนักที่ขาทั้งสองข้างเท่าๆ กัน
โดยยืนให้ขากว้างเท่าสะโพก หลังตรง แขม่วท้องเล็กน้อย
เพื่อรักษาแนวกระดูกสันหลังอย่างเหมาะสม
-ก้มหยิบของ อันตรายที่สุด การก้มหยิบหรือยกของที่วางบนพื้นเป็นท่าที่อันตรายต่อกระดูกสันหลัง
ควรย่อเข่าแทนเพื่อรักษาแนวตั้งตรงของกระดูกสันหลัง
ท่วงท่าในงานประจำวัน สำคัญที่สุด
เพราะเราส่วนใหญ่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน
โดยเฉพาะการทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ฉะนั้นต้องมั่นใจว่าเราอยู่ในอิริยาบถที่เหมาะสม และแม้จะอยู่ในท่วงท่าที่ถูกต้อง
แต่ยังมีข้อคิดควรทำ ดังนี้
-อย่านั่งไขว่ห้าง วางเท้าบนพื้นตรงๆ และวางให้ข้อเท้าเลยจากหัวเข่าสักเล็กน้อย
-เท้าวางราบบนพื้น หรือหาที่รองเท้า
เพื่อช่วยรับน้ำหนักให้สามารถวางราบได้เต็มฝ่าเท้า
-อย่านั่งนานเกินไป ถ้าต้องนั่งทำงานต่อเนื่อง
ควรลุกขึ้นเดินยืดแข้งขาทุก 1-2 ชั่วโมง
-บริหารกล้ามเนื้อ ในช่วงที่พัก
ควรหาท่าบริหารง่ายๆ ในที่ทำงาน เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย
-หลังตรง ไหล่ตรง การนั่งหลังงอ
ห่อไหล่ จะทำให้ปวดเมื่อย กล้ามเนื้อเกร็ง และอาจส่งผลต่อกระดูก
-คีบอร์ด ควรวางในระดับข้อศอก
แขนแนบลำตัว
-จอคอมพิวเตอร์ อยู่ในระดับสายตา
หรือต่ำกว่าเล็กน้อย
-เก้าอี้มีพนักพิง
ควรเป็นพนักที่ช่วยรับน้ำหนักบริเวณเอว
-สะโพก วางเป็นมุมฉากกับพนักเก้าอี้
ลงน้ำหนักที่กล้ามเนื้อก้นซ้ายและขวาเท่าๆ กัน
-ข้อมืออยู่ในระดับเดียวกับคีบอร์ดและเม้าส์
การมีท่วงท่าอิริยาบถที่เหมาะสม จะเป็นการดูแลสุขภาพง่ายๆ ที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน และยังทำให้คุณดูมีบุคลิกภาพที่ดีสำหรับผู้พบเห็น กระนั้นเรื่องง่ายๆ ที่ว่ามานี้ หากละเลยไม่ให้ความสำคัญ ก็อาจส่งผลกระทบด้านลบต่อทั้งสุขภาพและการงานในระยะยาวด้วยเช่นกัน