สิ่งที่จะได้รับจากการลาออกของพนักงาน

เป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจที่ไม่มีผู้ประกอบการรายใดอยากหลีกหนีพ้น นั่นคือ การลาออกของพนักงานนั่นเอง เพราะนั่นหมายถึงคุณต้องเสียเวลาไปอย่างมากทั้งกับการประกาศรับสมัครพนักงานใหม่ ต้องเสียเวลามานั่งคัดเลือกว่าจะเอาใคร รวมทั้งต้องสัมภาษณ์หลายครั้ง หลายคน จนในที่สุดก็คือ ต้องสูญเสียเวลาไปกับการฝึกสอนงานเหล่านั้นให้พนักงานใหม่ได้ทราบ

เพราะฉะนั้นการลาออกของพนักงานคุณไม่ควรเกิดขึ้นบ่อยนัก โดย  5 คำถามเหล่านี้จึงสำคัญมาก ที่คุณควรสอบถามพนักงานคนนั้น เพื่อให้ได้ข้อมูลมาพัฒนาปรับปรุงองค์กรต่อไป

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

1. ทำไมถึงลาออก

อันนี้เป็นคำถามเบสิกที่ไม่ว่าใครก็ต้องโดนถามแน่นอน แต่การถามของคุณครั้งนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงยังไง ขึ้นอยู่กับคำตอบของพนักงานนั่นเอง ถ้าสาเหตุของการลาออกคือปัจจัยภายนอก คุณอาจจะหวังกับคำถามข้อนี้ไม่ได้ แต่ถ้าคำตอบคือเป็นเพราะคนในบริษัท เป็นเพราะงาน เป็นเพราะองค์กร นั่นคือคุณจะได้รับรู้ถึงจุดที่ต้องแก้ไขเต็มๆ จากคนวงในที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหนอีกแล้ว ซึ่งอย่าลืมว่าพนักงานที่จะลาออกนั้นเขาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคุณอีกต่อไป ทำให้เขาสามารถพูดความจริงได้อย่างเต็มที่ และจริงใจที่สุด

2. ทำไมถึงยอมย้ายไปที่ใหม่

คำถามนี้เป็นตัววัดใจว่าบริษัทของคุณ ต่างกับที่ใหม่ยังไง เพราะบางครั้งเหตุผลที่ลาออกอย่างเดียวอาจไม่ได้รับข้อมูลที่เพียงพอจากพนักงานคนนั้น สาเหตุหลักๆ อาจจะมาจากบริษัท หรือองค์กรคุณส่วนใดส่วนหนึ่งจริง แต่พนักงานไม่กล้าบอกออกมาตรงๆ คุณสามารถใช้วิธีถามถึงบริษัทใหม่แทนได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้รู้แล้วว่าบริษัทคู่แข่ง หรือองค์กรต่างๆ มีจุดเด่นยังไงที่น่าหยิบยกมาใช้กับองค์กรของคุณเอง คุณยังสามารถรู้ได้ด้วยว่าสิ่งไหนที่เราด้อยกว่าคนอื่นและน่าจะพัฒนาให้ดีขึ้น

3. อะไรที่ชอบและไม่ชอบในองค์กรคุณ

นี่เป็นการวัดใจกับผู้ที่คิดจะลาออกว่าเขาจะกล้าพูดออกมาตรงๆ หรือไม่ว่าองค์กรคุณไม่ดีในเรื่องใด แต่สำหรับเรื่องข้อดีนั้นมั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้รับรู้จุดเด่นของตัวเองอย่างเต็มที่แบบไม่มีกั๊กแน่นอน ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้เชิดชูและพัฒนาตรงนี้ให้ดีขึ้นไป คุณสามารถติดป้ายประกาศหางานด้วยการนำข้อดีที่พนักงานคนนี้บอกมาเป็นตัวชูโรงได้ว่าสำนักงานคุณมีอะไรดี และทำไมถึงควรมาทำงานกับคุณ นับเป็นการขอความคิดเห็นจากพนักงานครั้งสุดท้ายที่ช่วยให้การรับคนใหม่ๆ ง่ายขึ้นอีกด้วย

4. อยากให้บริษัทพัฒนาอะไรบ้าง

สำหรับคำถามนี้อาจจะคล้ายๆ กับข้อข้างบน แต่ไม่เหมือนกันสักทีเดียว เนื่องจากคำว่า “ชอบ/ไม่ชอบ” นั่นเป็นเพียงความรู้สึกของพนักงาน และมันอาจเป็นคำที่รุนแรงเกินไป บางจุดพนักงานอาจจะไม่ได้ไม่ชอบ เพียงแต่รู้สึกว่าคุณสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้ ซึ่งคำถามข้อนี้จะช่วยตอบโจทย์เรื่องราวแบบนั้นได้ดีมาก นิสัยคนไทยจะไม่กล้าพูดอะไรแง่ลบออกมาตรงๆ ดังนั้นถ้าถามถึงสิ่งที่คุณควรพัฒนา หรือเพิ่มเติมเข้าไป จะทำให้เขากล้าเปิดใจ และคุณจะได้รับมุมมองใหม่ๆ แบบที่อาจจะคาดไม่ถึงก็ได้

5. สัมภาษณ์ 2 รอบ เหมือนตอนรับเข้ามา

สุดท้ายแล้วสิ่งนี้อาจจะมีองค์กรไม่มากที่ทำ แต่มันเป็นประโยชน์ต่อการที่พนักงานสักคนจะลาออกอย่างมาก ทำให้คุณพัฒนาองค์กรได้หลากหลายด้านยิ่งขึ้น ซึ่งแบ่งการสัมภาษณ์เป็น 2 รอบ คือ รอบแรกให้ผู้บริหารระดับสูงเป็นคนสัมภาษณ์ เช่น หัวหน้าของพนักงานที่จะลาออก เพื่อใช้ชุดคำถามในรูปแบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวงาน เงินเดือน เป็นต้น

ส่วนการสัมภาษณ์รอบที่ 2 คือการให้ HR เข้ามาเป็นคนสัมภาษณ์ Exit Interview แทน ด้วยคำถามที่มีผลต่อองค์กรในภาพรวม เช่น พนักงานคนไหนที่คิดว่ามีปัญหาที่สุดในทีม มีตรงจุดไหนที่อยากจะเสนอ มีส่วนไหนที่ไม่ชอบในการทำงานที่นี่

การแบ่งสัมภาษณ์เป็น 2 รอบนี้จะทำให้พนักงานกล้าที่จะรายงานสิ่งต่างๆ ตรงๆ เพราะมั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบกลับมาถึงตัวเองแน่นอน เนื่องจากคนสัมภาษณ์ทั้ง 2 คนคุมคนละส่วนกันนั่นเอง ทำให้กล้าพูดความจริงออกมาจนหมดเปลือก

5 คำถามเหล่านี้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้รู้ว่าองค์กรของคุณเป็นยังไง ควรปรับปรุงตรงไหนบ้าง ซึ่งในอนาคตมันจะช่วยลดปริมาณของพนักงานที่จะลาออกให้น้อยลงได้อย่างแน่นอน 

สร้างแรงจูงใจ เมื่อยังไม่พร้อมขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน

จัดการความคิด เมื่อชีวิตทำงานไม่สนุก