ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการขนส่งและคมนาคมยังคงจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคนทั่วไป เพราะไม่ว่าจะเรียน ทำงาน หรือกิจกรรมอะไรก็ตาม เราต่างต้องอาศัยการเดินทางเพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนผู้บริโภคทั่วไปคงอาจจะเลือกซื้อรถยนต์เดินทางด้วยตนเอง หรือเลือกใช้รถสาธารณะประจำทาง ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘ราคาสบายกระเป๋า’ แต่ปัจจุบันกลับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่มีกำลังซื้อลดลง ไม่เพียงพอต่อการครอบครองรถยนต์ และรถสาธารณะประจำทางก็ยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ การเรียกใช้บริการยานพาหนะผ่านแอปพลิเคชั่นจึงช่วยเข้ามามีบทบาทตรงนี้มากขึ้น
ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme
ทำความเข้าใจกับ Ride-Hailing
บริการ Ride-Hailing เป็นบริการยานพาหนะผ่านแอปพลิเคชั่น
เพื่อเป็นตัวกลางระหว่างผู้ให้บริการขับขี่ยานพาหนะและผู้โดยสาร
โดยเน้นความสะดวกสบาย ใช้งานง่าย
และยกระดับการคมนาคมให้ตอบโจทย์การเดินทางภายในสังคมเมืองที่เดินทางลำบาก
มาจากการที่ประชากรขยายเพิ่มขึ้นจนรองรับไม่ทัน หากจะอธิบายถึงบริการ Ride-Hailing ให้เข้าใจได้ง่ายและกระชับก็คือ ‘แอปพลิเคชั่นเรียกรถ’ นั่นเอง ปัจจุบันมูลค่าของอุตสาหกรรมบริการยานพาหนะผ่านแอปพลิเคชั่น Ride-Hailing ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วโลกอย่างต่อเนื่องจนมีผู้ใช้งานสูงถึง
34.5 ล้านคน และมูลค่าโดยรวมของตลาดสูงถึง 21,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตเฉลี่ย
6-10% ต่อปี โดยประเทศไทยติด 1 ในกลุ่มประเทศ Top 5 ที่นิยมใช้งานแอปพลิเคชั่น Ride-Hailing มากที่สุด
ผู้ขับขี่และผู้โดยสารของ Ride-Hailing ในไทยคือใคร?
ผู้ให้บริการขับขี่รถยนต์ผ่านแอปพลิเคชั่นกว่า
60% เป็นผู้ที่ว่างงาน ไม่ได้หารายได้จากทางอื่น
รวมถึงวัยเกษียณ (นับว่าเป็นอีกก้าวสำหรับการเข้าสู่ยุคการจ้างงานผู้สูงวัย)
นอกนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้จากช่องทางอื่นแล้วหารายได้จากการเป็นผู้ขับขี่ผ่านทาง
Ride-Hailing เพิ่มเติม
ส่วนผู้โดยสารของ Ride-Hailing มีประมาณ 6.8 ล้านคนต่อเดือน
สัดส่วนเพศที่เลือกใช้บริการคร่าวๆ 65% เป็นผู้หญิง และนอกนั้นเป็นเพศชาย
นอกจากนี้ประชากรกว่า 54% ที่เลือกใช้อยู่ในช่วงอายุประมาณ
20-49 ปี ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานอายุประมาณ 30-39 ปี มีหลากหลายอาชีพ เหตุผลส่วนใหญ่ที่เลือกใช้บริการยานพาหนะผ่านทางแอปพลิเคชั่น
เนื่องจากกระบวนการให้บริการ
และความสะดวกสบายต่อการเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น
Ride-Hailing กับ
ปัญหาขาดกฎหมายรองรับ
ปัญหาหลักของ Ride-Hailing
(ซึ่งถูกควบคุมดูแลภายใต้บริษัทเอกชนส่วนใหญ่) ที่กำลังทำให้นักลงทุนรายใหญ่ไปจนถึงรายย่อยยังคงกังวลใจมีเพียงไม่กี่ประการ
หลักๆ คือภายในประเทศไทยยังคงมีปัญหาเรื่องขาดกฎหมายรองรับ
ทำให้ยังคงเป็นเรื่องถกเถียงกันอยู่ว่า การให้บริการยานพาหนะผ่านแอปพลิเคชั่นแบบ Ride-Hailing สามารถทำได้หรือไม่ เพราะยังไม่มีกฎหมายและมาตรการของภาครัฐมารองรับเหมือนกับกลุ่มผู้ให้บริการขับรถแท็กซี่
ในขณะที่หลากหลายประเทศ
รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านต่างมีกฎหมายรับรองเรียบร้อยแล้ว ประชาชนกว่า 77.24% จึงกล่าวว่า
ควรมีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
เพื่อให้มีมาตรการและหน่วยงานมาคอยกำกับดูแลส่วนหนึ่ง เช่น มาตรฐานความปลอดภัย,
มาตรฐานผู้ขับขี่และรถยนต์, มาตรฐานการให้บริการและเทคโนโลยี, การกำหนดราคา
และผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ฯลฯ
*สำหรับผู้สนใจศึกษาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ทางกฎหมายและมาตรการเพิ่มเติม
: https://conc.tbs.tu.ac.th/userfiles/files/TU_Ride-hailing_Report.pdf*
การแข่งขันในตลาดบริการ Ride-Hailing ที่น่าจับตามอง
ปัจจุบันนี้ยังมีผู้ให้บริการแอปเรียกรถ
หรือ Ride-Hailing ไม่มากนัก
โดยการแข่งขันศึกชิงเจ้าตลาดต่างรุกกันอยู่ระหว่าง 2 ค่ายใหญ่ ได้แก่ Grab ผู้ครองตลาดอยู่ในปัจจุบัน ที่เข้าซื้อกิจการ Uber ไปเมื่อไม่นาน
กับ Go-Jek ผู้ให้บริการที่เติบโตไว เน้นราคาถูก
ตีตลาดด้วยการปรับราคาค่าบริการต่ำกว่า Grab 10-30% โดยยอดดาวน์โหลดรวมของแอปพลิเคชั่นทั้งคู่ยังถือว่า
ห่างกันไม่มากนัก
ทาง GRAB
เฉพาะผู้ใช้งานที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็มียอดสูงถึง 125
ล้านบัญชี ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานในประเทศไทยสูงที่สุด ส่วน Go-Jek (รู้จักในชื่อ GET ก่อนหน้านี้) ที่พึ่งเข้าไทยเมื่อไม่นานนี้
เพียงแค่อินโดนีเซียประเทศเดียวก็มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 108 ล้านบัญชี
มีผู้สนับสนุนเบื้องหลังเป็นองค์กรยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Tencent Holdings
และ JD.com ตามมาติดๆ ขนาดนี้
คงต้องลุ้นกันต่อไปว่า Grab จะครองเป็นเจ้าตลาดได้ตลอดไปหรือไม่
และจะมีผู้ให้บริการรายใดเข้ามาแข่งขันในตลาดประเทศไทยเพิ่มอีก
ถึงแม้ว่า ณ
เวลานี้จะยังไม่มีกฎหมายและมาตรการรองรับในประเทศไทย แต่ก็ได้มีการออกมายืนยันจากทางกรมขนส่งแล้วว่า
บริการเหล่านี้ไม่ผิดกฎหมาย อีกทั้งได้เริ่มมีการวางแนวทางร่างกฎหมายและมาตรการต่างๆ
รองรับไว้แล้ว เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้เราคงจะได้เห็นบริการ Ride-Hailing
กลายเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ไกลและแข่งขันกันอย่างสนุก ระหว่างภายในตลาดธุรกิจเดียวกันและธุรกิจขนส่ง-คมนาคมแบบอื่นๆ
เพิ่มเติมอย่างแน่นอน