โจทย์ใหม่ค้าปลีก พฤติกรรมผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป !

SME Update
19/08/2019
รับชมแล้วทั้งหมด 3983 คน
โจทย์ใหม่ค้าปลีก พฤติกรรมผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป !
banner

นีลเส็นศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกเผยถึงระดับของความ ‘ไม่’ จงรักภักดีต่อแบรนด์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเพียง 8% ของผู้บริโภคทั่วโลกที่เชื่อว่าตนเองเป็นผู้ที่ภักดีต่อแบรนด์หากพูดถึงแบรนด์โปรดของพวกเขา

นีลเส็นสำรวจผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกว่า 30,000 รายทั่วโลก ซึ่งเป็นกลุ่มตัวแทนของประชากรออนไลน์กว่า 2,000 ล้านคน ครอบคลุม 64 ประเทศ พบว่า ผู้บริโภคมีความกระตืนรือร้นในการมองหาแบรนด์ใหม่ เนื่องจากมองว่าการทดลองซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นไม่ได้มีความเสี่ยงมากนัก จากระดับของรายได้ที่เพิ่มขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา โดย 42% ของผู้บริโภคทั่วโลกบอกว่าพวกเขาชอบลองของใหม่และเกือบครึ่ง (49%) ของผู้บริโภคกล่าวว่าแม้ปกติจะซื้อสินค้าที่ตัวเองรู้จักดีอยู่แล้ว แต่ก็มีโอกาสที่จะเปิดใจลองของใหม่ได้

สำหรับผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกมีความนิยมในการเปลี่ยนแบรนด์มากที่สุดโดย 47% ยินดีที่จะเปลี่ยนแบรนด์หรือลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ตามด้วยแอฟริกาและตะวันออกกลาง (45%) และละตินอเมริกา (42%) แต่ผู้บริโภคในอเมริกาเหนือและยุโรปนั้นมีโอกาสน้อยกว่าที่จะเปลี่ยนแบรนด์ (36% และ 33% ตามลำดับ) ขณะที่ 46% ของผู้บริโภคไทยเปิดรับสิ่งใหม่และมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นเทรนด์เดียวกับชาวเอเชียแปซิฟิก

การที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่กระตือรือร้นที่จะเปิดกว้างและเปิดรับสิ่งใหม่ๆมากขึ้นเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้กับเจ้าของแบรนด์ถึงความเสี่ยงยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา” สมวลี ลิมป์รัชตามร กรรมการผู้จัดการ บริษัทเดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลค์ Facebook bangkokbanksme 


ข้อมูลสินค้าชัดเจน-เน้นความคุ้มค่า

นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุมาจากการเติบโตและการเปิดรับของผู้บริโภคต่อตลาดอีคอมเมิร์ซที่มากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มตัวเลือกของสินค้าให้กับผู้บริโภคและเพิ่มโอกาสในการรับรู้ข้อมูลสินค้าและตรวจสอบราคา รวมทั้งการขยายตัวของสังคมเมืองในประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และจะมีอัตราการเติบโตที่เร่งขึ้นอีกใน 5-10 ปีข้างหน้าจากโครงการเมกะโปรเจ็คหลายโครงการของรัฐ เช่น โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เห็นได้ว่าเทรนด์ของผู้บริโภคที่เน้นความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นในการซื้อของหรือสั่งของนั้นมีเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้การเข้าถึงของอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นยังทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น ทำให้มีความต้องการความชัดเจนของข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน จากการที่ผู้บริโภคได้รับตัวเลือกที่มากขึ้นนั้นทำให้ทั้งนักการตลาดและผู้ค้าปลีกต่างก็จำเป็นต้องมีความคล่องตัวเพียงพอที่จะเคลื่อนตัว ปรับตัวได้เร็ว ต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและเป็นผู้นำเทรนด์ โดยมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการในอนาคต

เมื่อพูดถึงปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเลือกแบรนด์ของผู้บริโภคชาวไทย ความคุ้มค่าของเงิน ถือเป็นปัจจัยสำคัญสูงสุด ซึ่งผู้บริโภคชาวไทยกว่า 52% เห็นพ้องตรงกันว่ามีผลต่อการตัดสินใจของพวกเขาต่อการลองแบรนด์ใหม่หรือเปลี่ยนจากแบรนด์โปรด ตามมาด้วยคุณภาพหรือฟังค์ชั่นการใช้งานที่เหนือกว่า (43%) ทั้งสองปัจจัยนี้ยังได้รับการจัดอันดับสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยกัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้บริโภคในภูมิภาคที่มีอัตราอยู่ที่ 40% ในเรื่องความคุ้มค่าของเงิน และ 42% สำหรับคุณภาพที่เหนือกว่า

นอกเหนือจากสองปัจจัยข้างต้น เรื่องของราคา ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น และความสะดวกสบายก็ยังเป็นปัจจัยโดดเด่นที่มีผลต่อการเลือกแบรนด์ของคนไทย (43% 43% และ 42% ตามลำดับ) 

50 % อยากลองของใหม่

สมวลี กล่าวว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเจ้าของแบรนด์ไม่เริ่มคิดใหม่ ทำใหม่ ในการสร้างแคมเปญที่จะช่วยเพิ่มจำนวนหรือรักษาลูกค้าที่ภักดีเอาไว้ ผลกระทบที่ลากยาวจากการที่ผู้บริโภคต้องการตัวเลือกมากขึ้น และมีสิทธิ์ในการเลือกมากขึ้น จะทำให้ตลาดต้องทำการสร้างหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆเพื่อเข้าสู่การแข่งขันหากแบรนด์ต่างๆไม่เริ่มจริงจังในการสร้างฐานลูกค้าที่ภักดี

โดยรวมแล้ว ผู้บริโภคมีความเต็มใจที่จะลองใช้แบรนด์ใหม่ๆเพิ่มขึ้น โดย 50% ของผู้บริโภคทั่วโลกกล่าวว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะลองใช้แบรนด์ใหม่ที่ไม่เคยลองมาก่อนสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อห้าปีที่แล้ว ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในภูมิภาคอเมริกาเหนือ เอเชียแปซิฟิก และยุโรปตะวันตก เพียงหนึ่งในสามของผู้บริโภคชอบที่จะลองของใหม่ เนื่องจากสภาพตลาดที่สร้างโอกาสที่จะถูกดึงความสนใจจากสินค้าเดิมนั้นเกิดขึ้นมาซักพักหนึ่งแล้ว จากการที่แพลตฟอร์มการขายสินค้าทั้งออนไลน์และร้านค้าเกิดขึ้นและเติบโตด้วยกันมาเป็นระยะเวลานานแล้ว รวมถึงมีการนำเสนอชั้นวางสินค้าที่มีการสต็อคสินค้าอย่างดี และมีตัวเลือกสินค้าและราคาที่หลากหลาย


ในอีกด้านหนึ่ง ผู้บริโภคจำนวนเกือบครึ่งในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (50%) ละตินอเมริกา (49%) แอฟริกาและตะวันออกกลาง (42%) ให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ใหม่ และมีการตัดสินใจในการเปลี่ยนแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากในอดีต การแบ่งประเภทสินค้า

ในตลาดเหล่านี้ในหลายประเทศยังไม่เป็นระบบและมีตัวเลือกเพียงสองถึงสามตัวเลือกบนชั้นวางสินค้าต่อหนึ่งประเภทสินค้า ผู้บริโภคจึงมองหาโอกาสในการลองสิ่งใหม่ ทั้งนี้ 41% ของผู้บริโภคชาวไทยยอมรับว่าพวกเขามีแนวโน้มที่จะลองใช้แบรนด์ใหม่มากกว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ผู้บริโภคชาวไทยมากกว่าหนึ่งในสี่ (27%) เห็นด้วยว่าพวกเขาทบทวนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มตัวเลือกที่กว้างขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา เรียกกลุ่มนี้ว่า “ผู้ซื้อที่พิจารณา” และพวกเขามีความสำคัญเพราะแม้ว่าพวกเขาจะเลือกสินค้าอย่างกว้างขวางมากขึ้นกว่าที่เคย แต่ผู้บริโภคกลุ่มนี้บอกว่าพวกเขาชอบที่จะอยู่กับสิ่งที่เคยลองมาในอดีตมากกว่า ซึ่งเจ้าของแบรนด์ต้องใช้เวลามากขึ้นในการโน้มน้าวให้ผู้บริโภคเหล่านี้เปลี่ยนใจ แต่พวกเขายังคงส่งสัญญาณของความไม่ภักดีต่อแบรนด์สินค้าและพร้อมที่จะเปลี่ยนตลอดเวลา

ขายออนไลน์ใครก็ทำได้...ถ้าอยากขายดีก็ทำตามนี้เลย

ธุรกิจ E-commerce เวียดนามมีผู้ใช้กว่า 37 ล้านคน


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ส่องอนาคต ‘ไฮโดรเจนสีเขียว’ ทำไม? ถึงกลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ของไทย ไปสู่ Net Zero ไวขึ้น

ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีโจทย์สำคัญต้องเร่งแก้ นั่นคือ ภาวะโลกเดือด และปัญหาด้านพลังงาน ซึ่งทั้ง 2 เรื่อง เป็นปัญหาใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงกัน…
pin
30 | 15/12/2024
8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

8 สูตรลับ Festive Marketing เพิ่มยอดขายแบบประหยัด แต่ครองใจลูกค้าทุกเทศกาล

กลยุทธ์ Festive Marketing คืออะไร?Festive Marketing หรือการตลาดช่วงเทศกาล เป็นกลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลต่าง…
pin
26 | 13/12/2024
พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

พลิกโฉมอุตสาหกรรม อะลูมิเนียมไทย ให้คาร์บอนต่ำ สู่เส้นทางอุตสาหกรรมสีเขียว

วิกฤตการณ์สภาพภูมิอากาศโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ กำลังส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกใบนี้ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เร่งให้เกิดภาวะโลกร้อนคือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้พลังงานสูงอย่างอุตสาหกรรมโลหะ…
pin
34 | 07/12/2024
โจทย์ใหม่ค้าปลีก พฤติกรรมผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป !