มองภาพ “แอปฯ เรียกรถ” จากบริบทของประเทศไทย

SME in Focus
24/10/2020
รับชมแล้วทั้งหมด 5149 คน
มองภาพ “แอปฯ เรียกรถ” จากบริบทของประเทศไทย
banner

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการขนส่งและคมนาคมยังคงจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคนทั่วไป เพราะไม่ว่าจะเรียน ทำงาน หรือกิจกรรมอะไรก็ตาม เราต่างต้องอาศัยการเดินทางเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนผู้บริโภคทั่วไปคงอาจจะเลือกซื้อรถยนต์เดินทางด้วยตนเอง หรือเลือกใช้รถสาธารณะประจำทาง ด้วยเหตุผลที่ว่า ราคาสบายกระเป๋า แต่ปัจจุบันกลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่มีกำลังซื้อลดลง ไม่เพียงพอต่อการครอบครองรถยนต์ และรถสาธารณะประจำทางก็ยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ การเรียกใช้บริการยานพาหนะผ่านแอปพลิเคชั่นจึงช่วยเข้ามามีบทบาทตรงนี้มากขึ้น

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

ทำความเข้าใจกับ Ride-Hailing

บริการ Ride-Hailing เป็นบริการยานพาหนะผ่านแอปพลิเคชั่น เพื่อเป็นตัวกลางระหว่างผู้ให้บริการขับขี่ยานพาหนะและผู้โดยสาร โดยเน้นความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย และยกระดับการคมนาคมให้ตอบโจทย์การเดินทางภายในสังคมเมืองที่เดินทางลำบาก มาจากการที่ประชากรขยายเพิ่มขึ้นจนรองรับไม่ทัน หากจะอธิบายถึงบริการ Ride-Hailing ให้เข้าใจได้ง่ายและกระชับก็คือ แอปพลิเคชั่นเรียกรถ นั่นเอง ปัจจุบันมูลค่าของอุตสาหกรรมบริการยานพาหนะผ่านแอปพลิเคชั่น Ride-Hailing ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลกอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ใช้งานสูงถึง 34.5 ล้านคน และมูลค่าโดยรวมของตลาดสูงถึง 21,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตเฉลี่ย 6-10% ต่อปี โดยประเทศไทยติด 1 ในกลุ่มประเทศ Top 5 ที่นิยมใช้งานแอปพลิเคชั่น Ride-Hailing มากที่สุด

 

ผู้ขับขี่และผู้โดยสารของ Ride-Hailing ในไทยคือใคร?

ผู้ให้บริการขับขี่รถยนต์ผ่านแอปพลิเคชั่นกว่า 60% เป็นผู้ที่ว่างงาน ไม่ได้หารายได้จากทางอื่น รวมถึงวัยเกษียณ (นับว่าเป็นอีกก้าวสำหรับการเข้าสู่ยุคการจ้างงานผู้สูงวัย) นอกนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้จากช่องทางอื่นแล้วหารายได้จากการเป็นผู้ขับขี่ผ่านทาง Ride-Hailing เพิ่มเติม

ส่วนผู้โดยสารของ Ride-Hailing มีประมาณ 6.8 ล้านคนต่อเดือน สัดส่วนเพศที่เลือกใช้บริการคร่าวๆ 65% เป็นผู้หญิง และนอกนั้นเป็นเพศชาย นอกจากนี้ประชากรกว่า 54% ที่เลือกใช้อยู่ในช่วงอายุประมาณ 20-49 ปี ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานอายุประมาณ 30-39 ปี มีหลากหลายอาชีพ เหตุผลส่วนใหญ่ที่เลือกใช้บริการยานพาหนะผ่านทางแอปพลิเคชั่น เนื่องจากกระบวนการให้บริการ และความสะดวกสบายต่อการเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น

 

Ride-Hailing กับ ปัญหาขาดกฎหมายรองรับ

ปัญหาหลักของ Ride-Hailing (ซึ่งถูกควบคุมดูแลภายใต้บริษัทเอกชนส่วนใหญ่) ที่กำลังทำให้นักลงทุนรายใหญ่ไปจนถึงรายย่อยยังคงกังวลใจมีเพียงไม่กี่ประการ หลักๆ คือภายในประเทศไทยยังคงมีปัญหาเรื่องขาดกฎหมายรองรับ ทำให้ยังคงเป็นเรื่องถกเถียงกันอยู่ว่า การให้บริการยานพาหนะผ่านแอปพลิเคชั่นแบบ Ride-Hailing สามารถทำได้หรือไม่ เพราะยังไม่มีกฎหมายและมาตรการของภาครัฐมารองรับเหมือนกับกลุ่มผู้ให้บริการขับรถแท็กซี่

ในขณะที่หลากหลายประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านต่างมีกฎหมายรับรองเรียบร้อยแล้ว ประชาชนกว่า 77.24% จึงกล่าวว่า ควรมีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อให้มีมาตรการและหน่วยงานมาคอยกำกับดูแลส่วนหนึ่ง เช่น มาตรฐานความปลอดภัย, มาตรฐานผู้ขับขี่และรถยนต์, มาตรฐานการให้บริการและเทคโนโลยี, การกำหนดราคา และผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ฯลฯ

*สำหรับผู้สนใจศึกษาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ทางกฎหมายและมาตรการเพิ่มเติม : https://conc.tbs.tu.ac.th/userfiles/files/TU_Ride-hailing_Report.pdf*

 

การแข่งขันในตลาดบริการ Ride-Hailing ที่น่าจับตามอง

ปัจจุบันนี้ยังมีผู้ให้บริการแอปเรียกรถ หรือ Ride-Hailing ไม่มากนัก โดยการแข่งขันศึกชิงเจ้าตลาดต่างรุกกันอยู่ระหว่าง 2 ค่ายใหญ่ ได้แก่ Grab ผู้ครองตลาดอยู่ในปัจจุบัน ที่เข้าซื้อกิจการ Uber ไปเมื่อไม่นาน กับ Go-Jek ผู้ให้บริการที่เติบโตไว เน้นราคาถูก ตีตลาดด้วยการปรับราคาค่าบริการต่ำกว่า Grab 10-30% โดยยอดดาวน์โหลดรวมของแอปพลิเคชั่นทั้งคู่ยังถือว่า ห่างกันไม่มากนัก

ทาง GRAB เฉพาะผู้ใช้งานที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มียอดสูงถึง 125 ล้านบัญชี ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานในประเทศไทยสูงที่สุด ส่วน Go-Jek (รู้จักในชื่อ GET ก่อนหน้านี้) ที่พึ่งเข้าไทยเมื่อไม่นานนี้ เพียงแค่อินโดนีเซียประเทศเดียวก็มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 108 ล้านบัญชี มีผู้สนับสนุนเบื้องหลังเป็นองค์กรยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Tencent Holdings และ JD.com ตามมาติดๆ ขนาดนี้ คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า Grab จะครองเป็นเจ้าตลาดได้ตลอดไปหรือไม่ และจะมีผู้ให้บริการรายใดเข้ามาแข่งขันในตลาดประเทศไทยเพิ่มอีก

ถึงแม้ว่า ณ เวลานี้จะยังไม่มีกฎหมายและมาตรการรองรับในประเทศไทย แต่ก็ได้มีการออกมายืนยันจากทางกรมขนส่งแล้วว่า บริการเหล่านี้ไม่ผิดกฎหมาย อีกทั้งได้เริ่มมีการวางแนวทางร่างกฎหมายและมาตรการต่างๆ รองรับไว้แล้ว เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้เราคงจะได้เห็นบริการ Ride-Hailing กลายเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ไกลและแข่งขันกันอย่างสนุก ระหว่างภายในตลาดธุรกิจเดียวกันและธุรกิจขนส่ง-คมนาคมแบบอื่นๆ เพิ่มเติมอย่างแน่นอน

 

สมัครสินเชื่อ >>สินเชื่อธุรกิจบัวหลวง SMEs ดีแน่นอน<< 


จับกระแส Express Delivery และช่องว่างในห่วงโซ่อุปทาน 

SMEs ต้องเตรียมพร้อมรับมือการขนส่งสินค้าช่วงโควิด-19 


Bangkok Bank SMEเราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษาธนาคารกรุงเทพคลิกหรือสายด่วน1333


Related Article

ถอดบทเรียนแนวคิดต่างของ “เวิลด์กรีน พลัส” พลิกภาระสู่โอกาส เปลี่ยนของเสียให้เป็นมูลค่า

ถอดบทเรียนแนวคิดต่างของ “เวิลด์กรีน พลัส” พลิกภาระสู่โอกาส เปลี่ยนของเสียให้เป็นมูลค่า

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตขยะอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับแรงกดดันจากมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด การดำเนินธุรกิจในยุคที่…
pin
7 | 28/02/2025
แพทย์หญิงนักปรุงจาก “อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย” ชวน ไขความลับของผู้ผลิต Food Ingredients ผู้ช่วยตัวจริงของ อุตสาหกรรมอาหาร

แพทย์หญิงนักปรุงจาก “อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย” ชวน ไขความลับของผู้ผลิต Food Ingredients ผู้ช่วยตัวจริงของ อุตสาหกรรมอาหาร

ปัจจัยสำคัญที่ร้านอาหารชื่อดัง ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ ประกอบด้วยหลายด้านด้วยกัน ทั้งในเรื่องของความสะอาด การบริการที่ได้มาตรฐาน…
pin
9 | 25/02/2025
จาก YouTuber ช่องดัง สู่การสร้างแบรนด์ชานมไข่มุก BEARHOUSE และ SUNSU เจาะกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงานที่อยากใส่ใจสุขภาพ และยังรักการกินขนม

จาก YouTuber ช่องดัง สู่การสร้างแบรนด์ชานมไข่มุก BEARHOUSE และ SUNSU เจาะกลุ่มวัยรุ่น-วัยทำงานที่อยากใส่ใจสุขภาพ และยังรักการกินขนม

จาก YouTuber ที่เคยรีวิวของเล่นจนสร้างชื่อเสียงและมีผู้ติดตามจำนวนมาก สู่การเป็นเจ้าของร้านชานมไข่มุกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช…
pin
13 | 10/02/2025
มองภาพ “แอปฯ เรียกรถ” จากบริบทของประเทศไทย