ท่องเที่ยวโลกติดลบ เที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างไร?

SME in Focus
28/07/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 2197 คน
ท่องเที่ยวโลกติดลบ เที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างไร?
banner

ข้อมูลจากรายงาน COVID-19 and Tourism: Assessing the Economic Consequencesของ UNCTAD ระบุว่า จากการหยุดชะงักของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเป็นเวลาเกือบ 4 เดือนเนื่องจาก COVID-19 ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโลกสูญเสียรายได้อย่างน้อย 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับร้อยละ 1.5 ของมูลค่า GDP ของโลก

ทั้งนี้ หากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศหยุดชะงักต่อเนื่องเป็นเวลา 8 เดือน จะทำให้สูญเสียรายได้ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับร้อยละ 2.8 ของมูลค่า GDP ของโลก ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการของ UNWTO

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับตามร้อยละของ GDP ที่ลดลง ได้แก่ จาไมกา (-11%), ไทย (-9%), โครเอเชีย (-8%), โปรตุเกส (-6%) และสาธารณรัฐโดมินิกัน (-5%) ส่วนประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด 5 อันดับตามมูลค่าของ GDP ที่ลดลง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (ลดลง 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ), จีน (ลดลง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ), ไทย (ลดลง 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ), ฝรั่งเศส (ลดลง 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) และเยอรมนี (ลงลด 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

UNCTAD ประเมินว่ารายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ลดลงทุกหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลให้ GDP ของประเทศนั้นลดลงประมาณ 2-3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การจ้างแรงงานกลุ่มไร้ฝีมือจะลดลงมาก อาทิ ไทย (-17%), จาไมกา (-15%) และโครเอเชีย (-12%) และรายได้ของแรงงานฝีมือก็จะลดลงเช่นกัน อาทิ ไทย (-12%), จาไมกา (-11) และโครเอเชีย (-9%)

นอกจากนี้ผู้หญิงจะได้รับผลกระทบมากกว่าชาย เนื่องจากในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีผู้ประกอบการหญิงมากกว่าชาย และอัตราส่วนของแรงงานหญิงในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสูงถึง 54% ซึ่งส่วนมากทำงานในแรงงานนอกระบบ

เราเที่ยวด้วยกัน ฟื้นท่องเที่ยวไทย

อย่างไรก็ตามประเด็นที่น่าจับตา ณ ขณะนี้จึงเป็นการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและโรงแรมในประเทศไทย ซึ่งต้นเดือนที่ผ่านมาศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้พิจารณาตามข้อเสนอจากกระทรวงการต่างประเทศ ในการขยายกลุ่มชาวต่างชาติที่สามารถเดินทางเข้าไทย ในบุคคล 6 กลุ่ม

รวมถึงความตกลงพิเศษ (Special Arrangement) ซึ่งทำกับประเทศญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, จีน และฮ่องกง โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ซึ่งจำนวนโควตาที่กำหนดต้องสอดคล้องกับจำนวน  Alternative State Quarantine (ASQ) และการเจรจากับประเทศที่ทำความตกลงพิเศษ (ขั้นต้นอาจกำหนดจำนวนรวม 200 คน/วัน) โดยประเทศเป้าหมายที่ได้รับการพิจารณาให้เข้ามาในไทยตามความตกลงพิเศษดังกล่าวนี้ มีหลักเกณฑ์การพิจารณาจาก

1. มีความสำคัญทางเศรษฐกิจต่อไทย

2. ควบคุมการระบาดได้ดีใกล้เคียงกับไทย

3. มีระบบสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ

4. มีความพร้อมและสนใจทำความตกลง

ปัจจุบันภาครัฐของไทยได้มีโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้เปิดให้ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนในเว็บ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com  ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าถึงธุรกิจการท่องเที่ยวโดยตรง ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19

โดยรัฐบาลได้สนับสนุนค่าที่พักโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน แต่ไม่เกินวงเงิน 3,000 บาท จำกัดสิทธิ์คนละไม่เกิน 5 ห้อง หรือ 5 คืน และเมื่อจองที่พักแล้วไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงได้ ระยะเวลาใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ 15 ก.ค.-31 ต.ค.63

นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนคูปองอาหารและท่องเที่ยวมูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืนให้กับประชาชนเมื่อเช็กอินโรงแรม จะได้รับคูปองวันละ 1 ครั้ง ซึ่งสามารถใช้ได้ที่ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ โดยประชาชนจ่าย 60% รัฐช่วย 40% ผ่านการตัดเงินคูปอง รวมทั้งการสนับสนุนค่าโดยสารเครื่องบิน 40% ของราคาค่าโดยสารแต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน

ขณะเดียวกันทางกระทรวงการคลังได้มีการสนับสนุนค่าที่พักโรงแรมไว้จำนวน 5 ล้านห้อง และอาจจะต่อยอดไปเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวในวันธรรมดาให้ธุรกิจในท้องถิ่นให้เห็นผลเร็วที่สุด สำหรับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้มากกว่า 50,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจได้ 0.2–0.3%

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจ คือการกระจายของเม็ดเงินลงไปสู่แหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศโดยไม่กระจุกตัว และน่าจับตาว่าภายใต้บรรยากาศที่อัดอั้นจากโควิด-19 ที่ผู้คนต้องล็อกดาวน์อยู่แต่ในบ้าน เมื่อรัฐบาลเชิญชวนให้คนออกไปเที่ยว แถมสนับสนุนค่าโรงแรม ที่พัก และบรรดาผู้ประกอบการต่างๆ ก็จัดโปรโมชั่นกันอย่างเต็มที่ หวังฟื้นการท่องเที่ยวให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง 


สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<<


แบงก์ชาติปรับเงื่อนไข ‘คลินิกแก้หนี้’ ลดผลกระทบโควิด-19

ธุรกิจน่าทำช่วงหลังโควิด-19 ปรับตัวให้สุดปังกับ New Normal


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

การเดินทางของ “น่านดูโอ คอฟฟี่”  ผู้บุกเบิกกาแฟโรบัสต้าจากภาคใต้สู่ภาคเหนือ พร้อมเคล็ดลับการหาช่องว่างในตลาดกาแฟ

การเดินทางของ “น่านดูโอ คอฟฟี่” ผู้บุกเบิกกาแฟโรบัสต้าจากภาคใต้สู่ภาคเหนือ พร้อมเคล็ดลับการหาช่องว่างในตลาดกาแฟ

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มคู่ใจสำหรับวัยทำงานคงหนีไม่พ้น “กาแฟ” ด้วยกลิ่นหอมละมุน รูปแบบการคั่วเมล็ดหลากหลายตามความชอบ เกิดเป็นรสชาติที่ทำให้หลายคนติดใจ…
pin
3 | 18/04/2025
“โรงหล่อ ก.เจริญ” ผู้นำอุตสาหกรรมเหล็กหล่อไทยกว่า 50 ปี ด้วยนวัตกรรม Lean Manufacturing และ Automation

“โรงหล่อ ก.เจริญ” ผู้นำอุตสาหกรรมเหล็กหล่อไทยกว่า 50 ปี ด้วยนวัตกรรม Lean Manufacturing และ Automation

ในโลกของอุตสาหกรรมการผลิต “วัตถุดิบโลหะ” ถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน เครื่องจักร…
pin
5 | 11/04/2025
เปลี่ยนขยะให้เป็นมูลค่าด้วย Zero-Waste

เปลี่ยนขยะให้เป็นมูลค่าด้วย Zero-Waste

แนวคิด Zero-Waste กลายเป็นกลยุทธ์ที่องค์กรทั่วโลกให้ความสำคัญหลายธุรกิจเริ่มตระหนักว่าการลดขยะไม่ใช่แค่ช่วยสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยลดต้นทุน…
pin
8 | 06/04/2025
ท่องเที่ยวโลกติดลบ เที่ยวไทยฟื้นตัวอย่างไร?