ไม่ว่าจะมือเก่า มือเก๋า หรือมือใหม่ การไป Present เพื่อปิดการขายหรือมัดใจคู่ค้าให้ได้นั้น ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ 100 % ว่าจะประสบความสำเร็จ แต่อย่างที่รู้ๆ กัน การเตรียมตัวมาดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง คนที่ประสบการณ์ในด้านนี้สูง คงไม่มีปัญหา ดังนั้นบทความนี้จึงเหมาะสำหรับมือใหม่ ที่ต้อง Present งานให้ผ่านฉลุย นั้นมันมีขั้นตอน
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
1. สติเป็นที่ตั้ง : อาการประหม่า พูดจาไม่ปะติดปะต่อ แสดงสีหน้าที่แสดงออกชัดเจนถึงความกังวล นั่นเท่ากับว่าคุณได้ทำพลาดตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าประเด็นหลัก จริงอยู่ การพูดในที่สาธารณะอาจเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนและเรียนรู้จากประสบการณ์จนเชี่ยวชาญและทำได้อย่างมืออาชีพ หากผสมผสานเทคนิคการพูดจาโน้มน้าวใจเข้าไปด้วยยิ่งยากเข้าไปอีก แต่อย่าปล่อยให้ความกังวลต่างๆ ทำลายโอกาสสำคัญนี้ไป หายใจเข้าลึกๆ พึงมีสติระลึกรู้อยู่เสมอว่า วันนี้มาทำอะไร อย่าเครียดจนแสดงออกมาชัดให้ฝ่ายตรงข้ามจับไต๋ได้ว่าไก่อ่อน (แม้จะอ่อนจริงก็เถอะ) ต้องใจดีสู้เสือ และยิ้มสู้เข้าไว้
2. ฝึกฝน : คำสั้นๆ แต่ต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำให้ได้จริง ดังนั้นคิดไว้เสมอว่าการนำเสนอของคุณ หรือแม้แต่คำพูดต่างๆในที่ประชุมสามารถทำให้เพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือแม้แต่นักลงทุนรายใหญ่ สนใจ และตอบรับโปรเจคของคุณได้ และวิธีเดียวที่จะสามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ คือ ‘กระจก’ ...เราไม่ได้ล้อเล่น ฝึกพูดหน้ากระจกในห้องนอนคุณนั่นแหละวันละ 10 นาที เพื่อเกิดความเคยชินในการใช้เสียง ควบคุมน้ำหนักคำพูดและยังสังเกตอากัปกิริยาขณะที่พูดด้วย ตรงนี้จะช่วยในเรื่องของความมั่นใจ ผนวกกับทำความเข้าใจในสิ่งที่จะพูดหรือ Present ด้วย ยิ่งจะทำให้คำพูดคุณมีพลัง อาจยังไม่ถึงกับมีเทคนิคในการโน้มน้าวใจ แต่การพูดตรงๆ ก็มีข้อดีตรงที่ลูกค้าจะเห็นถึงสิ่งที่คุณนำเสนอจริงๆ
3. เตรียมข้อมูล : จัดเตรียมPresent ด้วยตัวเองเป็นการดีที่สุด เพราะจะทำให้คุณทราบถึงข้อมูลที่แท้จริงในงานที่มีการนำเสนอลูกค้า ถามมาตอบได้ สงสัยตรงจุดไหนตอบได้ ยิ่งจะทำให้การ Present เกิดความลื่นไหล ที่สำคัญเตรียมแผนสำรองไว้ในหัวด้วย เช่น ลูกค้าอาจมีความต้องการที่นอกเหนือไปจากข้อมูลในสไลด์ที่คุณมี เช่น คุณอาจบอกว่าสามารถผลิตสินค้าและจัดส่งได้ในวันเวลา แต่ลูกค้าอาจอยากได้ปริมาณสินค้าที่มากขึ้นจากเดิม ในขณะที่ต้องการเวลาส่งมอบที่เร็วขึ้น เอาละสิ ! …เรื่องนี้ต้องใช้สติ อย่ารีบตอบตกลง หรือปฏิเสธ ในทันที
เพราะหากคุณไม่ใช่คนที่ต้องตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย การแบ่งรับแบ่งสู้โดยไม่การันตีจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดถ้ามันอยู่นอกเหนืออำนาจที่คุณตัดสินใจ หรือไม่สามารถให้ความชัดเจนได้ในขณะนั้น ดังนั้นคิดคำตอบเผื่อไว้บ้างในกรณีเหล่านี้ เช่น ธุรกิจเราเป็นผู้ผลิตที่มีมาตรฐานสูง มีความสามารถเป็นที่ยอมรับ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหา แต่อาจต้องสรุปในขั้นตอนการจัดซื้อ จัดจ้างอีกครั้งเพื่อความแน่นอน ( แปลไทย คือ ออเดอร์มาก่อน ทำได้หรือไม่ได้เดี๋ยวบอกอีกที) วิธีนี้ใช้ในกรณีที่ลูกค้าหยั่งเชิงหรือเพิ่มเติมในส่วนที่ไม่เคยตกลงกันมาก่อนเท่านั้น
4. อย่ากลัว : คนส่วนใหญ่จะกลัวว่าถ้า Present ไม่ดี หรือทำอะไรพลาดไปอาจส่งผลต่อธุรกิจหรือตำแหน่งหน้าที่อาจไม่มั่นคง ซึ่งมันก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง ดังนั้นจึงต้องกำจัดความกลัว ลองถามตัวเองดูว่ากลัวอะไร และเพราะอะไร เช่น กลัวพูดผิด กลัวไม่โดนใจลูกค้า กลัวพลาด กลังนั่น โน่น นี่ สารพัด ความกลัวมาจากสามัญสำนึกกับสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ วิธีแก้อย่างถาวรเลยไม่มี ประสบการณ์เท่านั้นจะเยียวยาคุณได้ ดังนั้นถึงตรงนี้ เมื่อคุณได้ทำตาม ข้อ 1 ข้อ 2 และ ข้อ 3มาแล้ว และคิดเสมอว่ามันต้องผ่านฉลุยไปได้ด้วยดี แต่วิธีการหลอกตัวเองแบบนี้ใช้ได้ต่อเมื่อคุณเตรียมตัวมาดีเท่านั้นนะ
5. บุคลิก อัธยาศัย ไมตรีจิต : เตรียมตัวดีแล้ว ก็ต้องแต่งตัวให้เหมาะสม ดูด้วยว่าธุรกิจที่เราจะไปคุย ลองทำตามคำแนะนำจากบทความนี้ https://bangkokbanksme.com/en/dress-customers และนอกจากเครื่องแต่งกายที่ดูดี อัธยาศัย ไมตรีจิต เช่นการพูดจาที่สุภาพ อ่อนโยน ฉะฉาน ชัดเจน ดูมีความรู้ และมัดใจด้วยเสน่ห์แห่งรอบยิ้ม สิ่งเหล่านี้จะช่วยคุณได้ อ่อ สำคัญเลยอย่าไปสาย ให้เผื่อเวลาดูห้อง Present ในกรณีที่เป็นนอกสถานที่ด้วย เพื่อดูความเรียบร้อย ของสถานที่และอุปกรณ์
กระนั้น อย่างที่กล่าวในตอนต้น Present ของคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น อาจเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก แต่ถ้าคุณทำมันให้ดีที่สุด โอกาสสำเร็จย่อมมีเสมอ !
ยิ้มเพื่อเสริมสร้างสุขภาพทางอารมณ์
แนวทางแก้ปัญหาพนักงานทะเลาะกัน